อ่าน: 3007
Verapamil (วีราพามิล )
วีราพามิล (verapamil) จัดเป็นยาในกลุ่มต้านแคลเซียม (calcium antagonist) โดยปิดกั้นช่องแคลเซียม (calcium channel blocker) ในกลุ่มที่ไม่ใช่ไดไฮโดรไพริดีน (non-dihydropyridine) ประเภทฟีนิลอัลคิลามีน (phenylalkylamine) ออกฤทธิ์ลดการกระตุ้นหัวใจส่งผลให้การเต้นของหัวใจลดลง มีผลขยายหลอดเลือด ส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
ยานี้ใช้ในการรักษาความดันเลือดสูง บรรเทาอาการปวดเค้นหัวใจ ป้องกันโรคปวดเค้นหัวใจเสถียรเรื้อรัง (chronic stable angina pectoris) ป้องกันและรักษาภาวะหัวใจเสียจังหวะ (cardiac arrythmia) รักษาภาวะอัตราหัวใจเต้นเร็วชั่วขณะ ป้องกันการเกิดไมเกรนหรืออาการปวดศีรษะ
ยานี้ไม่ได้ใช้เพื่อรักษาความดันเลือดสูงให้หายเพียงแค่ช่วยควบคุมความดันเลือด ภาวะความดันเลือดสูงที่ไม่ได้รับการรักษาจะทำให้เกิดปัญหาร้ายแรง เช่น หัวใจล้มเหลว โรคหลอดเลือด โรคลมเหตุหลอดเลือดสมอง หรือโรคไต
โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใด ๆ หรือมีประวัติการแพ้วีราพามิล (verapamil) หรือ ยาในกลุ่มฟีนิลอัลคิลามีน (phenylalkylamine) ตัวอื่น หรือ ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่น เช่น อาหาร, สารกันเสีย, สี เป็นต้น
มีอาการแพ้ยา เช่น ผื่น คัน ลมพิษ ตาบวม หน้าบวม ปากบวม ลิ้นบวม แน่นหน้าอก หายใจลำบาก เสียงหายใจหวีดหวือ ปฏิกิริยารุนแรงที่ผิวหนัง บวมน้ำกดไม่บุ๋ม ลักษณะผิวหนังแดงหลายรูป (erythema multiforme) ไข้ ผิวหนังอักเสบหลุดลอกเป็นแผ่น กลุ่มอาการสตีเวนส์จอห์นสัน (Stevens Johnson syndrome) หลอดเลือดอักเสบ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อลดการเกิดอาการวิงเวียน หน้าแดง และหัวใจเต้นเร็ว
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือสมุนไพรบางชนิด เช่น โสม, มาฮวง (ma huang หรือ ephedra), เซนต์เจอห์นเวิร์ท (St John’s wort) , แคลเซียม, น้ำเกรพฟรุ๊ท (grapefruit juice), กระเทียม, โยฮิมบีน (yohimbe)
- แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงการดื่มกาแฟ การสูบบุหรี่ และยาเสพติด เนื่องจากอาจมีผลต่อการทำงานของยานี้
ABCDX
รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'C' สำหรับสตรีมีครรภ์
จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาที่ควบคุมอย่างดีในมนุษย์ หรือ ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์และสัตว์ถึงผลของยาต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรใช้ยานี้เมื่อมีการประเมินแล้วว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์
สตรีมีครรภ์ ไม่ควรใช้ยานี้ อาจพิจารณาใช้เฉพาะรายที่มีความจำเป็น ยานี้สามารถผ่านรกไปสู่ทารกได้และมีรายงานสงสัยการเกิดภาวะหัวใจขัดต่อทารกในครรภ์ได้
สตรีให้นมบุตร ไม่ควรใช้ยานี้ เพราะยาสามารถผ่านทางน้ำนมได้
ไม่แนะนำให้ใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรระมัดระวังการใช้ยานี้ในผู้สูงอายุ อาจมีการปรับขนาดยาในผู้สูงอายุ
ก. ห้ามการใช้ยานี้ร่วมกับยาต่อไปนี้
- ดาบิกาแทรน (dabigatran), เอทิซิเลท (etexilate), โดฟีทิไลด์ (dofetilide), ราโนลาซีน (ranolazine), ไรวาโรซาแบน (rivaroxaban) และ โทโพทีแคน (topotecan)
