ซีเทอริซีน (cetirizine) เป็นยาต้านฮิสตามีน (antihistamines) ใช้สำหรับบรรเทาอาการหรือป้องกันไข้ละอองฟาง (hay fever) และการแพ้ชนิดต่างๆ ออกฤทธิ์โดยป้องกันผลของสารที่เรียกว่าฮิสตามิน (histamine) ซึ่งถูกสร้างขึ้นภายในร่างกาย ฮิสตามีน (histamine) ทำให้เกิดอาการคัน จาม น้ำมูกไหลหรือน้ำตาไหล รวมทั้งอาจทำให้หลอดลมหดตัวซึ่งส่งผลให้เกิดการหายใจลำบากในผู้ป่วยบางราย
โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีประวัติแพ้ยาซีเทอริซีน (cetirizine) หรือ ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่นๆ เช่น อาหาร สารกันเสียหรือสี เป็นต้น
โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านได้รับคำแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีน้ำตาลต่ำหรืออาหารอื่น ๆ เนื่องจากเภสัชภัณฑ์ที่ยาน้ำสำหรับรับประทานส่วนใหญ่มีน้ำตาลและแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ
รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'B' สำหรับสตรีมีครรภ์
จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาไม่มีความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์ หรือ จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายามีความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่พบผลดังกล่าวจากการศึกษาในมนุษย์ ดังนั้น ยาที่จัดอยู่ในประเภทนี้สามารถใช้ในสตรีมีครรภ์ได้ค่อนข้างปลอดภัย
ควรหลีกเลี่ยงการใช้ซีเทอริซีน (cetirizine) เว้นแต่แพทย์พิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องใช้เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาในสตรีมีครรภ์ อย่างไรก็ตามยานี้ไม่ทำให้เกิดความผิดปกติแก่ตัวอ่อนในครรภ์หรือปัญหาอื่นๆ ในการศึกษาในสัตว์ทดลอง
รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'B' สำหรับสตรีมีครรภ์
จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาไม่มีความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์ หรือ จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายามีความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่พบผลดังกล่าวจากการศึกษาในมนุษย์ ดังนั้น ยาที่จัดอยู่ในประเภทนี้สามารถใช้ในสตรีมีครรภ์ได้ค่อนข้างปลอดภัย
ควรหลีกเลี่ยงการใช้ซีเทอริซีน (cetirizine) เว้นแต่แพทย์พิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องใช้เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาในสตรีมีครรภ์ อย่างไรก็ตามยานี้ไม่ทำให้เกิดความผิดปกติแก่ตัวอ่อนในครรภ์หรือปัญหาอื่นๆ ในการศึกษาในสัตว์ทดลอง
รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'B' สำหรับสตรีมีครรภ์
จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาไม่มีความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์ หรือ จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายามีความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่พบผลดังกล่าวจากการศึกษาในมนุษย์ ดังนั้น ยาที่จัดอยู่ในประเภทนี้สามารถใช้ในสตรีมีครรภ์ได้ค่อนข้างปลอดภัย
ควรหลีกเลี่ยงการใช้ซีเทอริซีน (cetirizine) เว้นแต่แพทย์พิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องใช้เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาในสตรีมีครรภ์ อย่างไรก็ตามยานี้ไม่ทำให้เกิดความผิดปกติแก่ตัวอ่อนในครรภ์หรือปัญหาอื่นๆ ในการศึกษาในสัตว์ทดลอง
