Methotrexate

คำอธิบายโดยสังเขป

เมโทเทรกเซต (methotrexate) หรือย่อว่า เอ็มทีเอกซ์ (MTX) เป็นยาที่มีโครงสร้างทางเคมีคล้ายกับกรดโฟลิก (folic acid analogue) ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไดไฮโดรโฟเลต รีดักเทส (dihydrofolate reductase) ทำให้ลดการสร้างสารที่มีความจำเป็นต่อการสร้างเบสเพียวรีน (purine base) ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในการสร้างดีเอ็นเอ (DNA) นอกจากนั้นยังยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทมิดิเลต ซินเทส (thymidilate syntase) ซึ่งทำหน้าที่เติมหมู่เมทิล (methyl group) ให้กับเบสยูราซิล (uracil base) ให้กลายเป็นไทมีน (thymine) ที่จะถูกใช้ในกระบวนการสร้างสายดีเอ็นเอต่อไป ดังนั้นเมโทเทรกเซตจึงทำลายเซลล์โดยการขัดขวางการสร้างดีเอ็นเอนั่นเอง
เมโทเทรกเซตใช้รักษาโรคต่าง ๆ ดังนี้

โรคมะเร็งต่าง ๆ
  • เมโทเทรกเซตใช้สำหรับรักษาโรคมะเร็งได้หลายชนิด เช่น มะเร็งถุงน้ำคร่ำขณะตั้งครรภ์ (gestational choriocarcinoma), ครรภ์ไข่ปลาอุก (hydatidiform mole), ใช้ร่วมกับยาอื่นสำหรับควบคุมอาการและป้องกันอาการทางระบบประสาทส่วนกลาง (central nervous system prophylaxis) ในมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์แบบแบบพลัน (acute lymphocytic leukemia) นอกจากนี้ยังใช้รักษาอาการทางระบบประสาทส่วนกลางในมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์แบบเฉียบพลันได้อีกด้วย

ยานี้อาจใช้เพื่อรักษาโรคมะเร็งอื่น ๆ ได้อีก ดังนั้นหากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร

โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis)
  • เมโทเทรกเซตใช้สำหรับควบคุมอาการโรคสะเก็ดเงิน ที่รุนแรง หรือดื้อต่อการรักษาด้วยวิธีอื่น

ข้ออักเสบรูมาทอยด์ (rheumatoid arthritis)

  • เมโทเทรกเซตใช้สำหรับข้ออักเสบรูมาทอยด์ในผู้ใหญ่ที่มีอาการรุนแรง หรือข้ออักเสบรูมาทอยด์ในเด็กที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่นที่เลือกเป็นอันดับแรก หรือทนต่อการรักษาอื่นหรือที่เลือกเป็นอันดับแรกไม่ได้

ก่อนการใช้ยา

การแพ้ยา

โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆหรือมี ประวัติการแพ้เมโทเทรกเซต (methotrexate) หรือ ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่นๆ เช่น อาหาร, สารกันเสีย, สี เป็นต้น

อาหารและเครื่องดื่มที่ต้องระวัง

  • ยาเคมีบำบัดมีผลต่อไขกระดูกทำให้มีการสร้างเม็ดเลือดขาวลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย ควรรับประทานอาหารที่สะอาด และปรุงสุกเเล้วใหม่ ๆ ควรงดรับประทานผักสด หรือผลไม้ที่รับประทานทั้งเปลือก หากต้องการรับประทานควรล้างให้สะอาดและปอกเปลือกก่อนรับประทาน
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากอาจเพิ่มอาการไม่พึงประสงค์ต่อตับ

ตั้งครรรภ์

รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'X' สำหรับสตรีมีครรภ์

จากการศึกษาในสัตว์หรือมนุษย์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ หรือมีหลักฐานชัดเจนจากการใช้ในมนุษย์ว่าเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้นห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์หรือในสตรีที่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์

โปรดแจ้งแก่แพทย์หากกำลังวางแผนจะมีบุตร เนื่องจากเมโทเทรกเซต (methotrexate) ทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิตหรือเกิดทารกวิรูปได้เมื่อให้ยาในหญิงตั้งครรภ์

