- แตงโม ไม่เพียงแค่อร่อยแต่ยังเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินเอ และซี นอกจากนี้ยังมีไลโคปีน ซึ่งมีการศึกษาพบว่าช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และการสูญเสียการมองเห็นจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น สิ่งที่น่าพึงพอใจมากสำหรับสุภาพสตรี คือ แคลอรี่น้อยและไม่เป็นอันตรายต่อรอบเอวอีกด้วย (แตงโม 1 ถ้วยให้พลังงานน้อยกว่า 50 แคลอรี่)
- อะโวคาโด ผลไม้ชนิดนี้มีประโยชน์มากมายสามารถนำไปใช้ทำสลัด หรือแซนวิช เป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยไขมันไม่อิ่นตัวเชิงเดี่ยวซึ่งดีต่อสุขภาพของหัวใจ และสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (อะโวคาโดชิ้นขนาดกลางๆ 1 ชิ้นให้พลังงาน 65 แคลอรี่)
- มันเทศ อุดมไปด้วยวิตามินเอและเส้นใย และให้แคลอรี่น้อยกว่ามันฝรั่งประมาณครึ่งหนึ่ง (มันเทศหัวขนาดกลาง 1 หัวให้พลังงาน 150 แคลอรี่)
- ปลาแซลมอน เต็มไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ อีกทั้งยังให้แคลอรี่ต่ำ โดยเฉพาะถ้านำไปปรุงด้วยวิธีการอบหรือย่างจะยิ่งเป็นอาหารที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องระมัดระวังเรื่องของน้ำหนัก และหากเพิ่มบรอคโคลี่และมันเทศจะกลายเป็นมื้ออาหารที่เต็มไปด้วยโภชนาการแต่มีแคลอรี่ต่ำ (เนื้อปลาแซลมอน 4 ออนซ์ให้พลังงาน 160 แคลอรี่)
- ราสเบอร์รี่ เป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่ต่ำ อีกทั้งราสเบอร์รี่ยังเป็นแหล่งอาหารที่ดุดมไปด้วยวิตามินบี, ฟลาโวนอยด์, เส้นใย และวิตามินซี (ผลราสเบอร์รี่สด 1 ถ้วย ให้พลังงานเพียง 60 แคลอรี่)
- หัวหอม เมื่อนำหัวหอมสับไปปรุงเป็นอาหารโดยวิธีการผัด ปรุงเป็นซุป และอบจะเป็นวิธีที่ดีที่จะรวมเอาสารควอเซตินเข้าไว้ในอาหาร สารควอเซตินมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจจะช่วยป้องกันโรคต่างๆ รวมทั้งโรคมะเร็งด้วย (หัวหอมสับ 1 ถ้วยให้พลังงาน 60 แคลอรี่)
- โยเกิร์ต เป็นอาหารว่างเบาๆ แต่อุดมไปด้วยโปรตีนและการที่ร่างกายได้รับโปรตีนเพียงพอจะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนัก เพราะกล้ามเนื้อทุกๆ 1 ปอนด์ที่เพิ่มขึ้นจะสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้ถึง 35-50 แคลอรี่ต่อวัน (โยเกิร์ตหนึ่งถ้วยจะให้พลังงานเพียง 150 แคลอรี่)
- ข้าวคีนัว (quinoa) เมล็ดข้าวที่เต็มไปด้วยเส้นใยและโปรตีน จึงมีประสิทธิภาพมากในการคงไว้ซึ่งระดับน้ำตาลในเลือด อีกทั้งยังช่วยให้รู้สึกอิ่มเต็มที่และลดโอกาสในการเริ่มรับประทานอาหารซ้ำอีกครั้งชั่วโมงถัดไป
ข่าวจาก: U.S.News