โอฟลอกซาซิน (ofloxacin) เป็นยากลุ่มฟลูออโรควิโนโลน (fluoroquinolones) โอฟลอกซาซินชนิดชนิดหยอดหูใช้รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียในช่องหูอาจใช้ร่วมกับยาหยอดหูหรือยารับประทานอื่น ๆ ได้
ยามีจำหน่ายในรูปแบบ
โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใด ๆ หรือมี ประวัติการแพ้ยาโอฟลอกซาซิน (ofloxacin) หรือ
ยาในกลุ่มฟลูออโรควิโนโลน (fluoroquinolones) ตัวอื่น หรือส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่นๆ เช่น อาหาร, สารกันเสีย, สี เป็นต้น
ท่านสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติเว้นแต่ว่าแพทย์ได้แจ้งท่านเป็นอย่างอื่น
รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'C' สำหรับสตรีมีครรภ์
จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาที่ควบคุมอย่างดีในมนุษย์ หรือ ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์และสัตว์ถึงผลของยาต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรใช้ยานี้เมื่อมีการประเมินแล้วว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์
ไม่มีการศึกษาการใช้ยานี้ในมนุษย์ที่ตั้งครรภ์ จากการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่ายานี้ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนเมื่อให้ยาในรูปแบบรับประทาน หากหยอดยาในปริมาณมากในหู ยาอาจถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ ดังนั้นสตรีมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
ไม่มีข้อมูลว่าโอฟลอกซาซินชนิดชนิดหยอดหู (otic ofloxacin) ผ่านเข้าสู่น้ำนมได้
มีการใช้ยาโอฟลอกซาซินชนิดชนิดหยอดหู (otic ofloxacin) ในผู้สูงอายุและยังไม่มีรายงานการเกิดอาการไม่พึงประสงค์หรือปัญหาใด ๆ ที่แตกต่าง กับการใช้ยานี้ในวัยอื่นๆ
ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่น ๆ ที่จำเป็น โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาหยอดบริเวณเดียวกันกับยาโอฟลอกซาซินชนิดชนิดหยอดหู (otic ofloxacin)
ปัญหาการเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ยาโอฟลอกซาซินชนิดชนิดหยอดหู (otic ofloxacin)
โปรดแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยาหากท่านกำลังเจ็บป่วยอยู่
ขนาดยาของยาโอฟลอกซาซินชนิดชนิดหยอดหู (otic ofloxacin) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรหรือตามที่ฉลากระบุ
ถ้าลืมหยอดหู ให้หยอดทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเกือบจะถึงเวลาที่จะหยอดครั้งต่อไป ก็ไม่ต้องหยอดครั้งที่ลืม แต่รอหยอดยาครั้งต่อไปได้เลย
หากอาการไม่ดีขึ้นใน 7 วัน หรืออาการแย่ลงควรรีบกลับไปพบแพทย์
หยุดยา และรีบกลับไปพบแพทย์ทันที หากใช้ยาแล้ว มีผื่นผิวหนัง หรือปฏิกิริยาการแพ้เกิดขี้น
ยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์บางอย่างที่ไม่ต้องการ ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับผู้ใช้ยาทุกราย แต่หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ก. พบแพทย์โดยเร็วหากมีอาการต่อไปนี้
พบน้อยมาก
ข. พบแพทย์โดยเร็ว หากในอาการต่อไปนี้
พบน้อยมาก
ค.อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาหรือหยุดยาไปแล้วเนื่องจากร่างกายจะปรับตัว เข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนาน หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน
พบบ่อย
ง. อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย หากท่านสังเกตเห็นอาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
เขียนโดย โพยม วงศ์ภูวรักษ์, ไตรรัตน์ แก้วเรือง
เขียนเมื่อ 09 Jun 2010 14:06 แก้ไขเมื่อ 16 Oct 2010 15:10