ห้ามใช้ยานี้ในหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) หรือข้ออักเสบรูมาทอยด์ (rheumatoid arthritis) แต่อาจใช้ยานี้ในหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคมะเร็งในกรณีที่แพทย์พิจารณาแล้วว่ามีผลดีต่อมารดามากกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดต่อทารกในครรภ์

กำลังให้นมบุตร

โปรดแจ้งแก่แพทย์หากท่านกำลังให้นมบุตร หรือตั้งใจจะให้นมบุตรในระหว่างที่ได้รับยาเมโทเทรกเซต (methotrexate) เนื่องจากยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง จึงไม่แนะนำให้ทารกได้รับน้ำนมมารดาระหว่างใช้ยานี้

ผู้สูงอายุ

การใช้ยาในผู้ป่วยสูงอายุควรใช้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากผู้ป่วยสูงอายุมีการทำงานของตับและไตลดลง, มีการสร้างโฟเลตที่ลดลง, มักมีภาวะโรคร่วม หรือมักใช้ยาอื่น ๆ ร่วมด้วย ซึ่งอาจจะรบกวนการทำงานของไต

เนื่องจากการทำงานของตับและไตที่ลดลงอาจสัมพันธ์กับการเพิ่มอาการไม่พึงประสงค์จากยา ดังนั้นแพทย์ผู้ทำการรักษาจะทำการติดตามค่าการทำงานของตับ, ไต และภาวะกดไขกระดูกของยาอย่างใกล้ชิด ในผู้ป่วยที่ใช้ยาในระยะยาวแพทย์อาจให้โฟเลตเสริมแก่ผู้ป่วย เพื่อลดการเกิดพิษจากยา

ภาวะการกดไขกระดูก (bone marrow suppression), ภาวะเกล็ดเลือดน้อย (thrombocytopenia),โรคปอดอักเสบ (pneumonitis) จากยาเมโทเทรกเซต (methotrexate) อาจเพิ่มขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น

