ค้นหายา: |
ยาที่มีจำหน่ายได้แก่
โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆหรือมีประวัติการแพ้ยาคลอร์เททราซัยคลิน (chlortetracycline) ยาในกลุ่มเททราซัยคลิน (tetracyclines)ตัวอื่น ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่นๆ เช่น อาหาร, สารกันเสีย, สี เป็นต้น
ท่านสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติเว้นแต่ว่าแพทย์ได้แจ้งท่านเป็นอย่างอื่น
รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'D' สำหรับสตรีมีครรภ์ ประเภท 'D' หมายถึง
ยามีความเสี่ยงในการก่อให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตาม อาจใช้ยานี้ได้ หากพิจารณาแล้วว่าประโยชน์จากการใช้ยามีมากกว่าความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ ดังนั้นการพิจารณาใช้ยาให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์
ไม่พบว่ายากลุ่มเททราซัยคลินชนิดใช้กับดวงตา(ophthalmic tetracyclines) ทำให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์
ไม่พบว่ายากลุ่มเททราซัยคลินชนิดใช้กับดวงตา(ophthalmic tetracyclines) ทำให้เกิดความผิดปกติต่อทารกที่ได้รับน้ำนมมารดา
ไม่มีข้อมูลจำเพาะที่เปรียบเทียบการใช้ยากลุ่มเททราซัยคลินชนิดใช้กับดวงตา(ophthalmic tetracyclines) ในเด็กกับวัยอื่นๆ แต่คาดว่ายากลุ่มเททราซัยคลินชนิดใช้กับดวงตาไม่ก่อให้เกิดอาการข้างเคียงหรือปัญหาใดๆ ในเด็กมากกว่าวัยอื่นๆ
ยาหลายชนิดยังไม่มีการศึกษาในผู้สูงอายุ ดังนั้นจึงยังไม่ทราบการทำงานที่แท้จริงของยาว่ามีการทำงานเช่นเดียวกันกับในผู้ป่วยวัยอื่นหรือไม่ รวมทั้งยังไม่ทราบว่ายานี้ทำให้เกิดอาการข้างเคียงหรือปัญหาใดๆ ที่แตกต่างกันในผู้สูงอายุหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปรียบเทียบการใช้ยากลุ่มเททราซัยคลินชนิดใช้กับดวงตา(ophthalmic tetracyclines) ในผู้สูงอายุกับวัยอื่นๆ
ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาหยอดหรือป้ายตาบริเวณเดียวกันกับยากลุ่มเททราซัยคลินชนิดใช้กับดวงตา(ophthalmic tetracyclines)
ปัญหาการเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ยากลุ่มเททราซัยคลินชนิดใช้กับดวงตา(ophthalmic tetracyclines)
โปรดแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยาหากท่านกำลังเจ็บป่วยอยู่
ขั้นตอนการใช้ยาหยอดตา
1.ล้างมือให้สะอาดก่อนที่จะใช้ยาหยอดตา
2.อ่านวิธีใช้ยาบนฉลากยา ตรวจสอบวันหมดอายุของยาทุกครั้งที่ใช้
3.เขย่าขวดยาก่อนใช้ยาหยอดตา
4.เปิดเกลียวจุกของขวดยาไว้ ( สำหรับขวดที่มีหลอดหยดแยกออกจากขวดได้ยังไม่ต้องเอาหลอดหยดออกจากขวดยา )
5.นอน หรือนั่งลงให้ศีรษะเอนไปทางด้านหลัง พร้อมกับมองแหงนตาขึ้น กรณีผู้ป่วยเป็นเด็ก ควรหยอดในท่านอนสะดวกกว่า และไม่ควรหยอดตาในขณะที่เด็กร้องไห้
6.ค่อยๆ ใช้มือข้างหนึ่งดึงหนังตาล่างลงมาให้เป็นกระพุ้ง และเหลือบตาขึ้นข้างบน
7.ให้ใช้มืออีกข้างหนึ่งจับหลอดหยดและดูดยาให้เข้าไปในหลอดหยด (เฉพาะยาที่มีหลอดหยด ซึ่งเอาออกจากตัวขวดได้) หรือหยด
ได้เลย สำหรับยาที่มีหลอดหยดติดอยู่กับขวด โดยให้ปลายหลอดอยู่ใกล้ตา แต่อย่าให้สัมผัสกับตาหรือขนตา
8.หยดยาตามจำนวนที่แพทย์สั่งลงตรงกระพุ้ง ด้านในของเปลือกตาล่าง
9.ใช้นิ้วมือกดตรง หัวตาด้านในเบาๆประมาณ 1-2 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้ยาไหลเข้าสู่ท่อนํ้าตา จะได้ไม่รู้สึกขมคอ
10.ปิดตาเบาๆ(อย่าขยี้ตา) ใช้กระดาษทิชชูซับนํ้ายาส่วนเกินออก หลับตาอย่างน้อย 2 นาที
11.ถ้าต้องหยอดยาตามากกว่า 1 ชนิด ควรหยอดยาตาแต่ละชนิดห่างกันอย่างน้อย 5 นาที ถ้ามีทั้งยาหยอดตาและยาป้ายตาพร้อมๆกัน ควรจะใช้ยาหยอดตาก่อน ทิ้งระยะ 10 นาที แล้วจึงป้ายตา
12.หลังจาก หยอดยา ป้ายยา เรียบร้อยแล้ว ปิดจุกยาให้สนิท ควรเก็บยาไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา
13.หลังจากเปิดยาหยอดตาใช้แล้ว ไม่ควรจะใช้ยานั้นเกิน 1 เดือน