ข. หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ร่วมกับยาดังต่อไปนี้ และต้องแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ ดังนี้
- ยาสำหรับความดันเลือดสูง ยากลุ่มปิดกั้นบีต้า-แอดรีเนอจิก (beta-adrenergic blocking agents) เช่น อะทีโนลอล (atenolol), เบแทกโซลอล (betaxolol), เมโทโพรลอล (metoprolol), โพรแพรโนนอล (propranolo), ไทโมลอล (timolol) และยาขับปัสสาวะ รวมถึงยาลดความดันกลุ่มอื่น
- ยาสำหรับอาการชัก เช่น คาร์บามาซีพีน (carbamazepine), ฟีโนบาร์บิทอล (phenobarbital), เฟนิทอยน์ (phenytoin)
- ยาสำหรับกดภูมิคุ้มกัน เช่น ไซโคลสพอริน (cyclosporin), แทโครลิมัส (tacrolimus)
- ยาสำหรับโรคเอดส์ เช่น นีไวราพีน (nevirapine), ยากลุ่มยับยั้งโปรตีเอส (protease inhibitors)
- ยาสำหรับการเต้นของหัวใจบางชนิด เช่น อะมิโอดาโรน (amiodarone), ไนคาร์ดิพีน (nicardipine), ดิลไทอาเซม (diltilazem), ควินิดีน (quinidine), ฟลีเคไนด์ (flecainide), โพรเคนาไม่ด์ (procainamide), ดิจอกซิน (digoxin)
- ยาปฏิชีวนะบางชนิด เช่น คลาริโทรไมซิน (clarithromycin), อีริโทรไมซิน (erythromycin), ไรแฟมพิน (rifampin),ไรฟามัยซิน (rifamycin),
- ยารักษาเชื้อรากลุ่มเอโซล (azole antifungals) เช่น ฟลูโคนาโซล (fluconazole), อิทราโคนาโซล (itraconazole), คีโทโคนาโซล (ketoconazole)
- ยาอื่นๆ เช่น แอมิโนฟิลลิน (aminophylline), ทีออฟิลลีน (theophylline), ลิเทียม (lithium), ไซเมทิดีน (cimetidine), เวคูโรเนียม (vercuronium), เฟนทานิล (fentanyl), ดอกโซรูบิซิน (doxorubicin), บิวสไพโรน (buspirone), ยากลุ่มสแททิน (statins) เช่น อะทอร์วาสแททิน (atorvastatin) , ซิมวาสแททิน (simvastatin), โคลนิดีน (clonidine), แอเซตาโซลาไมด์ (acetazolamide), แอมโฟเทอริซินบี (amphotericin B), คอร์ติโคสเตอรอยด์ (corticosteroids), เมทาโซลาไมด์ (metazolamide) , อะมิฟอสทีน (amifostine), คอลชิซีน (colchicine), เฟกโซเฟนาดีน (fexofenadine), แซลเมเทอรอล (salmeterol), โคลพิโดเกรล (clopidogrel)
ค. ยังมียาหลายชนิดที่ไม่ควรใช้ร่วมกับวีราพามิล (verapamil) ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบว่าท่านกำลังใช้ยาใดอยู่ในขณะนี้
- ห้ามใช้กับผู้ที่มีการหดแคบของเอออร์ตา (aortic stenosis), ภาวะหัวใจขัดชนิดเอวี (การนำกระแสประสาทจากหัวใจห้องบนไปยังหัวใจห้องล่างถูกขัด หรือ AV block) หัวใจห้องบนเต้นแผ่วระรัวในผู้ป่วยที่ผ่าตัดหัวใจ อาการปวดเค้นแบบไม่เสถียร (unstable agina pectoris) ช็อกเหตุหัวใจ (cardiogenic chock) โรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ (coronary artery syndrome) ความดันเลือดต่ำรุนแรง อัตราหัวใจห้องล่างเต้นเร็ว