ยาอื่นที่ใช้อยู่

ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้ร่วมอยู่ด้วย

วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดตัวเป็น (influenza virus vaccine, live)
วัคซีนโรคโปลิโอชนิดตัวเป็น (poliovirus vaccine, live)
วัคซีนโรคหัดชนิดตัวเป็น (measles virus vaccine, live)
วัคซีนโรตาไวรัสชนิดตัวเป็น (rotavirus vaccine, live)
วัคซีนโรคหัดเยอรมันชนิดตัวเป็น (rubella virus vaccine, live)
วัคซีนโรคคางทูมชนิดตัวเป็น (mumps virus vaccine, live)
วัคซีนไทฟอยด์ชนิดตัวเป็น (typhoid vaccine, live)
วัคซีนป้องกันวัณโรค (BCG vaccine)
วัคซีนโรคอีสุกอีใส (varicella virus vaccine)
วัคซีนไข้เหลือง (yellow fever vaccine)
|แอซิทรีทิน (acitretin)
เอดาพาลีน (adapalene)
แอลโคลฟีแนค (alclofenac) แอลิเทรทิโนอิน (alitretinoin)
อะมิโอดาโรน (amiodarone) อะมอกซิซิลลิน(amoxicillin)
แอสพาราจิเนส (asparaginase) แอสไพริน (aspirin)
แอซาไทโอพรีน (azathioprine) บิสมัทซับซาลิซิเลต (bismuth subsalicylate)
คลอแรมเฟนิคอล (chloramphenicol) โคลีสไทรามีน (cholestyramine)
ซิโพรฟลอกซาซิน (ciprofloxacin) ไซโคลสพอริน(cyclosporine)
แดนโทรลีน (dantrolene) ไดโคลฟีแนค (diclofenac)
ไดฟลูนิซาล (diflunisal) ไดไพโรน (dipyrone)
ดอกซีซัยคลิน (doxycycline) ฟีโนโพรเฟน (feoprofen)
เฟลอบิโพรเฟน (flurbiprofen) กรดโฟลิค (folic acid)
ไฮโดรคลอโรไทอาไซด์(hydrochlorothiazide) ไอบิวโพรเฟน (ibuprofen)
อินโดเมทาซิน (indomethacin) ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin)
คีโทโพรเฟน (ketoprofen) คีโทโรแลค (ketorolac)
เลฟลูโนไมด์ (leflunomide) แอล-เมทิลดฟเลต (L-methylfolate)
|กรดมีฟีนามิค (mefenamic acid)
เมอร์แคปโทเพียวรีน (mercaptopurine)
เนบิวมีโทน (nabumetone) นาพรอกเซน (naproxen)
นีโอมัยซิน (neomycin) ไนเมซูไลด์ (nimesulide)
โอเมพราโซล (omeprazole) แพนโทพราโซล(pantoprazole)
เพนิซิลลินจี (penicillin G) เพนิซิลลินวี (penicillin V)
เฟนิลบิวทาโซน(phenylbutazone) เฟนิทอยน์ (phenytoin)
พิเพอราซิลลิน (piperacillin) ไพรอกซิแคม (piroxicam)
โพรเบเนซิด (probenecid) โพรคาร์บาซีน (procarbazine)
ไพริเมทามีน (pyrimethamine) โรฟีคอกซิบ(rofecoxib)
ซัลฟาเมทิโซล (sulfamethizole) ซัลฟาเมทอกซาโซล (sulfamethoxazole)
ซัลฟาไพริดีน (sulfapyridine) ซัลฟาซาลาซีน (sulfasalazine)
ซัลฟิซอกซาโซล (sulfisoxazole) ซูลินแดค (sulindac)
ทามอกซิเฟน (tamoxifen) เทนอกซิแคม (tenoxicam)
เททราซัยคลิน (tetracycline) ทีออฟิลลีน (theophylline)
เทรทิโนอิน (tretinoin) ไทรแอมเทอรีน (triamterene)
ไทรเมโทพริม (trimethoprim) วอร์ฟาริน (warfarin)

ภาวะโรคร่วม

ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ยาเมโทเทรกเซต (methotrexate) ท่านควรแจ้งแพทย์ หากท่านมีภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น

  • โรคพิษสุราเรื้อรัง อาจเพิ่มอาการไม่พึงประสงค์ต่อตับ
  • โรคอีสุกอีใส อาจทำให้โรครุนแรงขึ้น
  • โรคงูสวัด อาจทำให้โรครุนแรงขึ้น
  • ลำไส้ใหญ่อักเสบ (colitis)
  • โรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
  • ภาวะเลือดจาง อาจเพิ่มอาการไม่พึงประสงค์จากยา
  • ภาวะขาดโฟเลต อาจเพิ่มอาการไม่พึงประสงค์จากยา
  • โรคติดเชื้อต่าง ๆ เนื่องจากเมโทเทรกเซต (methotrexate) จะลดภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • ลำไส้อุดกั้น
  • โรคตับ หรือ ไต
  • โรคแผลในทางเดินอาหาร

การใช้ที่ถูกต้อง

ยานี้มีจำหน่ายในรูปแบบยาเม็ดรับประทาน และรูปแบบฉีด

  • ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ หรือเภสัชกรอย่างเคร่งครัด ไม่ควรลดหรือเพิ่มขนาดยาเอง และใช้ยาจนครบระยะเวลาการรักษา
  • ในระหว่างที่ใช้ยาเมโทเทรกเซต (methotrexate) ท่านต้องดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ (ประมาณ 2-3 ลิตรต่อวัน) เว้นแต่แพทย์ให้ท่านจำกัดการดิ่มน้ำ เพื่อช่วยให้ยาถูกขับออกมาทางปัสสาวะ และป้องกันอาการไม่พึงประสงค์ต่อไต และช่วยให้ไตทำงานได้ดี
  • ยาเมโทเทรกเซต (methotrexate) อาจทำให้ท่านมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ท่านไม่ควรหยุดใช้ยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์

