อ่าน: 531
Cytarabine (Ara-C) (ไซทาราบีน (อารา-ซี))
ไซทาราบีนหรืออารา-ซี (cytarabine or ara-C) เป็นยาที่มีโครงสร้างทางเคมีคล้ายกับเบสไซโทซีน (cytosine base) ซึ่งต่อกับน้ำตาลอาราบิโนส (arabinose) เริ่มแรกยานี้สกัดได้จากฟองน้ำ (สัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง) แต่ในปัจจุบันใช้วิธีการสังเคราะห์ทั้งหมด
- ไซทาราบีนถูกเปลี่ยนเป็นสารออกฤทธิ์ในรูปของไทรฟอสเฟตคือ อารา-ซีทีพี (ara-CTP) ภายในเซลล์มะเร็ง ซึ่งออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์โพลีเมอเรส (polymerase) ที่ทำหน้าที่ในการต่อสายดีเอ็นเอ(DNA) ให้ยาวออกไป นอกจากนี้ยังรวมเข้ากับสายดีเอ็นเอโดยตรงทำให้ยับยั้งกระบวนการถ่ายแบบดีเอ็นเอ (DNA replication) และทำหน้าที่ในการหยุดยั้งการเรียงต่อของลำดับเบสของดีเอ็นเอ (chain terminator) ดังนั้นไซทาราบีนจึงทำลายเซลล์มะเร็งโดยการขัดขวางการสร้างดีเอ็นเอนั่นเอง
- ไซทาราบีน (cytarabine) ใช้ร่วมกับยาอื่นเพื่อการชักนำให้โรคสงบอย่างสมบูรณ์ในมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดไม่ใช่ลิมโฟไซต์แบบเฉียบพลัน (remission induction in acute non-lymphocytic leukemia) และพบว่ายังมีประโยชน์ในการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์แบบเฉียบพลัน (acute lymphocytic leukemia) และระยะตัวอ่อนของมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดมัยอีลอยด์แบบเฉียบพลัน (blast phase of chronic myelocytic leukemia) และใช้ฉีดเข้าไขสันหลังเพื่อป้องกันอาการทางระบบประสาทส่วนกลางของมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้
ยานี้อาจใช้เพื่อรักษาโรคมะเร็งอื่น ๆ ได้อีก ดังนั้นหากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆหรือมี ประวัติการแพ้ไซทาราบีน (cytarabine) หรือ ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่น ๆ เช่น อาหาร, สารกันเสีย, สี เป็นต้น
- ยาเคมีบำบัดมีผลต่อไขกระดูกทำให้มีการสร้างเม็ดเลือดขาวลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย ควรรับประทานอาหารที่สะอาด และปรุงสุกเเล้วใหม่ ๆ ควรงดรับประทานผักสด หรือผลไม้ที่รับประทานทั้งเปลือก หากต้องการรับประทานควรล้างให้สะอาดและปอกเปลือกก่อนรับประทาน
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ระหว่างใช้ยานี้
ABCDX
รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'D' สำหรับสตรีมีครรภ์
ยามีความเสี่ยงในการก่อให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตาม อาจใช้ยานี้ได้ หากพิจารณาแล้วว่าประโยชน์จากการใช้ยามีมากกว่าความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ ดังนั้นการพิจารณาใช้ยาให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์
โปรดแจ้งแก่แพทย์หากกำลังวางแผนจะมีบุตร เนื่องจากไซทาราบีน (cytarabine) อาจทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิตหรือเกิดทารกพิการหรือทารกวิรูปได้เมื่อให้ยาในหญิงตั้งครรภ์
ไซทาราบีนทำให้เกิดความผิดปกติของการพัฒนาสมองในตัวอ่อนของหนูแฮมสเตอร์ และเกิดตัวอ่อนพิการในหนูทดลอง
