การสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่ทำร้ายตัวคุณเอง แต่มันยังส่งผลเสียต่อลูกของคุณด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกที่อยู่ในครรภ์
ผลงานวิจัยนำโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยน็อตติงแฮมและมหาวิทยาลัยในแคนานา 4 แห่ง ชี้ให้เห็นว่าเด็กที่มีคุณแม่สูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์มีแนวโน้มที่จะอ้วนเมื่อเติบโตขึ้นมากกว่าเด็กคนอื่นๆ ทั่วไป และเมื่อเด็กเติบโตเข้าสู่วัยรุ่นพบว่าจะมีไขมันสะสมบริเวณอวัยวะภายในมากขึ้น 3 เท่าและมีไขมันสะสมใต้ผิวหนังเพิ่มขึ้น 26%
เซนกา พอโซวา (Zdenka Pausova) หนึ่งในทีมผู้วิจัยกล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นเหตุผลสำคัญเพื่อเตือนให้หญิงตั้งครรภ์หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ซึ่งแม้ว่ายังไม่ทราบถึงกลไกที่แน่ชัด แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าสารนิโคตินในบุหรี่ มีผลเสียต่อร่างกายและหากเข้าสู่ร่างกายของเด็กในครรภ์จะทำให้เกิดการสะสมในร่างกายเด็กได้ยาวนานกว่าผู้เป็นแม่
นักวิจัยศึกษาจากวัยรุ่นกว่า 500 คนที่มีอายุระหว่าง 12-18 ปี ซึ่งจำนวนครึ่งหนึ่งเป็นเด็กที่ได้รับผลกระทบจากการสูบบุหรี่ของคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ พบว่าเด็กเหล่านี้มีน้ำหนักตัวขณะแรกเกิดน้อยกว่าเด็กคนอื่นๆ ประมาณ 300 กรัม เป็นเด็กที่ได้รับการให้นมแม่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ และมีแนวโน้มที่จะได้รับควันบุหรี่มือสองบ่อยกว่าเด็กคนอื่นๆ
นักวิจัยกล่าวว่าอัตราการป่วยเป็นโรคอ้วนในผู้ใหญ่เป็นเรื่องที่ควรให้ความสนใจ และยิ่งในปัจจุบันในปัจจุบันปัญหาความอ้วนในวัยรุ่นนับเป็นประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
งานวิจัยชิ้นนี้นับเป็นงานวิจัยชิ้นแรกที่พบความสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่ของมารดาขณะตั้งครรภ์กับน้ำหนักตัวของเด็กเมื่อเติบโตขึ้น
ข่าวจาก: MailOnline