หลังกินยาควรดื่มน้ำตามเพื่อช่วยให้ยาไม่ติดค้างในลำคอหรือหลอดอาหาร และให้ยาลงไปสู่กระเพาะและลำไส้ได้ดีขึ้น น้ำที่ดื่มหลังจากกินยาควรเป็นน้ำเปล่าจะดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาของยากับเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ไม่ใช่น้ำ
อย่างไรก็ตาม ยาบางชนิดสามารถดื่มน้ำผลไม้หรือน้ำอัดลมหรือนมแทนน้ำได้ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ไม่มีผลต่อความคงตัวของยาหรือไม่มีผลต่อการถูกดูดซึมของยาในทางเดินอาหาร แต่ยาบางชนิดเมื่อถูกกับกรดในน้ำผลไม้หรือน้ำอัดลมจะทำให้ยาสลายตัวได้ และมียาบางชนิดที่นมจะลดการดูดซึมของยา
ยาบางชนิดห้ามกินยาพร้อมนม ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ
- ยาลดการดูดซึมยา โดยยาจะจับกับแคลเซียมในนมกลายเป็นสารประกอบเชิงซ้อนทำให้การดูดซึมยาในทางเดินอาหารลดลง ตัวอย่างเช่น ยาปฏิชีวนะเททราไซคลีน (tetracycline) และ ดอกซีไซคลีน (doxycycline) แต่ยาดอกซีไซคลีนได้รับผลจากนมน้อยกว่าเททราไซคลีน นอกจากนี้ยังมียาต้านเชื้อแบคทีเรียกลุ่มควิโนโลน (quinolone) เช่น นอร์ฟลอกซาซิน (norfloxacin), ซิโปรฟลอกซาซิน (ciprofloxacin) และ โอฟลอกซาซิน (ofloxacin) เป็นต้น ดังนั้นต้องกินยาเหล่านี้ให้ห่างจากการดื่มนมอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
- นมอาจทำให้ระบบเคลือบป้องกันยาบางชนิดถูกทำลายก่อนเวลาที่เหมาะสม กล่าวคือ ยาบางชนิดถูกทำลายในสภาวะที่เป็นกรดจึงถูกเคลือบด้วยสารพิเศษที่ไม่ให้ละลายในกรด แต่ให้ละลายในด่าง โดยสารเคลือบนี้สามารถละลายในลำไส้ซึ่งมีในสภาพเป็นด่าง และทำให้เกิดการปลดปล่อยตัวยาออกมาได้ที่ลำไส้เล็ก หากกินยานี้พร้อมนมซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่างจะทำให้สารที่เคลือบยาไว้ละลายออกและปล่อยตัวยาออกมาก่อนในกระเพาะทำให้ยาถูกทำลายได้ ตัวอย่างยารูปแบบนี้ เช่น ยายับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะชื่อโอมิพราโซล (omeprazole) ดังนั้นต้องกินยาที่เคลือบแบบนี้ให้ห่างจากการดื่มนมอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
นอกจากนี้ผู้ป่วยที่ไม่สามารถกินอาหารทางปากได้ และได้รับอาหารทางสายยางทางจมูก หรือได้รับอาหารเข้าสู่กระเพาะอาหารหรือลำไส้โดยตรง ก็ต้องระวังเช่นกัน เพราะอาหารปั่นหรืออาหารทางการแพทย์ที่ให้ทางสายเหล่านี้อาจมีนมเป็นส่วนประกอบ และทำให้เกิดปัญหากับยาบางชนิดได้
ดังนั้น หลังจากกินยา หากท่านต้องการดื่มน้ำผลไม้ น้ำอัดลม หรือนมแทนน้ำ ควรสอบถามเภสัชกรให้แน่ใจก่อนว่าเครื่องดื่มเหล่านี้ไม่มีผลต่อยาที่ท่านจะกิน หากไม่แน่ใจให้ดื่มน้ำเปล่าจะเหมาะสมที่สุด
บทความโดย : รศ.ดร.ภญ.โพยม วงศ์ภูวรักษ์
ภาควิชาเภสัชกรรมคลินิก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
บรรณานุกรม
- สุชาดา ชุติมาวรพันธุ์, โพยม วงศ์ภูวรักษ์, อภิฤดีเหมะจุฑา. คู่มือทักษะเกณฑ์ความรู้ความสามารถทางวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม (พ.ศ.2550), สภาเภสัชกรรม.
- Lacy CF, Armstrong LL, Goldman MP, Lance LL. Drug Information Handbook: A Comprehensive Resource for All Clinicians and Healthcare Professionals. Ohio: Lexi Comp Inc;2008.
- Royal Pharmaceutical Society of Great Britain. British National Formulary 56, London: Pharmaceutical Press;2008.