- ระมัดระวังการใช้ยานี้ในผู้ที่อาการหัวใจล้ม (heart attack) ความดันเลือดต่ำ ความดันเลือดสูงแบบวิกฤติ ผู้ป่วยโรคตับ กล้ามเนื้อหัวใจตายเหตุขาดเลือด ความดันโลหิตต่ำ มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคไต ผู้ป่วยโรคตับ กลุ่มอาการที่มีจังหวะของหัวใจเต้นผิดปกติจากการทำงานผิดปกติของ sinus node (sick-sinus syndrome) ผู้ที่มีเนื้อตายเน่า มีภาวะกำเริบของอาการปวดเค้นหัวใจหลังได้รับยา ผู้ที่มีภาวะหัวใจโต ผู้ที่มีภาวะการกดการหายใจ ภาวะหัวใจห้องล่างซ้ายผิดปกติรุนแรง หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- รับประทานยาได้ทั้งก่อนและหลังอาหาร ให้รับประทานพร้อมอาหารหากรู้สึกไม่สบายท้อง และอาจรับประทานยาได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงมื้ออาหาร สำหรับยาประเภทออกฤทธิ์นานอาจรับประทานพร้อมอาหารหรือนม
- รับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวันเป็นประจำ ไม่ควรหยุดรับประทานยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
- รับประทานยาทางปาก กลืนพร้อมน้ำ
- อาจแบ่งครึ่งเม็ดยา หากไม่สามารถกลืนได้ทั้งเม็ด ห้ามเคี้ยวหรือบดยาประเภทที่ออกฤทธิ์นาน
ขนาดยาของยาวีราพามิล (verapamil) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรอย่างเคร่งครัด
ให้รับประทานทันทีทีนึกได้ ถ้าใกล้เวลาของมื้อต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานมื้อถัดไปโดยใช้ขนาดยาตามแพทย์สั่ง ห้ามรับประทานยาเพิ่มเป็น 2 เท่า ไม่ควรเปลี่ยนขนาดยาหรือหยุดยา
- เก็บยาในภาชนะปิดสนิท อย่าให้โดนแสงโดยตรง อย่าเก็บในที่ร้อน
- เก็บยาที่อุณหภูมิห้อง ไม่ควรเกิน 25 องศาเซลเซียส รูปแบบยาประเภทควบคุมการปลดปล่อยอาจเก็บยาอยู่ในช่วง 15 – 30 องศาเซลเซียส
- เก็บยาในที่แห้ง อย่าเก็บในที่ชื้น เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว
- เก็บยาทุกชนิดให้พ้นสายตา มือเด็ก และสัตว์เลี้ยง
- ไม่ใช้ยานี้หลังจากวันหมดอายุ
- ไม่ควรทิ้งยานี้ผ่านท่อน้ำทิ้งหรือร่วมกับขยะจากครัวเรือนควร ปรึกษาเภสัชกรสำหรับการกำจัดยา
- หลีกเลี่ยงการขับขี่ยวดยาน และการทำงานกับเครื่องจักรที่อันตราย เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ ง่วงซึม จนกว่าจะรู้ว่ายามีผลต่อตนเองอย่างไร
- มีความจำเป็นที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ไม่ควรหยุดยาเองหรือหยุดยาทันทีควรปรึกษาแพทย์ ควรมีการลดขนาดยาลงช้า ๆ จนกว่าจะหยุด
- ไม่ควรนั่งหรือลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในผู้สูงอายุเนื่องจากจะทำให้วิงเวียน
- ถ้าท่านต้องผ่าตัด แจ้งแพทย์ให้ทราบว่าท่านกำลังใช้ยานี้อยู่
- หากมีอาการท้องผูกควรรับประทานน้ำเพิ่มมากขึ้น ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือรับประทานอาหารที่มีเส้นใย อาจปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับสารทำให้อุจจาระนุ่มหรือยาถ่าย
ยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์บางอย่างที่ไม่ต้องการ ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับผู้ใช้ยาทุกราย แต่หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ก.อาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง ต้องหยุดยาแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที อาการที่พบ เช่น
- อาการแพ้ยา
- หมดสติ, เวียนศีรษะรุนแรง, ความรู้สึกวิงเวียนคล้ายจะหมดสติ