โปรดแจ้งแก่แพทย์หากท่านกำลังให้นมบุตร หรือตั้งใจจะให้นมบุตรในระหว่างที่ได้รับยาไซทาราบีน (cytarabine) เนื่องจากยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง จึงไม่แนะนำให้ทารกได้รับน้ำนมมารดาระหว่างใช้ยานี้
- ไม่มีข้อมูลจำเพาะที่เปรียบเทียบการใช้ยาไซทาราบีน (cytarabine) ในเด็กกับวัยอื่น ๆ
- ตัวทำละลายยาที่มากับผลิตภัณฑ์อาจมีสารกันเสียเบนซิลแอลกอฮอล์ (benzyl alcohol) ซึ่งไม่แนะนำให้ใช้ในเด็กแรกเกิด เนื่องจากมีรายงานว่าทำให้เกิดกลุ่มอาการแกสพิง (gasping syndrome) ซึ่งมีอาการอ้าปากหายใจ, หอบ, ความดันต่ำ, หัวใจเต้นช้าลง และ ภาวะหัวใจร่วมหลอดเลือดล้มเหลว
ยาหลายชนิดยังไม่มีการศึกษาในผู้สูงอายุ ดังนั้นจึงยังไม่ทราบการทำงานที่แท้จริงของยาว่ามีการทำงานเช่นเดียวกันกับในผู้ป่วยวัยอื่นหรือไม่ รวมทั้งยังไม่ทราบว่ายานี้ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์, ปัญหาใด ๆ ที่แตกต่างกันในผู้สูงอายุหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปรียบเทียบการใช้ยาไซทาราบีน (cytarabine) ในผู้สูงอายุกับวัยอื่น ๆ
ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้ร่วมอยู่ด้วย
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดตัวเป็น (influenza virus vaccine, live) |
วัคซีนโรคหัดชนิดตัวเป็น (measles virus vaccine, live) |
วัคซีนโรคคางทูมชนิดตัวเป็น (mumps virus vaccine, live) |
วัคซีนโรคโปลิโอชนิดตัวเป็น (poliovirus vaccine, live) |
วัคซีนโรตาไวรัสชนิดตัวเป็น (rotavirus vaccine, live) |
วัคซีนโรคหัดเยอรมันชนิดตัวเป็น (rubella virus vaccine, live) |
วัคซีนไทฟอยด์ชนิดตัวเป็น (typhoid vaccine, live) |
วัคซีนป้องกันวัณโรค (BCG vaccine) |
วัคซีนโรคฝีดาษ (smallpox vaccine) |
วัคซีนโรคอีสุกอีใส (varicella virus vaccine) |
วัคซีนไข้เหลือง (yellow fever vaccine) |
แอมโฟเทอริซิน บี (amphophotericin B) |
ยาต้านไทรอยด์ (antithyroid agents) |
แอซาไทโอพรีน (azathioprine) |
คอลชิซีน (colchicines) |
แกนไซโคลเวียร์ (ganciclovir) |
อินเทอเฟียรอน (interferon) |
พลามัยซิน (plicamycin) |
คลอแรมบิวซิล (chlorambucil) |
คอร์ติโคสเตียรอยด์ (corticosteroids) |
ไซโคลสพอริน (cyclosporine) |
เมอร์แคปโทพิวรีน (mercaptopurine) |
แทโครลิมุส (tacrolimus) |
โพรเบเนซิด (probenecid) |
ซัลฟินไพราโซน (sulfinpyrazone) |
คลอแรมเฟนิคอล (chloramphenicol) |
เลวาไมซอล (levamisole) |
ไทแอมเฟนิคอล (thiamphenicol) |
ไซโดวูดีน (zidovudine) |
ฟลูไซโทซีน (fucytosine) |
ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ยาไซทาราบีน (cytarabine) ท่านควรแจ้งแพทย์หากท่านมีภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น
- โรคอีสุกอีใส อาจทำให้โรครุนแรงขึ้น
- โรคงูสวัด อาจทำให้โรครุนแรงขึ้น
- โรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
- โรคติดเชื้อต่างๆ ยาไซทาราบีน (cytarabine) จะลดภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- โรคตับหรือไต
- โรคเกาต์ (gout) หรือ นิ่วในไต (kidney stone) – ยาไซทาราบีน (cytarabine) ทำให้กรดยูริกในร่างกายเพิ่มขึ้น อาจทำให้โรคเกาต์กำเริบ หรือเกิดนิ่วได้