ยารูปแบบรับประทาน
กลืนยาทั้งเม็ดแล้วดื่มน้ำตามมาก ๆ

ยาฉีด

  • ยาเมโทเทรกเซตแบบฉีดในรูปเกลือโซเดียม (methotrexate sodium) ที่ไม่มีส่วนประกอบของสารกันเสีย อาจใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (intramuscular), ฉีดเข้าหลอดเลือดแดง (intra-arterial), ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ (intravenous) หรือฉีดเข้าไขสันหลัง (intrathecal) แต่ชนิดที่มีสารกันเสียเบนซิลแอลกอฮอล์ (benzyl alcohol) นั้นไม่ควรใช้ฉีดเข้าไขสันหลังหรือฉีดในขนาดยาสูง ๆ เภสัชกรผู้เตรียมยาจะทำการตรวจสอบว่ามีอนุภาคใด ๆ หรือยามีการเปลี่ยนสีไปจากเดิมหรือไม่ ก่อนที่ยาจะถูกนำมาฉีดให้กับท่าน

ควรรับการตรวจเพื่อติดตามผลการรักษาเป็นระยะ โดยมาตรวจตามแพทย์นัด และให้ได้ยาตามแผนการรักษา การได้ยาไม่ครบ หรือระยะเวลาไม่ตรงกำหนด อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อการรักษา ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องเลื่อนระยะเวลาการให้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง

ขนาดยา

ขนาดยาของเมโทเทรกเซต (methotrexate) ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น น้ำหนัก, ส่วนสูงของผู้ป่วย, ชนิดและระยะของโรคมะเร็งที่ผู้ป่วยเป็น รวมทั้งผลการตอบสนองต่อยาของผู้ป่วยแต่ละราย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้วิเคราะห์ แนะนำ และกำหนดเวลา และมีเภสัชกรผู้เตรียมยาเคมีบำบัด ตรวจสอบขนาดยาที่ท่านได้รับ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ป่วย นอกจากนี้ความถี่ของการให้ยาเมโทเทรกเซต อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสูตรยาที่ใช้ และสภาพร่างกายของผู้ป่วย เช่น ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน บางครั้งอาจต้องหยุดยาชั่วคราว เพื่อให้ร่างกายมีเวลาพัก และซ่อมแซมเซลล์ปกติให้แข็งแรงพอที่จะให้ยาในครั้งต่อไปได้

เมื่อลืมใช้ยา

ยารับประทาน
หากท่านลืมรับประทานยาข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานยาต่อในมื้อถัดไปในขนาดยา ปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า และแจ้งให้แพทย์ทราบ

ยารูปแบบฉีด
มารับยาตามแพทย์นัด เพื่อให้ได้ยาตามแผนการรักษา การได้ยาไม่ครบ หรือระยะเวลาไม่ตรงกำหนด อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อการรักษา ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องเลื่อนระยะเวลาการให้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง

การเก็บรักษา

ยารับประทาน

  • เก็บในภาชนะปิดสนิทให้พ้นมือเด็ก
  • เก็บให้ห่างจากความร้อนและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
  • ห้ามเก็บยาไว้ในห้องน้ำ ใกล้อ่างล้างมือหรือที่ชื้น เนื่องจากความร้อนหรือความชื้นอาจเป็นสาเหตุให้ยาเสื่อมคุณภาพ
  • ทิ้งยาเมื่อยาหมดอายุ

