ผู้สูงอายุที่ดื่มชาเขียวหลายถ้วยต่อวันส่วนใหญ่มักจะมีอารมณ์ดี ซึ่งน่าจะเกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีในชาเขียวที่ร่างกายได้รับ นักวิจัยชาวญี่ปุ่นกล่าว

งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างชาเขียวกับปัญหาทางจิต ดร.ไคจัง นุย จากมหาวิทยาลัยโทโฮกุ (Dr. Kaijun Niu, of Tohoku University Graduate School) และทีมงานพบว่าหญิงและชายอายุ 70 ปีขึ้นไปที่ดื่มชาเขียวมากกว่า 4 ถ้วยต่อวัน มีโอกาสที่จะเป็นป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรคเครียดน้อยลงถึงร้อยละ 44

ชาเขียวนั้นเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นและจีน

ดร. นุยและคณะทำงานได้ทำการทดลองหาความสัมพันธ์ในผู้สูงอายุจำนวน 1,058 คน ทั้งชายและหญิง พบว่าผู้ชายประมาณร้อยละ 34 และผู้หญิงประมาณร้อยละ 39 มีอาการของโรคซึมเศร้า รายงานนี้ได้มาจากการตีพิมพ์ในนิตยสารคลินิก นิวทริชัน (Clinical Nutrition)

กลุ่มตัวอย่างจำนวน 488 ราย ดื่มชาเขียวประมาณวันละ 4 ถ้วยต่อวัน ในขณะที่อีกประมาณ 284 ราย ดื่มประมาณ 2 – 3 ถ้วยต่อวัน และกลุ่มอาสาสมัครที่เหลือดื่มน้อยกว่าหรือเท่ากับหนึ่งแก้วต่อวัน

จากการศึกษาวิจัยพบว่าชาเขียวนั้นทำให้อาการซึมเศร้าลดน้อยลง แต่ยังไม่รวมถึงสาเหตุปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าได้ เช่น ฐานะทางเศรษฐกิจ เพศ อาหาร ประวัติการรักษา ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ต่างมีผลต่อโรคนี้ได้ และจำเป็นต้องได้รับการควบคุม

ในขณะเดียวกันผลการศึกษาวิจัยนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกันระหว่างการดื่มชาดำ ชาอูหลง หรือกาแฟแต่อย่างใด

ในชาเขียวนั้นประกอบด้วยกรดอะมิโนเอซิดและสารแทนนิน ซึ่งสารเหล่านี้ทำให้สมองมีภาวะสงบเงียบลง โดยอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ช่วยลดอาการเครียดต่าง ๆ ลงได้

อย่างไรก็ตาม ผลการทดลองนี้ยังต้องการการศึกษาวิจัยเสริมเพื่อให้แน่ชัดในรายละเอียดและผลลัพธ์ว่าชาเขียวสามารถต่อต้านความเครียด และภาวะซึมเศร้าได้อย่างแท้จริง

ข่าวจาก: REUTERS