ยามีจำหน่ายในรูปแบบยาฉีด
- ยานี้ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์
- ระหว่างได้รับยานี้ ท่านควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรอย่างเคร่งครัด
- ยาไซทาราบีน (cytarabine) แบบฉีดที่ไม่มีส่วนประกอบของสารกันเสีย อาจใช้ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ (intravenous) หรือฉีดเข้าไขสันหลัง (intrathecal) แต่สำหรับยาที่มีสารกันเสียเบนซิลแอลกอออล์ (benzyl alcohol) ไม่ควรใช้ฉีดเข้าไขสันหลังหรือฉีดในขนาดยาสูง ๆ เภสัชกรผู้เตรียมยาจะทำการตรวจสอบว่ามีอนุภาคใดๆ หรือยามีการเปลี่ยนสีไปจากเดิมหรือไม่ ก่อนที่ยาจะถูกนำมาฉีดให้กับท่านโดยพยาบาลหรือแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญในการให้ยาเคมีบำบัด
- หากท่านได้รับยาด้วยวิธีฉีดเข้าไขสันหลัง โดยส่วนใหญ่จะใช้น้ำไขสันหลังของผู้ป่วย หรือน้ำเกลือโซเดียมคลอไรด์ 0.9 % สำหรับฉีด เป็นตัวทำละลายยา และฉีดยาทันทีหลังจากเตรียมยาเสร็จ
- ยาไซทาราบีน (cytarabine) อาจทำให้ท่านมีอาการคลื่นไส้อาเจียน
- ควรมาตรวจตามแพทย์นัดเพื่อติดตามผลการรักษาเป็นระยะ และให้ได้รับยาตามแผนการรักษา การได้ยาไม่ครบ หรือระยะเวลาไม่ตรงกำหนด ก่อให้เกิดผลเสียต่อการรักษา ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องเลื่อนระยะเวลาการให้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง
ขนาดยาของยาไซทาราบีน (cytarabine) ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น น้ำหนัก ส่วนสูงของผู้ป่วย ชนิดและระยะของโรคมะเร็งที่ผู้ป่วยเป็น รวมทั้งผลการตอบสนองต่อยาของผู้ป่วยแต่ละราย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้วิเคราะห์ แนะนำ และกำหนดเวลา และมีเภสัชกรผู้เตรียมยาเคมีบำบัด ตรวจสอบขนาดยาที่ท่านได้รับ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ป่วย นอกจากนี้ความถี่ของการให้ยาไซทาราบีน อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสูตรยาที่ใช้ และสภาพร่างกายของผู้ป่วย เช่น ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน บางครั้งอาจต้องหยุดยาชั่วคราว เพื่อให้ร่างกายมีเวลาพัก และซ่อมแซมเซลล์ปกติให้แข็งแรงพอที่จะให้ยาในครั้งต่อไปได้
มารับยาตามแพทย์นัด เพื่อให้ได้ยาตามแผนการรักษา การได้ยาไม่ครบ หรือระยะเวลาไม่ตรงกำหนด อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อการรักษา ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องเลื่อนระยะเวลาการให้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง
เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง และป้องกันแสง
ควรติดตามผลการรักษาเป็นระยะ โดยมาตรวจตามแพทย์นัด และรับยาตามแผนการรักษา การได้ยาไม่ครบ หรือระยะเวลาไม่ตรงกำหนด ก่อให้เกิดผลเสียต่อการรักษา ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องเลื่อนระยะเวลาการให้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง
- ยาไซทาราบีน (cytarabine) มีผลต่อไขกระดูกทำให้มีการสร้างเม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด และเม็ดเลือดแดงลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย หรือภาวะเลือดออกง่าย ควรใช้ยาด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยที่ได้รับยาที่กดไขกระดูกร่วมด้วย
- ควรหลีกเลี่ยงการพบปะกับคนที่เป็นหวัด หัด สุกใส วัณโรค มีไข้ หรือติดเชื้ออื่น ๆ หากมีอาการผิดปกติ ได้แก่ ไข้สูง หนาวสั่น ปัสสาวะแสบขัด เจ็บคอ ท้องร่วง เหนื่อยหอบผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ และแจ้งแพทย์ทุกครั้งว่าท่านกำลังรักษาด้วยยาเคมีบำบัดอยู่
- ระหว่างที่ได้รับการรักษาด้วยยาไซทาราบีน (cytarabine) ท่านไม่ควรได้รับวัคซีนใดๆ โดยไม่ได้แจ้งแพทย์ เนื่องจากยาทำให้ภูมิคุ้มกันของท่านลดลง และมีโอกาสติดเชื้อจากวัคซีนที่ท่านได้รับ นอกจากนี้บุคคลที่ท่านอาศัยอยู่ด้วยก็ไม่ควรได้รับวัคซีนโปลิโอ เพราะอาจทำให้ท่านได้รับเชื้อไวรัสโปลิโอได้
- ควรพบแพทย์ทันทีถ้าท่านมีเลือดออกผิดปกติ ปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นเลือด ควรระมัดระวังการใช้ไหมขัดฟัน หรือไม้จิ้มฟัน และแจ้งทันตแพทย์ทุกครั้งว่าใช้ยานี้อยู่
- มีรายงานว่าผู้ป่วยที่ได้รับยาไซทาราบีน (cytarabine) ร่วมกับไซโคลฟอสฟาไมด์ (cyclophosphamide) ในขนาดยาที่สูงเพื่อเตรียมสำหรับการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก อาจทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจ (cardiomyopathy) และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
- มีรายงานการเกิดกลุ่มอาการหายใจอึดอัดทันทีทันใด (syndrome of sudden respiratory distress) โดยเกิดอาการปอดบวมน้ำ (pulmonary edema) อย่างรวดเร็ว และภาวะหัวใจโต (cardiomegaly) ในผู้ป่วยที่ใช้ยาไซทาราบีนสำหรับรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวที่กลับเป็นซ้ำ จำนวน 16 คนจาก 72 คน
- ผู้ป่วยที่มีการทำงานของตับ หรือไตบกพร่อง อาจเพิ่มการเกิดอาการพิษต่อระบบประสาทส่วนกลาง หลังจากที่ได้รับยาในขนาดที่สูง แพทย์อาจทำการปรับลดขนาดยาในผู้ป่วยเหล่านี้
- ไซทาราบีน (cytarabine) อาจเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะกรดยูริกในเลือดสูง (hyperuricemia) จากการที่ยาไปทำลายเซลล์มะเร็ง แพทย์อาจทำการติดตามระดับกรดยูริกในเลือด และให้ยาเพื่อขับกรดยูริกออกจากร่างกาย
ยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์บางอย่างที่ไม่ต้องการ ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับผู้ใช้ยาทุกราย แต่หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ก. พบแพทย์ทันหากมีอาการต่อไปนี้
- กลุ่มอาการไซทาราบีน (อารา-ซี) (the cytarabine (Ara-C) syndrome) : มีไข้, ปวดกล้ามเนื้อ, ปวดกระดูก, เจ็บหน้าอกเป็นบางครั้ง ,มีผื่นนูนปนกับผื่นราบ (maculopapular rash), เยื่อบุตาอักเสบ (conjunctivitis) โดยมักเกิดภายใน 6-12 ชั่วโมงหลังให้ยา หากท่านมีอาการเหล่านี้ให้แจ้งแพทย์ แพทย์อาจให้ยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตอรอยด์เพื่อรักษาหรือป้องกันอาการเหล่านี้ หรือหยุดยาไซทาราบีนหากคอร์ติโคสเตอรอยด์ใช้ไม่ได้ผล
