อ่าน: 2565
Small_font Large_font

การใช้มอร์ฟีน สำหรับผู้ป่วย

มอร์ฟีน เป็นยาระงับปวด ที่ใช้ได้ผลดีในผู้ป่วยที่มีความปวดรุนแรงและเรื้อรัง ซึ่งเดิมมีอยู่ในรูปของยาฉีด ปัจจุบันมีการเตรียมยาชนิดรับประทาน เพื่อสะดวกในการใช้ระงับความปวด ได้มีการศึกษาในผู้ป่วยที่ใช้ยานี้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน พบว่าไม่ทำให้เกิดการติดยา หากมีการใช้อย่างถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์

ยามอร์ฟีนที่ใช้รับประทานในขณะนี้มี 2 รูปแบบ คือ

  1. มอร์ฟีนชนิดน้ำ
    • ชนิดน้ำเชื่อมขนาด 1 มิลลิกรัม/ซีซี
    • ชนิดเข้มข้นขนาด 20 มิลลิกรัม/ซีซี

  1. มอร์ฟีนชนิดแคปซูล ขนาด 20 มิลลิกรัม , 50 มิลลิกรัม และ 100 มิลลิกรัม

ข้อควรปฏิบัติในการใช้ยามอร์ฟีน

  1. ควรรับประทานยาตามเวลาที่กำหนดโดยเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลระงับปวด
  2. ยามอร์ฟีนน้ำ ควรรับประทานสม่ำเสมอทุก 4 ชั่วโมง คือ เวลา 6 น. , 10 น. , 14 น. , 18 น. , 22 น. และ 2 น. เพื่อให้ได้ผลการดูดซึมของยาสูงสุด ควรรับประทานยาขณะท้องว่าง ถ้าผู้ป่วยต้องการพักผ่อนอาจเว้นการใช้ยามื้อ 2 น. แล้วรับประทานยาเป็นสองเท่าในมื้อ 22 น.
  3. ยามอร์ฟีนชนิดแคปซูล ออกฤทธิ์นานกว่า ดังนั้นจึงสามารถรับประทานได้ทุก 12 หรือ 24 ชั่วโมง ยาชนิดนี้ห้ามแบ่งใช้ ห้ามเคี้ยว แต่สามารถแกะแคปซูลออกเพื่อผสมน้ำให้ทางสายยางให้อาหารได้ หลังให้ยาควรตามด้วยน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ยาค้างอยู่ในสายยางให้อาหาร เพราะจะทำให้ได้ปริมาณยาไม่ครบตามต้องการ
  4. ควรประเมินผลภายหลังการใช้ยาประมาณ 2-3 สัปดาห์ เพราะในระยะแรกขนาดของยาที่เริ่มใช้อาจยังไม่เหมาะสม จำเป็นต้องปรับปริมาณการใช้ ไม่ควรงดหรือลดยาเอง หากสงสัยควรปรึกษาแพทย์และพยาบาล
  5. ควรรับประทานยาตามเวลา ไม่ควรรับประทานยาเฉพาะเวลาปวด และใช้ในขนาดที่แนะนำ การตวงยาน้ำควรใช้ช้อนตวงของโรงพยาบาล หรือกระบอกฉีดยา ดูดยาตามขนาดที่แพทย์หรือพยาบาลแนะนำ ห้ามรับประทานยาจากขวดยาโดยตรง เพราะจะทำให้ได้ขนาดยาไม่แน่นอน ทำให้การระงับปวดไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
  6. ถ้าลืมรับประทานยา ควรรับประทานทันทีที่นึกได้ และรับประทานครั้งต่อไปตามเวลาที่กำหนด ไม่ควรกำหนดเวลาเองเพราะจะทำให้สับสน
  7. ควรตรวจเช็ค ชนิดและขนาดยาที่รับประทานทุกครั้ง รวมทั้งวิธีใช้ที่ถูกต้อง หากมีข้อสงสัยให้กลับไปสอบถามแพทย์ที่ให้การรักษา

อาการข้างเคียงที่พบได้

  1. ง่วงซึมหรือนอนหลับทั้งวัน ส่วนใหญ่อาการนี้จะหายไปภายใน 2-3 วันแรกหลังการใช้ยา หากพบว่านอนหลับมากผิดปกติ ให้รีบปรึกษาแพทย์
  2. คลื่นไส้ อาเจียน อาการนี้อาจพบได้ในระยะแรกที่ได้รับยา ถ้ามีอาการมากให้รีบปรึกษาแพทย์
  3. ท้องผูก เป็นอาการที่พบได้บ่อย ควรป้องกันโดยรับประทานอาหารที่มีกาก ดื่มน้ำมากๆ และอาจจำเป็นต้องรับประทานยาระบาย

ถ้าพบอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น ผื่น คัน ท้องเสีย สับสน ควรรีบปรึกษาแพทย์ หรือพยาบาล

ที่มา
หน่วยระงับปวด
ภาควิชาวิสัญญีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
มหาวิทยาลัยมหิดล

: กาย
: บทความสุขภาพ
: สุขภาพ

พรรณภัทร 11 ก.พ. 2553 12 ก.พ. 2553
ความคิดเห็น (0)
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
captcha
 
ยกเลิก หรือ

หมายเหตุ เว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาวะ ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หรือ ถาม-ตอบปัญหาสุขภาพ หากมีปัญหาสุขภาพโปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ

เพื่อนแนะนำ : เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย, เราชนะรอบ 4, ยืมเงิน 3000 ด่วน, แอพผ่อนของ, กู้เงิน, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อไม่เช็ค บูโรถูกกฎหมาย