คำอธิบายโดยสังเขป
ยาสูตรผสมเพรดนิโซโลนและโอฟลอกซาซินชนิดใช้กับดวงตา (prednisolone and ofloxacin ophthalmic preparations) ประกอบด้วยตัวยาสำคัญ ดังนี้
- เพรดนิโซโลน (prednisolone) เป็นยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตอรอยด์ (corticosteroids) หรืออาจเรียกสั้น ๆ ว่า สเตอรอยด์ หรือ สเตียรอยด์ เพรดนิโซโลนมีฤทธิ์ลดอาการอักเสบและการแพ้เช่น อาการระคายเคือง บวม แดง คัน
- โอฟลอกซาซิน (ofloxacin) เป็นยากลุ่มฟลูออโรควิโนโลน (fluoroquinolones) ใช้สำหรับรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย
ยาสูตรผสมเพรดนิโซโลนและโอฟลอกซาซินชนิดใช้กับดวงตาใช้รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียของดวงตาที่มีการอักเสบชนิดรุนแรงฉับพลันหรือเรื้อรัง ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ต้องแน่ใจว่าไม่ได้เกิดจากเชื้อรา หรือไวรัส เช่น เยื่อบุตาอักเสบ (conjunctivitis) และแผลที่กระจกตา (corneal ulcers) เป็นต้น อาจใช้ร่วมกับยาหยอดตา ยาป้ายตาหรือยารับประทานอื่น ๆได้
ยาที่มีจำหน่ายได้แก่
- ยาสูตรผสมเพรดนิโซโลนและโอฟลอกซาซินชนิดแขวนตะกอนใช้กับดวงตา (prednisolone and ofloxacin ophthalmic suspension)
ก่อนการใช้ยา
การแพ้ยา
โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใด ๆ หรือมีประวัติการแพ้ยาเพรดนิโซโลน (prednisolone) หรือยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตอรอยด์ (corticosteroids) หรือ ยาโอฟลอกซาซิน (ofloxacin) หรือ
ยาในกลุ่มฟลูออโรควิโนโลน (fluoroquinolones) ตัวอื่น หรือส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่น ๆ เช่น อาหาร, สารกันเสีย, สี เป็นต้น
อาหารและเครื่องดื่มที่ต้องระวัง
ท่านสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติเว้นแต่ว่าแพทย์ได้แจ้งท่านเป็นอย่างอื่น
ตั้งครรรภ์
รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'C' สำหรับสตรีมีครรภ์
จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาที่ควบคุมอย่างดีในมนุษย์ หรือ ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์และสัตว์ถึงผลของยาต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรใช้ยานี้เมื่อมีการประเมินแล้วว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์
- แม้ว่ายังไม่มีการศึกษาการใช้ยาสูตรผสมเพรดนิโซโลนและโอฟลอกซาซินชนิดใช้กับดวงตา (prednisolone and ofloxacin ophthalmic preparations) ในสตรีมีครรภ์ แต่ยังไม่พบรายงานว่าการใช้ยาคอร์ติโคสเตอรอยด์ชนิดใช้กับดวงตา (ophthalmic corticosteroids) ในสตรีมีครรภ์ ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ แต่จากการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่าเพรดนิโซโลน (prednisolone) ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนของสัตว์ เมื่อทายาลงบนดวงตาของสัตว์ทดลองที่ตั้งท้อง
- ไม่มีการศึกษาการใช้ยาโอฟลอกซาซินชนิดใช้กับดวงตา(ophthalmic ofloxacin) ในสตรีมีครรภ์ จากการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่ายานี้ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนเมื่อให้ยาในรูปแบบรับประทาน
ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้
กำลังให้นมบุตร
ไม่มีข้อมูลว่ายาสูตรผสมเพรดนิโซโลนและโอฟลอกซาซินชนิดใช้กับดวงตา (prednisolone and ofloxacin ophthalmic preparations) ผ่านเข้าสู่น้ำนมได้
ผู้สูงอายุ
ยังไม่มีรายงานการเกิดผลข้างเคียงหรือปัญหาใด ๆ จากการใช้ยาเพรดนิโซโลนชนิดใช้กับดวงตา (ophthalmic prednisolone) ในผู้สูงอายุที่แตกต่างจากการใช้ในผู้ใหญ่วัยอื่น
ยาอื่นที่ใช้อยู่
ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาหยอดหรือป้ายตาบริเวณเดียวกันกับยาสูตรผสมเพรดนิโซโลนและโอฟลอกซาซินชนิดใช้กับดวงตา (prednisolone and ofloxacin ophthalmic preparations)
ภาวะโรคร่วม
ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ยาสูตรผสมเพรดนิโซโลนและโอฟลอกซาซินชนิดใช้กับดวงตา (prednisolone and ofloxacin ophthalmic preparations) ท่านควรแจ้งแพทย์หากท่านมีภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น
- ต้อกระจก
- เบาหวาน
- ต้อหิน
- โรคเริมของกระจกตา
- โรคติดเชื้อไวรัสที่กระจกตา และเยื่อบุลูกตา
- วัณโรคตา
การใช้ที่ถูกต้อง
ขั้นตอนการใช้ยาหยอดตา
- ล้างมือให้สะอาดก่อนที่จะใช้ยาหยอดตา
- อ่านวิธีใช้ยาบนฉลากยา ตรวจสอบวันหมดอายุของยาทุกครั้งที่ใช้
- เขย่าขวดยาก่อนใช้ยาหยอดตา
- เปิดเกลียวจุกของขวดยาไว้ (สำหรับขวดที่มีหลอดหยดแยกออกจากขวดได้ยังไม่ต้องเอาหลอดหยดออกจากขวดยา)
- นอน หรือนั่งลงให้ศีรษะเอนไปทางด้านหลัง พร้อมกับมองแหงนตาขึ้น กรณีผู้ป่วยเป็นเด็ก ควรหยอดในท่านอนสะดวกกว่า และไม่ควรหยอดตาในขณะที่เด็กร้องไห้
- ค่อย ๆ ใช้มือข้างหนึ่งดึงหนังตาล่างลงมาให้เป็นกระพุ้ง และเหลือบตาขึ้นข้างบน
- ให้ใช้มืออีกข้างหนึ่งจับหลอดหยดและดูดยาให้เข้าไปในหลอดหยด (เฉพาะยาที่มีหลอดหยด ซึ่งเอาออกจากตัวขวดได้) หรือหยดได้เลย สำหรับยาที่มีหลอดหยดติดอยู่กับขวด โดยให้ปลายหลอดอยู่ใกล้ตา แต่อย่าให้สัมผัสกับตาหรือขนตา
- หยดยาตามจำนวนที่แพทย์สั่งลงตรงกระพุ้ง ด้านในของเปลือกตาล่าง
- ใช้นิ้วมือกดตรงหัวตาด้านในเบาๆประมาณ 1-2 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้ยาไหลเข้าสู่ท่อนํ้าตา จะได้ไม่รู้สึกขมคอ
- ปิดตาเบา ๆ (อย่าขยี้ตา) ใช้กระดาษทิชชูซับนํ้ายาส่วนเกินออก หลับตาอย่างน้อย 2 นาที
- ถ้าต้องหยอดยาตามากกว่า 1 ชนิด ควรหยอดยาตาแต่ละชนิดห่างกันอย่างน้อย 5 นาที ถ้ามีทั้งยาหยอดตาและยาป้ายตาพร้อม ๆ กัน ควรจะใช้ยาหยอดตาก่อน ทิ้งระยะ 10 นาที แล้วจึงป้ายตา
- หลังจากหยอดยา เรียบร้อยแล้ว ปิดจุกยาให้สนิท ควรเก็บยาไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา
- หลังจากเปิดยาหยอดตาใช้แล้ว ไม่ควรจะใช้ยานั้นเกิน 1 เดือน
- ถ้ามีอาการแพ้ คือ ตาแดง บวม แสบตามาก หรือมีผิวหนังแดงมาก ต้องหยุดยา และพบจักษุแพทย์
ขนาดยา
ขนาดยาของยาสูตรผสมเพรดนิโซโลนและโอฟลอกซาซินชนิดใช้กับดวงตา (prednisolone and ofloxacin ophthalmic preparations) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรหรือตามที่ฉลากระบุ
เมื่อลืมใช้ยา
ถ้าลืมหยอดตา ให้หยอดตาทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเกือบจะถึงเวลาที่จะหยอดตาครั้งต่อไป ก็ไม่ต้องหยอดตาครั้งที่ลืม แต่รอหยอดยาครั้งต่อไปได้เลย
