น้ำส้ม
สาร Naringenin, a flavonoid ในน้ำส้มช่วยรักษาสมดุลความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ และช่วยป้องกันอาการเสื่อมประสิทธิภาพของร่างกายในการเผาผลาญพลังงาน
การวิจัยพบว่าการดื่มน้ำส้มก่อนรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ ช่วยลดน้ำหนักได้ 31.2 – 10 ออนซ์ ภายในระยะเวลาสามเดือน จากการศึกษาในมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ข้อแนะนำ: การดื่มส้มทุก ๆ เช้า ช่วยกระตุ้นให้ตับเริ่มกระบวนการเผาผลาญพลังงาน และนอกจากนี้ปรึกษาแพทย์ในการดื่มน้ำส้ม แทนการใช้ยา statins หรือ warfarin อาจเป็นหนทางหนึ่งที่คุณไม่ต้องรับประทานยาเหล่านี้อีกต่อไป
ชาเขียว
ชาเขียวช่วยเร่งความเร็วในการเผาผลาญพลังงานของร่างกายถึง 40% การดื่มทั้งในแบบร้อนและเย็นสามารถทำให้ส่วนประกอบของสารคาเฟอีนและฟลาโวนอยในชา จะช่วยเร่งกระบวนการดังกล่าว
ข้อแนะนำ: ดื่มชาวันละ 2 – 3 ถ้วยต่อวัน จะช่วยให้กระบวนการเผาผลาญพลังงานของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
พริก
สาร Capsaicin ที่มีคุณลักษณะเผ็ดร้อน จะช่วยเร้งกระบวนการเผาผลาญพลังงานถึง 25% และช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้คุณรู้สึกอิ่มอย่างยาวนาน
ข้อแนะนำ: เพิ่มพริกลงไปในจานสลัดเพียงเล็กน้อย ช่วยลดปริมาณอาหารที่จะรับประทานในจานหลักได้
อบเชย
การศึกษาวิจัยพบว่าอบเชยช่วยให้ลดการสร้างอินซูลินลง อินซูลินคือฮอร์โมนที่จะเปลี่ยนน้ำตาลในร่างกายไปเป็นไขมัน ดังนั้นเท่ากับว่าการรับประทานอบเชยช่วยลดไขมันลงได้ นอกจากนี้อบเชยยังช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น
ข้อแนะนำ: เหยาะอบเชยลงบนอาหารเช้า หรือกาแฟยามเช้าของคุณ ช่วยรักษาสมดุลระดับน้ำตาลในร่างกายได้
น้ำมันมะพร้าว
การทำอาหารโดยใช้น้ำมันมะพร้าวช่วยช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะมีปริมาณแคลอรี่น้อยกว่าน้ำในพืชชนิดอื่น ๆ นอกจากนี้น้ำมันมะพร้าวมีสถานะเป็นคาร์โบไฮเดรตที่จะถูกส่งไปเผาผลาญที่ตับทันที ที่สำคัญน้ำมันมะพร้าวยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อแนะนำ: เปลี่ยนมาใช้น้ำมันมะพร้าวในการทำอาหารแทนน้ำมันประเภทอื่น ๆ
ข่าวจากการรายงานของ MainOnline