ห่วงอนามัย เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ดีและนิยมใช้กันในปัจจุบันห่วงอนามัยมักมีขนาดเล็กโค้งงอได้ มีลวดทองแดงพัน หรือห่อหุ้มอยู่ใช้ใส่ในโพรงมดลูกของสตรีโดยผ่านทางช่องคลอด
การใส่ห่วงอนามัยเพียงครั้งเดียวสามารถคุมกำเนิดได้นาน 3-10 ปี แล้วแต่ชนิดของห่วงอนามัยที่ใส่
เป็นวิธีคุมกำเนิดชั่วคราว เมื่อต้องการมีบุตรอีกก็สามารถถอดห่วงอนามัยออกได้ง่าย และสามารถตั้งครรภ์ได้ในระยะเวลาอันสั้น
ป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างไร
ห่วงอนามัยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก เมือกในโพรงมดลูก และท่อนำไข่ทำให้ตัวอสุจิผ่านได้ยาก หรืออาจทำลายตัวอสุจิรวมทั้งไข่ที่ผสมแล้วอาจถูกทำลายหรือไม่สามารถฝังตัวได้
สตรีที่เหมาะจะใส่ห่วงอนามัย
- อยู่ระหว่างให้นมบุตร
- มีข้อห้ามในการใช้ ฮอร์โมนคุมกำเนิด เช่น สูบบุหรี่ ปวดศีรษะบ่อย ความดันโลหิตสูง เป็นต้น
- มีปัญหาจากการคุมกำเนิดวิธีอื่น เช่น ไม่สะดวกในการใช้ถุงยางอนามัย ลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดบ่อยๆหรือมักลืมไปฉีดยาคุมกำเนิดตามนัด
- ไม่ต้องการบุตรแล้วและไม่ต้องการใช้วิธีคุมกำเนิดถาวร
เวลาที่เหมาะสมในการใส่ห่วงอนามัย
- ใส่ได้ทันทีแน่ใจว่าไม่ตั้งครรภ์หรือใส่ในวันที่ระดูใกล้หมด
- ใส่ 6-8 สัปดาห์หลังคลอด
- ใส่ได้ทันทีหลังแท้งในไตรมาสแรกถ้าไม่มีการติดเชื้อ
- ใส่ 6-8 สัปดาห์หลังแท้งในไตรมาสที่สองถ้าไม่มีการติดเชื้อ
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
2-3 วันแรกหลังใส่ห่วงอนามัย อาจเกิดอาการ ปวดท้องน้อยหรือปวดเกร็งบริเวณท้องน้อย มีเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อย หรือ เลือกออกกะปริดกะปรอย
3-4 วันแรกหลังใส่ห่วงอนามัย อาจจะมีอาการผิดปกติ ได้แก่ ประจำเดือนออกมาก และนานกว่า อาจมีปวดท้องน้อยขณะมีระดู และอาจมีตกขาวเพิ่มขึ้น หลังจากนั้นอาการต่างๆ จะหายไป
อาการผิดปกติที่ควรมาพบแพทย์
- ระดูขาด ระดูกะปริดกะปรอย ระดูออกผิดปกติหรือสงสัยว่าตั้งครรภ์
- ปวดท้องน้อยเพิ่มขึ้นหรือปวดขณะร่วมเพศ
- ตกขาวสีผิดปกติ หรือมีกลิ่นเหม็น
- รู้สึกไม่สบาย มีไข้หนาวสั่น
ข้อปฏิบัติหลังใส่ห่วงอนามัย
ประสิทธิภาพของห่วงอนามัยขึ้นอยู่กับตำแหน่งของห่วงอนามัยในโพรงมดลูก ถ้าอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดี
สตรีที่ใส่ห่วงจึงควรตรวจสายห่วงเองที่บ้านทุกเดือน ๆ ละ 1 ครั้งหลังระดูหมด 2-3 วัน โดยล้างมือให้สะอาด ใช้มือข้างที่ถนัด ทำมือดังรูป ก. สอดนิ้วกลางเข้าในช่องคลอด เพื่อคลำหาสายห่วงที่บริเวณปากมดลูก ดูรูป ข. ถ้าคลำสายห่วงไม่พบสายห่วงสั้นหรือยาวกว่าปกติ คลำพบส่วนของห่วงหรือพบว่าห่วงเลื่อนหรือหลุด ควรรีบกลับมาพบแพทย์ โดยงดร่วมเพศหรือใช้ถุงยางอนามัยไปก่อนจนกว่าจะเปลี่ยนห่วงอนามัยอันใหม่
ให้มาพบแพทย์ตามนัด หรือเมื่อครบ 2 เดือนหลังใส่ห่วงอนามัย หลังจากนั้น ปีละครั้งเพื่อตรวจภายใน ตรวจห่วงอนามัย และตรวจหามะเร็งปากมดลูก
ข้อมูลจาก: โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
เพื่อนสนิทท้องลูกคนที่สามทั้งๆที่ใส่ห่วง