การเก็บรักษา
- เก็บให้พ้นมือเด็ก
- เก็บให้ห่างจากความร้อนและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
- ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็ง
- ทิ้งยาเมื่อยาหมดอายุ
- ยาหยอดตาหรือยาป้ายตาหลังจากเปิดฝาแล้วมีอายุ 1 เดือน หากเปิดฝาเกิน 1 เดือนให้ทิ้งยานั้น
ข้อควรระวัง
หากต้องใช้ยาเกินกว่า 2-3 สัปดาห์ ท่านควรไปพบจักษุแพทย์ตามนัด เพื่อตรวจดูอาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้ยา
หากอาการอักเสบ หรือปวดไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน หรือแย่ลง ควรหยุดยาและรีบกลับไปพบแพทย์
หยุดยา และรีบกลับไปพบแพทย์ทันที หากใช้ยาแล้ว มีผื่นผิวหนัง หรือปฏิกิริยาการแพ้เกิดขี้น
- สำหรับผู้ป่วยที่ใส่เลนส์สัมผัส ให้ถอดเลนส์สัมผัสก่อนหยอดตาเพื่อหลีกเลี่ยงการดูดซับของยาของเลนส์สัมผัส ซึ่งอาจทำให้เลนส์สัมผัสเสียได้
- ห้ามใช้ยาหยอดตาร่วมกับผู้อื่น เพราะจะติดโรคกันได้
- หลีกเลี่ยงไม่ให้ปลายหลอดสัมผัสตา นิ้ว หรือสิ่งอื่น
- ถ้ายาหยอดตาเปลี่ยนสี ห้ามใช้ต่อไปอีก
- ยาที่มีส่วนผสมของเพรดนิโซโลน (prednisolone) มีผลกดภูมิคุ้มกัน ผู้ที่ใช้ยายาติดต่อกันเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ติดเชื้อต่างๆ และเกิดโรคของดวงตาได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น โรคติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อราที่ดวงตา เป็นต้น
- ไม่ควรใช้ยาที่มีส่วนผสมของเพรดนิโซโลน ชนิดใช้กับดวงตา (ophthalmic prednisolone) ในโรคตาแดงโดยไม่ได้รับการตรวจจากแพทย์ เพราะการใช้ยาไม่ถูกต้องอาจทำให้ตาบอดได้
- การใช้ยาที่มีส่วนผสมของเพรดนิโซโลนชนิดใช้กับดวงตา (ophthalmic prednisolone) ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้ ความดันในลูกตาเพิ่มขึ้น , ต้อหิน, ต้อกระจก, โรคที่เกิดจากกระจกตาดำและผนังตาบางลง
- การใช้ยาเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการดื้อยาและการเจริญมากไปของเชื้อที่ดื้อยาได้ ทำให้เกิดการติดเชื้อสำทับได้ (superinfection)
- ก่อนใช้ยาที่มีส่วนผสมของโอฟลอกซาซิน ควรแน่ใจก่อนว่าผู้ป่วยไม่เคยมีประวัติแพ้ยาอื่นในกลุ่มฟลูออโรควิโนโลน (fluoroquinolones) และควรสังเกตอาการแพ้ยาอย่างใกล้ชิดถ้าผู้ป่วยเคยมีประวัติแพ้ยาดังกล่าวและได้รับยาโอฟลอกซาซิน เพราะมีโอกาสเกิดการแพ้ข้ามกันได้
- การใช้ยานี้อาจทำให้ดวงตามีความไวต่อแสงแดดมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการแสงแดด หรือใส่แว่นตากันแดด เพื่อลดอาการระคายเคืองตา
อาการไม่พึงประสงค์
ยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์บางอย่างที่ไม่ต้องการ ถึงแม้ว่าอาการไม่พึงประสงค์ต่อไปนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นทั้งหมด แต่หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ก. พบแพทย์ทันทีหากมีอาการต่อไปนี้
พบน้อยมาก
- ตาบวม, ผื่นลมพิษ, คัน , หน้าบวม, แน่นหน้าอก, หายใจลำบาก
ข. พบแพทย์โดยเร็วหากมีอาการต่อไปนี้
พบไม่บ่อย น้อยหรือพบน้อย
- การมองเห็นลดลง
- ติดเชื้อที่ดวงตา
- ปวดตา
- ตาพร่า หรือสูญเสียการมองเห็น
- คลื่นไส้ อาเจียน