ข้อควรระวัง

  • งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ขณะใช้ยานี้ เนื่องจากอาจเพิ่มอาการไม่พึงประสงค์ต่อตับ
  • การใช้ยาเมโทเทรกเซต (methotrexate) อาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสงมากขึ้น ซึ่งแสดงออกโดยผิวหนังแดงและอักเสบได้ง่ายเมื่อสัมผัสแสงแดด ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ต้องไม่สัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ควรสวมเสื้อผ้าที่ป้องกันแสงแดด แว่นตากันแดด ใช้ครีมกันแดดที่มีเอสพีเอฟ (SPF) 15 ขึ้นไป ควรรีบพบแพทย์ถ้ามีอาการรุนแรงขึ้น
  • ระหว่างที่ได้รับการรักษาด้วยยาเมโทเทรกเซต (methotrexate) ท่านไม่ควรได้รับวัคซีนใด ๆ โดยไม่ได้แจ้งแพทย์ เนื่องจากยาทำให้ภูมิคุ้มกันของท่านลดลง และมีโอกาสติดเชื้อจากวัคซีนที่ท่านได้รับ นอกจากนี้บุคคลที่ท่านอาศัยอยู่ด้วยก็ไม่ควรได้รับวัคซีนโปลิโอ เพราะอาจทำให้ท่านได้รับเชื้อไวรัสโปลิโอได้
  • ยาเมโทเทรกเซต (methotrexate) ถูกกำจัดออกจากร่างกายได้น้อยลงในผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตบกพร่อง, ท้องมาน (ascites) หรือมีน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด (pleural effusions) แพทย์ผู้รักษาจะทำการติดตามอาการพิษของยาอย่างใกล้ชิด และอาจลดขนาดยา หรือหยุดยาในผู้ป่วยบางราย
  • มีรายงานว่าพบการกดไขกระดูกอย่างรุนแรง, ภาวะพร่องเม็ดเลือดทุกชนิด (aplastic anemia) และอาการพิษต่อระบบทางเดินอาหาร ในผู้ที่ใช้ยาเมโทเทรกเซต (methotrexate) ร่วมกับยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตอรอยด์ [nonsteroidal anti-inflammatory drugs (NSAIDs)]
  • ยาเมโทเทรกเซต (methotrexate) อาจทำให้เกิดพิษต่อตับ เช่น ตับมีพังผืด และตับแข็ง อาการเหล่านี้มักพบเมื่อใช้ยาเป็นระยะเวลานาน อย่างไรก็ตาม อาจพบอาการพิษต่อตับแบบเฉียบพลัน โดยมีเอนไซม์ที่บ่งชี้ว่าตับมีการถูกทำลายสูงขึ้น แพทย์ผู้ทำการรักษาจะติดตามค่าการทำงานของตับอย่างใกล้ชิดในผู้ที่ได้รับยานี้
  • ยาเมโทเทรกเซต (methotrexate) ทำให้เกิดอาการพิษต่อปอด เช่น โรคปอดอักเสบแบบมีเนื้อเยื่อแทรกชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง (acute or chronic interstitial pneumonitis) ซึ่งจะไม่หายเป็นปกติเมื่อหยุดยา และอาจทำให้เสียชีวิตได้ หากมีอาการไอแห้ง ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ โปรดแจ้งแพทย์ผู้รักษา
  • ยาเมโทเทรกเซต (methotrexate) มีผลต่อไขกระดูกทำให้มีการสร้างเม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด และเม็ดเลือดแดงลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย หรือภาวะเลือดออกง่าย
  • ควรหลีกเลี่ยงการพบปะกับคนที่เป็นหวัด, หัด, อีสุกอีใส, วัณโรค, มีไข้ หรือติดเชื้ออื่น ๆ หากมีอาการผิดปกติ ได้แก่ ไข้สูง, หนาวสั่น, ปัสสาวะแสบขัด, เจ็บคอ, ท้องเสีย, เหนื่อยหอบผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ และแจ้งแพทย์ทุกครั้งว่าท่านกำลังรักษาด้วยยาเคมีบำบัดอยู่
  • ควรพบแพทย์ทันทีถ้าท่านมีเลือดออกผิดปกติ, ปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นเลือด ควรระมัดระวังการใช้ไหมขัดฟัน หรือไม้จิ้มฟัน และแจ้งทันตแพทย์ทุกครั้งว่าใช้ยานี้อยู่

อาการไม่พึงประสงค์

ยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์บางอย่างที่ไม่ต้องการ ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับผู้ใช้ยาทุกราย แต่หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม

ก. พบแพทย์ทันหากมีอาการต่อไปนี้
พบบ่อย

  • อุจจาระดำ, ปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นเลือด, อาเจียนเป็นเลือด, ท้องร่วง, ปวดข้อ,ผิวหนังแดง, ปวดท้อง, ขาหรือเท้าบวม
    พบน้อย
  • ตาพร่า, สับสน, ชัก , ไอ, มีจุดแดงบนผิวหนัง, หายใจสั้น, เลือดออกผิดปกติหรือมีจ้ำเลือด

ข. พบแพทย์โดยเร็ว หากมีอาการต่อไปนี้

  • เจ็บปาก และริมฝีปาก
    อาการเจ็บในปากอาจบรรเทาได้ด้วยการอมน้ำแข็ง และรักษาช่องปากให้สะอาดด้วยการแปรงฟันด้วยแปรงสีฟันที่มีขนนุ่มวันละ 2-3 ครั้ง บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ 0.9% สำหรับน้ำยาบ้วนปากที่มีตัวยาฆ่าเชื้ออาจทำให้เกิดการระคายเคืองเยื่อบุในปาก และผลการรักษาไม่ได้ดีกว่าน้ำเกลือ ในกรณีที่มีแผลในปากรุนแรง การแปรงฟันอาจทำให้เกิดแผลเพิ่มขึ้นได้ ควรใช้ฟองน้ำหรือผ้าก๊อซชุบน้ำเกลือทำความสะอาดฟันแทน *
    พบน้อย
  • ปวดหลัง, ไอ หรือเสียงแหบร่วมกับมีไข้หรือหนาวสั่น, ปัสสาวะสีเข้มขึ้น, เวียนศีรษะ,ง่วงซึม, ไข้จับสั่น, ปวดศีรษะ, ปวดบั้นเอวร่วมกับมีไข้, ปัสสาวะขัดร่วมกับมีไข้, อ่อนเพลีย ตัวเหลืองตาเหลือง

ค. อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาหรือหยุดยาไปแล้วเนื่อง จากร่างกายจะปรับตัวเข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนาน หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน
พบบ่อย

  • เบื่ออาหาร , คลื่นไส้อาเจียน
    พบน้อย
  • สิว, ฝี, ผิวซีด, ผื่นผิวหนัง คัน

ยานี้อาจทำให้ผมร่วงขณะใช้ยา หลังจากหยุดยาแล้วผมจะกลับมางอกตามปกติ

ง. อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย หากท่านสังเกตเห็นอาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

กลุ่มยา

ชื่อทางการค้า

ชื่อภาษาไทยอื่นที่อาจมีการใช้

ยาที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง

  1. กองควบคุมยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข. สืบค้นทะเบียนยาสามัญสำหรับยาเดี่ยว.Methotrexate . Available at: http://wwwapp1.fda.moph.go.th/ed2547/?url=14 Access Date: June 12, 2010.
  2. วิลาวัณย์ พิชัยรัตน์ และ สมสมัย สุธีรศานต์. การดูแลตนเองเมื่อได้รับยาเคมีบำบัด [สำหรับผู้ป่วยเเละครอบครัว] พิมพ์ครั้งที่ 2 . โรงพยาบาลสงขลานครินทร์. 2552 หน้า 5-19
  3. Dailymed current medication information .Methotrexate Available at: http://dailymed.nlm.nih.gov/dailymed/drugInfo.cfm?id=9605 Date: June 12, 2010.
  4. MedlinePlus Trusted Health Information for You. Methotrexate Available at http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/drug_Aa.html. Access Date: March 17, 2005.

เขียนโดย โพยม วงศ์ภูวรักษ์, ไตรรัตน์ แก้วเรือง

เขียนเมื่อ 12 Jun 2010 13:06 แก้ไขเมื่อ 12 Aug 2011 09:08

เพื่อนแนะนำ : เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย, เราชนะรอบ 4, ยืมเงิน 3000 ด่วน, แอพผ่อนของ, กู้เงิน, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อไม่เช็ค บูโรถูกกฎหมาย