ซีเทอริซีน (cetirizine) สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมได้ในปริมาณเล็กน้อย ไม่แนะนำให้ใช้ในสตรีให้นมบุตรเนื่องจากเด็กทารกจะไวต่ออาการไม่พึงประสงค์ของยาต้านฮิสตามีน (antihistamines) มาก เช่น กระตือรือร้นผิดปกติหรือกระสับกระส่ายในเด็กที่ได้รับนมมารดา และอาจทำให้สารคัดหลั่งต่างๆ ในร่างกายมารดาลดลง อาจทำให้อัตราการไหลของน้ำนมลดลงและอาจทำให้ปริมาณน้ำนมในสตรีบางรายลดลง ปัจจุบันยังไม่ทราบว่าแน่ชัดว่าซีเทอริซีน (cetirizine) ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์เช่นเดียวกับยาตัวอื่นหรือไม่
อาการไม่พึงประสงค์ที่สำคัญ เช่น ชัก มักเกิดในผู้ป่วยที่มีอายุน้อย โดยทารกมีความเสี่ยงมากกว่าเด็กเล็กและผู้ใหญ่ ในเด็กที่เล็กมากๆ มักไวต่อฤทธิ์ของยาต้านฮิสตามีน (antihistamines) มากกว่าวัยอื่นๆ อาจทำให้ฝันร้าย กระตือรือร้นผิดปกติหรือกระสับกระส่าย อยู่ไม่นิ่งหรือควบคุมตัวเองไม่ได้
ผู้สูงอายุมักไวต่อฤทธิ์ของยา อาจทำให้เกิดอาการสับสน ปัสสาวะลำบากและเจ็บ มึนงง ง่วงซึม ปากแห้ง ในผู้สูงอายุที่ได้รับยานี้ อาจมีอาการฝันร้ายหรือกระตือรือร้นผิดปกติ กระสับกระส่าย กระวนกระวาย หรือหงุดหงิดได้
ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้น โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆที่จำเป็น เมื่อท่านจะรับประทานซีเทอริซีน (cetirizine) ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาเหล่านี้อยู่
ปัญหาการเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ซีเทอริซีน (cetirizine) โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านมีสภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น
ซีเทอริซีน (cetirizine) เป็นยาต้านฮิสตามีน (antihistamines) ใช้สำหรับบรรเทาอาการหรือป้องกันสภาวะต่างๆ ห้ามรับประทานยานี้มากเกินไปหรือบ่อยเกินไปและห้ามรับประทานติดต่อกันเป็นระยะเวลานานกว่าที่ระบุไว้บนฉลากหรือเกินกว่าที่แพทย์สั่ง อาจทำให้โอกาสของการเกิดอาการไม่พึงประสงค์เพิ่มขึ้น
ขนาดของยานี้อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ หรือ เภสัชกร หรือ ตามที่ระบุไว้บนฉลากยา
หากท่านต้องรับประทานยาตามปกติแล้วท่านลืมรับประทานยาให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้ หากใกล้ถึงมื้อต่อไปให้ข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานยาต่อในมื้อถัดไปในขนาดยาปกติ ห้ามเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
ก่อนที่ท่านจะทำการทดสอบการแพ้ที่ผิวหนัง โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์ทุกครั้งว่าท่านกำลังใช้ยานี้อยู่ เนื่องจากซีเทอริซีน (cetirizine) อาจรบกวนผลการทดสอบนี้ได้
หากท่านใช้ยาต้านฮิสตามีน (antihistamines) ร่วมกับแอสไพริน (aspirin) ขนาดสูงเป็นประจำ (สำหรับรักษาข้ออักเสบรูมาตอยด์) ยาต้านฮิสตามีน (antihistamines) อาจบดบังผลของการได้รับแอสไพริน (aspirin) เกินขนาดเช่น ได้ยินเสียงในหู โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านใช้ยาดังกล่าวร่วมกัน
ยานี้จะเสริมฤทธิ์ของแอลกอฮอล์และยากดระบบประสาทส่วนกลางตัวอื่นๆ (ยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม) ตัวอย่างของยากดระบบประสาทส่วนกลาง ได้แก่ ยาต้านฮิสตามินหรือยาสำหรับไข้ละอองฟาง อาการแพ้อื่นๆ หรือไข้หวัด, ยากล่อมประสาทหรือยานอนหลับ, ยาบรรเทาปวดตามใบสั่งยาของแพทย์หรือนาร์โคติก, บาบิทูเรต (barbiturates), ยากันชัก, ยาคลายกล้ามเนื้อหรือยาสลบรวมถึงยาสลบที่ใช้ทางทันตกรรม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาดังกล่าวในขณะที่ท่านกำลังใช้ยานี้
