ประเภทของบาดแผล
- แผลสะอาด เช่น แผลมีดบาด แผลผ่าตัด แผลประเภทนี้จะมีโอกาสติดเชื้ออักเสบต่ำ
- แผลสกปรก เช่น แผลถลอกจากอุบัติเหตุ โดนน้ำสกปรก เปื้อนดินโคลน แผลตะปูตำ แผลกระเบื้อง แก้ว หรือสังกะสีบาด แผลประเภทนี้จะมีโอกาสติดเชื้อสูง รวมถึงอาจเกิดโรคบาดทะยัก
การดูแลแผลเบื้องต้น
- ถ้าแผลมีเลือดออกมากให้ใช้ผ้าก๊อซ หรือผ้าสะอาดกดบริเวณบาดแผลด้วยมือ หรือพันผ้าให้แน่น และรีบมาพบแพทย์เพื่อห้ามเลือด และทำความสะอาดบาดแผล
- ถ้าแผลสกปรกเปื้อนดินโคลน ให้รีบล้างเบื้องต้นด้วยน้ำสะอาด เพื่อลดจำนวนเชื้อโรคก่อนมาพบแพทย์ แพทย์จะทำความสะอาดบาดแผล เย็บปิดแผลหรือเปิดทำแผล ให้รับประทานยาปฏิชีวนะ และฉีดยาป้องกันบาดทะยัก
- สำหรับบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ หลังจากทำความสะอาดแล้วควรทาด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น โพวิดีน หรือเบต้าดีน
การดูแลแผลในระยะต่อมา
- ควรยกแขนหรือขาที่มีแผลให้สูง เพื่อลดอาการบวมอักเสบ
- ระวังไม่ให้แผลสกปรก หรือโดนน้ำ
- มาทำแผลตามเวลา และรับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำ
- สังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดออกมาก ปวดแผลมาก แผลอักเสบบวมแดง เป็นหนอง มีไข้ ให้รีบมาพบแพทย์
- การตัดไหม อาจเป็น 5 – 7 วันหลังเย็บแผล ขึ้นกับลักษณะบาดแผล สามารถตัดไหมที่สถานพยาบาลใกล้บ้านได้
- ในกรณีแผลอักเสบติดเชื้อ แพทย์จำเป็นต้องตัดไหมออก และทำแผลทุกวันจนกว่าจะดีขึ้น
คำแนะนำทั่วไป
- แจ้งประวัติแพ้ยา และโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ให้แพทย์ทราบ
- ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้ทุกชนิด ไม่มีของแสลง
ข้อมูลจาก:
โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
ภาควิชาศัลยศาสตร์