หลายคนเข้าใจว่าผู้ป่วยโรคตับนั้น มักจะมีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ดื่มชนิดเมาหัวราน้ำ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ Telegraph รายงานว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อยเป็นประจำทุกวันจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับได้
โดยนักวิจัยจากประเทศอังกฤษได้ศึกษาในกลุ่มตัวอย่างที่ป่วยเป็นโรคตับในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พบว่าผู้ป่วยประมาณ 71 เปอร์เซนต์ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำทุกวัน และประมาณครึ่งหนึ่งของกลุ่มนี้จะดื่ม เทียบเท่ากับไวน์ประมาณ 1/2 ขวด ต่อครั้ง
การดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์จะนำมาซึ่งปัญหาทั้งสิ้น ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าคนที่ดื่มน้อยแต่บ่อยครั้งก็เสี่ยงต่อการเกิดโรคตับและโรคเรื้อรังอื่นๆ ซึ่งผู้ป่วยโรคตับมักจะไม่รู้ตัวมาก่อนว่าตนเองเป็นโรคนี้ จนกระทั่งมาโรงพยาบาลด้วยอาการรุนแรง และมักจะเสียชีวิตก่อนที่จะมีโอกาสเลิกดื่ม
สำหรับคนที่ดื่มชนิดเมาหัวราน้ำนั้นมักจะนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุรถชน และอุบัติเหตุอื่นๆ รวมทั้งการทะเลาะวิวาท ซึ่งส่วนใหญ่เกิดกับวัยรุ่น หากต้องการลดความเสี่ยงต่อปัญหาโรคตับและอื่นๆ การเลิกหรือลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงอาจจะช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลงได้เช่นกัน
ภาพจาก Flickr.com