คำอธิบายพอสังเขป

ฟลูนาริซีน (flunarizine) จัดเป็นยาในกลุ่มตัวต้านแคลเซียม (calcium antagonists) หรือ ปิดกั้นช่องแคลเซียม (calcium channel blocker) ออกฤทธิ์ป้องกันภาวะแคลเซียมสูงในเซลล์ โดยการลดการนำเข้าแคลเซียมเข้าเซลล์ ทำให้มีการผ่อนคลายของเซลล์ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านฮีสตามีน (antihistamine) อีกด้วย

ยานี้ใช้สำหรับป้องกันการเกิดไมเกรน, รักษาโรคหรือความผิดปรกติของการกำหนดรู้การทรงตัว, อาการรู้สึกหมุน (vestibular vertigo), ป้องกันโรคหรือความผิดปรกติของโรคหลอดเลือดส่วนปลายและหลอดเลือดสมอง (peripheral and cerebrovascular disorders) นอกจากนี้อาจใช้รักษาโรคลมชัก (epilepsy), เสียงในหู (tinnitus), อัมพาตครึ่งซีก(hemiplegia) เป็นต้น

ก่อนการใช้ยา

การแพ้ยา

โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใด ๆ หรือมีประวัติการแพ้ยาฟลูนาริซีน (flunarizine), ซินนาริซีน (cinnarizine) ยาอื่นในกลุ่มนี้ หรือ ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่น เช่น อาหาร, สารกันเสีย, สี เป็นต้น

ตัวอย่างอาการแพ้ยา เช่น ผื่น, คัน, หายใจมีเสียงหวีด (wheezing), ผิวหนังแดงแบบหลายรูปแบบ (erythrma multiforme)

อาหารและเครื่องดื่มที่ต้องระวัง

• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากอาจส่งผลให้การทำให้สงบประสาทมากเกินไป (excessive sedation)

ตั้งครรภ์

รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'C' สำหรับสตรีมีครรภ์

จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาที่ควบคุมอย่างดีในมนุษย์ หรือ ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์และสัตว์ถึงผลของยาต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรใช้ยานี้เมื่อมีการประเมินแล้วว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์

มีการศึกษาในหนูในขนาดที่สูง (150 ถึง 400 เท่า ของขนาดยาปกติในคน) พบว่ามีผลเป็นพิษต่อตัวอ่อนในครรภ์ได้

กำลังให้นมบุตร

สตรีให้นมบุตร ไม่ควรใช้ยานี้ มีการศึกษาในสัตว์พบว่ายาสามารถผ่านทางน้ำนมได้

เด็ก

ยังไม่มีการศึกษาถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยาในเด็ก ควรใช้ยาอย่างระมัดระวัง ภายใต้การดูแลของแพทย์

ผู้สูงอายุ

ระมัดระวังการใช้ในผู้สูงอายุ ควรเริ่มในขนาดที่ต่ำ เนื่องจากจะไวต่อยาสูงกว่าคนปกติ

ยาอื่นที่ใช้อยู่

ระมัดระวังการใช้ฟลูนาริซีน (flunarizine) ร่วมกับยาต่อไปนี้

• กลุ่มยากดการทำงานของประสาท (central nervous system depressant) และแอลกอฮอล์ จะมีผลเพิ่มระดับยาในเลือด
• คาร์บามาซีพีน (carbamazepine)ม เฟนิทอยน์ (phenytoin), เพคอินเตอร์เฟรอน (peginterferon), กรดวาลโพรอิค(valproic acid) จะมีผลต่อระดับยาในเลือด
• กลุ่มยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์ต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตอรอยด์ เช่น ไดโคลฟีแนก (diclofenac), ไอบิวโพรเฟน (ibuprofen), แอสไพริน (aspirin), อินโดเมทาซิน (indomethacin), เพียร็อกซิแคม (piroxicam) มีผลเพิ่มการระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร
• ยากลุ่มปิดกั้นบีต้า-แอดรีเนอจิก (beta-adrenergic blocking agents) เช่น อะทีโนลอล (atenolol), เมโทโพรลอล (metoprolol), โพรแพรโนนอล (propranolo) อาจส่งผลให้เกิดความดันต่ำ หัวใจเต้นช้า เป็นต้น

ยังมียาหลายชนิดที่ไม่ควรใช้ร่วมกับ ฟลูนาริซีน (Flunarizine) ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบว่าท่านกำลังใช้ยาใดอยู่ในขณะนี้