ยานี้อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึมหรือเกิดความตื่นเต้นมากกว่าปกติในผู้ป่วยบางรายแม้ว่ารับประทานยาก่อนนอนก็ตาม ยาต้านฮิสตามีน (antishistamines) บางตัวอาจทำให้เกิดอาการง่วงซึมมากกว่าตัวอื่นๆ อาการง่วงซึมอาจเกิดได้น้อย ใน ซีเทอริซีน (cetirizine) ท่านควรสำรวจตัวท่านเองว่าเกิดอาการง่วงซึมจากการใช้ยาต้านฮิสตามีน (antishistamines) หรือไม่ หากมีอาการง่วงซึมควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะหรือการทำงานที่เสี่ยงอันตราย
ซีเทอริซีน (cetirizine) อาจทำให้ปากแห้ง คอแห้ง จมูกแห้ง ยาต้านฮิสตามีน (antihistamines) บางชนิดอาจทำให้เกิดอาการปากแห้งมากกว่าตัวอื่นๆ สำหรับการบรรเทาอาการปากแห้งชั่วคราวควรใช้ลูกอมหรือหมากฝรั่งที่ปราศจากน้ำตาล อมก้อนน้ำแข็งให้ละลายในปากหรือใช้สารทดแทนน้ำลาย หากท่านรู้สึกว่าปากแห้งติดต่อกันเป็นเวลามากกว่า 2 สัปดาห์ควรปรึกษาทันตแพทย์ อาการปากแห้งติดต่อกันเป็นเวลามากกว่า 2 สัปดาห์อาจทำให้เกิดโรคภายในช่องปากรวมถึงฟันผุ โรคเหงือกและติดเชื้อราได้ง่าย
ยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์บางอย่างที่ไม่ต้องการ ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับผู้ใช้ยาทุกราย แต่หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ก. ควรพบแพทย์ทันทีหากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น
พบน้อยหรือน้อยมาก
ข. ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรหากมีอาการเหล่านี้
พบน้อยหรือน้อยมาก
อาการของการได้รับยาเกินขนาด
ค. อาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาเนื่องจากร่างกายจะปรับตัวเข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนานหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน
พบบ่อย
พบน้อยหรือน้อยมาก
ง. อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ นอกเหนือจากที่ได้ระบุไว้อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย หากท่านสังเกตเห็นอาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้
ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้
Brompheniramine, Chlorpheniramine, Cinnarizine, Desloratadine, Dimenhydrinate, Diphenhydramine, Fexofenadine, Flunarizine, Hydrocortisone and Mepyramine (Topical) , Hydroxyzine, Loratadine
ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้
Alerest (อัลเลอเร็สท์), Aller-Go syrup (อัลเลอ-โก ไซรัป), Cetihis syrup (เซติฮีส ไซรัป), Cetihis (เซติฮีส), Cetinac (เซทีแนค), Cetirizin Stada, Histec syrup (ฮีสเทค ไซรัป), Cetirizine tablet, Cetizin (เซทิซิน), Cetrimed (เซทริเมด), Cetrizet, Cetrizin syrup (เซทริซิน ไซรัป), Cetrizin (เซทริซิน), Cettec syrup, Cettec, Cintar tablets (ซินทาร์), Cistamine (ซีสตามีน), Cyzine, Pharmahof Fatec, Fatec syrup, Ceza (ซีซา), Ceza syrup (ซีซา ไซรัป)
ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว
ยานี้มีชื่อภาษาไทยอื่นที่มีการใช้ดังต่อไปนี้
เซทิไรซีน, เซทิเรซีน, ซิทิริซีน, เซทเทอริซีน
ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อภาษาไทยอื่นที่อาจมีการใช้ ซึ่งไม่ได้แสดงในนี้