- เจ็บหน้าอก, กล้ามเนื้อหัวใจตายเหตุขาดเลือด (myocardial infarction), ภาวะหัวใจเสียจังหวะ (cardiac arrythmia), อัตราหัวใจเต้นเร็ว (tachycardia), หัวใจเต้นแผ่วระรัว (cardiac fibrillation), อาการใจสั่น (palpitation), หัวใจเต้นตุบ ๆ (heart pounding), หัวใจเต้นช้า (bradycardia), หัวใจล้มเหลว (heart failure), หายใจลำบาก (dyspnea), เหนื่อยอย่างมากและไม่ยอมหาย, ความดัเลือดต่ำ, ภาวะหัวใจขัด (heart block), หัวใจหยุดนิ่ง (asystole)
- ตับอ่อนอักเสบ, การทำหน้าที่ของตับผิดปกติ, ตับอักเสบ, ดีซ่าน, เอนไซม์ตับสูงขึ้น, ตัวหรือตาเหลือง, ปวดท้องรุนแรง, ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม
- อาการบวมน้ำบริเวณตาตุ่มหรือข้อเท้า, ปอดบวมน้ำ, ปวดตามกล้ามเนื้อหรือข้อ
- ภาวะซึมเศร้า, วิตกกังวล, ภาวะกายใจไม่สงบ (agitation), กระตุก, ง่วงซึม, ความสามารถทางเพศลดลง, องคชาติไม่สามารถแข็งตัวได้, สับสน
ข.อาการไม่พึงประสงค์ที่ไม่รุนแรง
หากเกิดขึ้นอาจไม่จำเป็นต้องหยุดยา แต่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ เช่น ท้องผูก, ท้องร่วง, อ่อนแรง, อาการปวดศีรษะ, เวียนศีรษะ, คลื่นไส้, อาเจียน, อาการหน้าแดง, ผมร่วง, เต้านมโตในผู้ชาย, น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว, อาการปวดท้องหรือไม่สบายท้อง, ปากแห้ง, เหงือกงอกมากเกิน (gingival hyperplasia), อาการปวดข้อ, ลำไส้อุดตัน, ผมเปลี่ยนสี, ตะคริว, อาการรู้สึกหมุน, มีเลือดออกใต้ผิวหนังและทำให้ผิวหนังเป็นสีม่วง (purpura) แต่ถ้ามีอาการรุนแรงให้ไปพบแพทย์ทันที
ค. หากเกิดอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่คาดว่าน่าจะเกิดจากยานี้ ให้ไปพบแพทย์หรือเภสัชกร
ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้
ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้
Amlodipine, Cinnarizine, Diltiazem, Felodipine, Flunarizine, Nifedipine (Controlled release), Nifedipine (Immediate-release), Nifedipine (Retard, Sustained release)
ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้
Caveril tablets (40 mg) , Isoptin (sustain-release tablets) , Sopmil tablets (40 mg) , Verapin tablets (40 mg) , Vermine coated tablets (40 mg)
ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว
ยานี้มีชื่อภาษาไทยอื่นที่มีการใช้ดังต่อไปนี้
เวอราพามิล, เวอราปามิล
ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อภาษาไทยอื่นที่อาจมีการใช้ ซึ่งไม่ได้แสดงในนี้
- CPM medica. MIMS Thailand Online. Available at http://www.mims.com. Access Date: 10 April, 2010.
- DRUGDEX® System:Klasco RK (Ed): DRUGDEX® System (electronic version). Thomson Micromedex, Greenwood Village, Colorado, USA. Available at: http://www.thomsonhc.com. Access Date: 3 March, 2010.
- Lacy CF, Armstrong LL, Goldman MP, Lance LL. Drug Information Handbook with international trade names index. 18th ed. Ohio: Lexi Comp In;2009.
- MedlinePlus Trusted Health Information for You. Calcium channel blocker. Available at http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/drug_Aa.html. Access Date: March 17, 2005.