ภาวะโรคร่วม

• ห้ามใช้ยานี้หากมีภาวะซึมเศร้าหรือมีประวัติเป็นโรคซึมเศร้า, ผู้ป่วยพาร์กินสัน (parkinson), ผู้ที่มีความผิดปรกติชนิดเอ็กซ์ทราพีรามิดัล (extrapyramidal symptoms), ผู้ป่วยทางเดินอาหารหรือทางเดินปัสสาวะอุดกั้น, ผู้ที่มีภาวะพอร์ฟีเรีย (porphyria) เฉียบพลัน

• ระมัดระวังการใช้ในผู้ที่มีภาวะหรือโรคต่อไปนี้: โรคตับ, ภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร, โรคลมชัก, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคต้อหิน

การใช้ที่ถูกต้อง

• รับประทานยาได้ทั้งก่อนและหลังอาหาร การรับประทานยาก่อนอาหารหรือตอนท้องว่างเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด ทั้งนี้หากรู้สึกไม่สบายท้องให้รับประทานพร้อมอาหาร
• รับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวันเป็นประจำ ไม่ควรหยุดรับประทานยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
• รับประทานยาทางปาก โดยกลืนยาทั้งเม็ดพร้อมน้ำ ไม่ควรหัก บด หรือเคี้ยวเม็ดยา

ขนาดยา

ขนาดยาของฟลูนาริซีน (flurarizine) อาจแตกต่างกันในแต่ละอาการและในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรอย่างเคร่งครัด

เมื่อลืมใช้ยา

ให้รับประทานทันทีทีนึกได้ ถ้าใกล้เวลาของมื้อต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานมื้อถัดไปโดยใช้ขนาดยาตามแพทย์สั่ง ห้ามรับประทานยาเพิ่มเป็น 2 เท่า ไม่ควรเปลี่ยนขนาดยาหรือหยุดยา

การเก็บรักษา

• เก็บยาในภาชนะปิดสนิท อย่าให้โดนแสงโดยตรง อย่าเก็บในที่ร้อน
• เก็บยาที่อุณหภูมิห้อง
• เก็บยาในที่แห้ง อย่าเก็บในที่ชื้น เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว
• เก็บยาทุกชนิดให้พ้นสายตา มือเด็ก และสัตว์เลี้ยง
• ไม่ใช้ยานี้หลังจากวันหมดอายุ
• ไม่ควรทิ้งยานี้ผ่านท่อน้ำทิ้งหรือร่วมกับขยะจากครัวเรือนควรปรึกษาเภสัชกรสำหรับการกำจัดยา

ข้อควรระวัง

• ไม่แนะนำให้ใช้ในกรณีเกิดอาการไมเกรนเฉียบพลัน เนื่องจากอาจเกิดความผิดปรกติชนิดเอ็กซ์ทราพีรามิดัล (extrapyramidal symptoms)เช่น อาการสั่นหรืออวัยวะเคลื่อนไหวเองโดยไม่ตั้งใจ (tardive dyskinesia), อาการสั่นบริเวณปากและหน้า (orofacial dyskinesia), อาการพาร์กินสัน (Parkinsonism), อาการนั่งไม่ติดที่ (akathisia), อาการคอบิด (torticollis), สั่นและแข็งเกร็ง เป็นต้น โดยเฉพาะในผู้สูงอายุจะมีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติ
• หลีกเลี่ยงการขับขี่ยวดยาน และการทำงานกับเครื่องจักรที่อันตราย เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ ง่วงซึม
• ใช้ยาตามขนาดยาที่แพทย์สั่ง หรือเภสัชกรแนะนำ ไม่ควรหยุดยาเองควรปรึกษาแพทย์ และควรมีการลดขนาดยาลงช้า ๆ จนกว่าจะหยุด
• ไม่ควรนั่งหรือลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในผู้สูงอายุเนื่องจากจะทำให้วิงเวียน

อาการไม่พึงประสงค์

ก.อาการข้างเคียงที่อันตรายหรือรุนแรง หากท่านมีอาการต่อไปนี้ให้หยุดยา และรีบไปพบแพทย์ทันที