พบน้อย
- อุจจาระดำ, ปัสสาวะเป็นเลือด, ไอหรือเสียงแหบ, ไข้ หรือสั่น , ปวดบั้นเอว, ปัสสาวะขัด, มีจุดแดงบนผิวหนัง, เลือดออกผิดปกติหรือมีจ้ำเลือด
ข. พบแพทย์โดยด่วน หากมีอาการต่อไปนี้
พบบ่อย
พบน้อย
- ปวดข้อ, ชาปลายมือ ปลายเท้า หรือหน้า, ขาบวม, เหนื่อยง่าย
- ปวดกระดูก หรือกล้ามเนื้อ, เจ็บหน้าอก, ปัสสาวะลดลง, กลืนลำบาก, อ่อนเพลีย, แสบร้อนยอดอก, หัวใจเต้นผิดจังหวะ, เจ็บบริเวณที่ฉีด, ผื่นผิวหนัง, ตัวเหลือง ตาเหลือง
ค. อาการไม่พึงประสงค์งอื่น ๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาหรือหยุดยาไปแล้วเนื่อง จากร่างกายจะปรับตัวเข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนาน หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน
พบบ่อย
- เบื่ออาหาร, คลื่นไส้ อาเจียน
พบน้อยหรือน้อยมาก
- ท้องร่วง, เวียนศีรษะ, ปวดศีรษะ, คันผิวหนัง, ตกกระ
ยานี้อาจทำให้ผมร่วงขณะใช้ยา หลังจากหยุดยาแล้วผมจะกลับมางอกตามปกติ
ง. อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย หากท่านสังเกตเห็นอาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้
ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้
Azacitidine, Capecitabine, Cladribine , Decitabine, Fludarabine , Fluorouracil (5-FU) , Gemcitabine, Mercaptopurine or 6-Mercaptopurine (6-MP) , Methotrexate , Pemetrexed, Tegafur and Uracil , Thioguanine or 6-Thioguanine
ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้
Cytosar CS injection, Cytosar (500 mg) injection, Cytosar (100 mg) injection, Alexan (50 mg/ml) injection, Cytarine injection (ไซตารีน ยาฉีด), Cytarabine injection, Alexan (20 mg/ml) injection
ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว
ยานี้มีชื่อภาษาไทยอื่นที่มีการใช้ดังต่อไปนี้
ไซตาราบีน หรือ อารา-ซี
ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อภาษาไทยอื่นที่อาจมีการใช้ ซึ่งไม่ได้แสดงในนี้
- กองควบคุมยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข. สืบค้นทะเบียนยาสามัญสำหรับยาเดี่ยว. Cytarabine. Available at: http://wwwapp1.fda.moph.go.th/ed2547/?url=14 Access Date: June 12, 2010.
- วิลาวัณย์ พิชัยรัตน์ และ สมสมัย สุธีรศานต์. การดูแลตนเองเมื่อได้รับยาเคมีบำบัด [สำหรับผู้ป่วยเเละครอบครัว] พิมพ์ครั้งที่ 2 . โรงพยาบาลสงขลานครินทร์. 2552 หน้า 5-19
- Dailymed current medication information . Cytarabine Available at: http://dailymed.nlm.nih.gov/dailymed/drugInfo.cfm?id=14062#nlm34070-3 Date: June 15, 2010.
- Medina PJ and Fausel C. Cancer Treatment and Chemotherapy. In : DiPiro JT, Talbert RL, Yee GC, Matzke GR, Wells BG and Posey LM , editors.PharmacotherapyA Pathophysiologic Approach 7th ed. New York: McGraw-Hill; 2008. p. 2085-2108.
- MedlinePlus Trusted Health Information for You. Cytarabine Available at http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/drug_Aa.html. Access Date: March 17, 2005.