พบน้อยมาก
- เวียนศรีษะ
ค. อาการข้างเคียงอื่น ๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการข้างเคียงเหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาหรือหยุดยาไปแล้วเนื่องจากร่างกายจะปรับตัว เข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนาน หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน
พบบ่อย
- แสบตา
พบน้อย
- ตาพร่า, เจ็บตา, ตาไวต่อแสงมากขึ้น, ตาแดง, ระคายเคืองตา, น้ำตาไหล, หรือตาแห้ง
- แสบตา ตาแดง
- น้ำตาไหลมาก
ง.อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย หากท่านสังเกตเห็นอาการข้างเคียงอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ข้อมูลเพิ่มเติม
- ห้ามใช้ยาในกรณีที่ตาติดเชื้อไวรัส, เชื้อรา, เชื้อวัณโรค หรือตาอักเสบติดเชื้อที่มีหนองร่วมด้วย
- ห้ามใช้ในกรณีที่เป็นต้อหิน หรือกระจกตาอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัสเริม (Herpes) เนื่องจากการใช้สเตอรอยด์ในโรคดังกล่าวอาจทำให้โรคลุกลามมากขึ้น
กลุ่มยา
ชื่อทางการค้า
ยาที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง
- กองควบคุมยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข. สืบค้นทะเบียนยาสามัญสำหรับยาเดี่ยว.Prednisolone. Available at: http://wwwapp1.fda.moph.go.th/ed2547/?url=14 Access Date: Oct 12, 2010.
- สุชาดา ชุติมาวรพันธ์, โพยม วงศ์ภูวรักษ์, อภิฤดี เหมะจุฑา. คู่มือทักษะตามเกณฑ์ความรู้ความสามารถทางวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพ เภสัชกรรม (พ.ศ.2550). สภาเภสัชกรรม. หน้า 66-91.
- CPM medica. MIMS Thailand Online. Available at http://www.mims.com. Access Date: Oct 31, 2010.
- Dailymed current medication information .Ofloxacin Available at: http://dailymed.nlm.nih.gov/dailymed/drugInfo.cfm?id=18546#nlm34071-1 Date: June 9, 2010.
- Dailymed current medication information . Prednisolone . Available at: http://0-dailymed.nlm.nih.gov.www.elgar.govt.nz/dailymed/about.cfm Date: Oct 12, 2010.
- DRUGDEX® System:Klasco RK (Ed): DRUGDEX® System (electronic version). Thomson Micromedex, Greenwood Village, Colorado, USA. Available at: http://www.thomsonhc.com (cited: 12/10/2010).
- MedlinePlus Trusted Health Information for You. Corticosteroids (Ophthalmic) Available at http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/drug_Aa.html. Access Date: March 17, 2005.
- MedlinePlus Trusted Health Information for You. Ofloxacin (Ophthalmic) Available at http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/drug_Aa.html. Access Date: March 17, 2005.
- The Merck Manuals Online medical Library The Merck Manual for Healthcare Professionals Ofloxacin Drug Information Provided by Lexi-Comp. Available at: http://www.merck.com/mmpe/lexicomp/ofloxacin.html Access Date: June 9, 2010.
เขียนโดย
โพยม วงศ์ภูวรักษ์, ไตรรัตน์ แก้วเรือง
เขียนเมื่อ
01 Nov 2010 19:11
แก้ไขเมื่อ
05 Jan 2011 13:01