• มีอาการแพ้ยา
• กลุ่มอาการผิดปรกติชนิดเอ็กซ์ทราพีรามิดัล (extrapyramidal symptoms) เช่น อาการสั่นหรืออวัยวะเคลื่อนไหวเองโดยไม่ตั้งใจ (tardive dyskinesia), อาการสั่นบริเวณปากและหน้า (orofacial dyskinesia), อาการพาร์กินสัน (Parkinsonism), อาการนั่งไม่ติดที่ (akathisia), อาการคอบิด (torticollis), สั่นและแข็งเกร็ง เป็นต้น
• ภาวะซึมเศร้าฉับพลัน มีความคิดฆ่าตัวตาย
• พอร์ฟีเรีย (porphyria), หลอดเลือดดำอักเสบมีลิ่มเลือด (thrombophlebitis)
• มองเห็นไม่ชัด เห็นภาพซ้อน

ข. อาการข้างเคียงที่ไม่รุนแรง หากเกิดขึ้นอาจไม่จำเป็นต้องหยุดยา แต่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ เช่น วิตกกังวล, ง่วงซึม, เวียนศีรษะ, อ่อนแรง, นอนไม่หลับ, รู้สึกหมุน, น้ำนมไหล, เพิ่มความอยากอาหาร, อาการเจ็บปวดยอดอก (epigastric pain), แสบร้อนกลางอก, คลื่นไส้, อาเจียน, น้ำหนักเพิ่ม, ปากแห้ง, อาการอ่อนเปลี้ย, หมดแรง, ปวดกล้ามเนื้อ, เหงือกบวม, ปวดหัว, ภาวะใบหน้าปราศจากอารมณ์คล้ายสวมหน้ากาก, เดินลากเท้า, แขนขาติด, พูดหรือกลืนลำบาก แต่ถ้ามีอาการรุนแรงหรือทนไม่ได้หรือเกิดต่อเนื่อง ให้ไปพบแพทย์ทันที

ค. หากเกิดอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่อาจจะเกี่ยวกับยานี้ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกร

ข้อมูลเพิ่มเติม

• พอร์ฟีเรีย (Porphyria) คือ โรคพันธุกรรมซึ่งผู้ป่วยขาดเอนไซม์บางชนิดในการสังเคราะห์ฮีม (heme) ส่งผลให้เกิดการคั่งของพอร์เฟอริน (porphyrin) จนมีการขับออกมากทางปัสสาวะทำให้ปัสสาวะมีสีม่วงแดง และเกิดอาการต่าง ๆ เช่นปวดท้องและผิวหนังมีความไวต่อแสงผิดปรกติ เป็นต้น

กลุ่มยา

ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้

• Antihistamines
• Calcium antagonists, Calcium channel blocker

ยาที่เกี่ยวข้อง

ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้

Brompheniramine, Cetirizine, Chlorpheniramine, Cinnarizine, Desloratadine, Dimenhydrinate, Diphenhydramine, Fexofenadine, Hydrocortisone and Mepyramine (Topical) , Hydroxyzine, Loratadine, Amlodipine, Diltiazem, Felodipine, Nifedipine (Controlled release), Nifedipine (Immediate-release), Nifedipine (Retard, Sustained release), Verapamil

ชื่อทางการค้า

ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้

Cebrium capsules, Cedelate capsules, Fabelium capsules, Finelium capsules, Floxin capsules, Flubelin capsules, Flucilium tablets, Fludan capsules, Flunamed capsules, Flunaric capsules, Flunarium capsules, Flunarizine BLC capsules, Flunarizine GPO capsules, Fluricin capsules, Flurin capsules, Flurin tablets, Hexilium capsules, Liberal capsules, Poli-Flunarin capsules, Sibelium capsules, Simoyiam capsules, Sobelin capsules, Sovelium capsules, Vanid capsules, Vertilium capsules, Zelium capsules, Flunagen capsules (ฟลูนาเจน)

ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว

แหล่งอ้างอิง

1. CPM medica. MIMS Thailand Online. Available at http://www.mims.com. Access Date: 23 May, 2010.
2. DRUGDEX® System:Klasco RK (Ed): DRUGDEX® System (electronic version). Thomson Micromedex, Greenwood Village, Colorado, USA. Available at: http://www.thomsonhc.com. Access Date: 30 March, 2010.
3. Lacy CF, Armstrong LL, Goldman MP, Lance LL. Drug Information Handbook with international trade names index. 18th ed. Ohio: Lexi Comp In;2009.
4. MedlinePlus Trusted Health Information for You. Calcium channel blocker. Available at http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/drug_Aa.html. Access Date: March 17, 2005.