14.ถ้ามีอาการแพ้ คือ ตาแดง บวม แสบตามาก หรือมีผิวหนังแดงมาก ต้องหยุดยา และพบจักษุแพทย์
ขั้นตอนการใช้ยาป้ายตา
1.ล้างมือให้สะอาด
2.นอนหรือนั่งแหงนหน้าขึ้น
3.ค่อยๆใช้มือข้างหนึ่ง ดึงหนังตาล่างลงมาให้เป็นกระพุ้ง และเหลือบตาขึ้นข้างบน
4.ให้ใช้มืออีกข้างหนึ่งจับหลอดขี้ผึ้ง และบีบขี้ผึ้งขนาดยาวประมาณ 1 เซนติเมตร หรือประมาณครึ่งนิ้ว ลงในด้านในของเปลือกตล่าง โดยเริ่มป้ายยาจากหัวตาไปประมาณครึ่งตา ระวังอย่าให้ปลายหลอดยาแตะถูกตาหรือขนตา
5.ปล่อยมือจากการดึงหนังตา
6.ค่อยๆปิดตา และกลอกลูกตาไปมาทุกทิศทุกทางขณะที่ยังปิดตาอยู่สักครู่หนึ่งประมาณ1-2 วินาที เพื่อให้ยากระจายได้ทั่วตา เมื่อลืมตาขึ้น ตาอาจจะพร่าเล็กน้อย หากมีขี้ผึ้งไหลออกมานอกตาให้เช็ดด้วยกระดาษทิชชู
7. ปิดฝาจุกหลอดยาให้สนิท
คำแนะนำอื่นๆในการใช้ยาหยอดตา และยาป้ายตา
ขนาดยาคลอร์เททราซัยคลินชนิดใช้กับดวงตา (ophthalmic chlortetracycline) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรหรือตามที่ฉลากระบุ
ถ้าลืมป้ายตา ให้ป้ายตาทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเกือบจะถึงเวลาที่จะป้ายตาครั้งต่อไป ก็ไม่ต้อง
ป้ายตาครั้งที่ลืม แต่รอป้ายยาครั้งต่อไปเลย
หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หรืออาการยิ่งแย่ลงกว่าเดิม ควรกลับไปพบแพทย์
ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้
ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้
Clindamycin (oral), Amoxicillin, Ampicillin, Cloxacillin, Dicloxacillin, Amoxicillin and Clavulanate, Ketoconazole, Itraconazole, Fluconazole, Metronidazole (oral), Metronidazole (topical), Clotrimazole (vaginal), Ciprofloxacin, Moxifloxacin, Norfloxacin, Ofloxacin, Levofloxacin, Gatifloxacin, Lomefloxacin, Clindamycin (topical), Cefaclor , Cefadroxil, Cefprozil, Cephalexin, Cefalexin, Cefdinir, Cefixime, Cefditoren , Cefuroxime, Ceftibuten, Cefpodoxime, Azithromycin, Roxithromycin, Erythromycin , Clarithromycin , Erythromycin (topical) , Tetracycline, Doxycycline, Minocycline, Chlortetracycline, Oxytetracycline, Oxytetracycline and polymyxin B (ophthalmic), Tetracycline (topical) , Chlortetracycline (topical) , Oxytetracycline and polymyxin B (topical), Gentamicin (otic), Gentamicin (ophthalmic) , Co-trimoxazole (Sulfamethoxazole + trimethoprim) , Chloramphenicol (ophthalmic) , Gentamicin (topical)
ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้
Aureomycin * (ophthalmic ointment 1%) (ออริโอไมซิน * ชนิดขี้ผึ้งป้ายตา), Chlortralim 1% ophthalmic ointment (คลอตราลิม 1% ขี้ผึ้งป้ายตา)
ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว
1. Micromedex Thomson Healthcare. Advice for the Patient Drug Information in Lay Language USP DI, volume ll. 25th ed. Massachusetts: Micromedex Thomson Healthcare, 2005: p 1562-1563
2. กองควบคุมยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข. สืบค้นทะเบียนยาสามัญสำหรับยาเดี่ยว.Chlortetracycline . Available at: http://wwwapp1.fda.moph.go.th/ed2547/?url=14 Access Date: May 6, 2010.
3. สุชาดา ชุติมาวรพันธ์, โพยม วงศ์ภูวรักษ์, อภิฤดี เหมะจุฑา. คู่มือทักษะตามเกณฑ์ความรู้ความสามารถทางวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม (พ.ศ.2550). สภาเภสัชกรรม. หน้า 66-91.
เนื้อหาเกี่ยวกับยาทั้งหมดเรียบเรียงโดยเภสัชกรหรือนักศึกษาเภสัชศาสตร์ภายใต้การดูแลของเภสัชกร และผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณภาพเนื้อหาโดยเภสัชกรอีกอย่างน้อย 1 ท่าน เนื้อหาในเว็บไซต์นี้ ไม่มุ่งประโยชน์ทางการค้า และไม่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากองค์กรแสวงหาผลกำไรใด ๆ