การศึกษาก่อนหน้านี้ ผู้หญิงที่มีมดลูกสมบูรณ์ได้แสดงให้เห็นว่าใช้เอสโตรเจนท์และโปรเจสติน การสังเคราะห์ของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (progesterone) เพิ่มโอกาสในการตายจากโรคมะเร็งปอด (ดูเรื่องสุขภาพของ Reuters 21 กันยายน 2009)
ดร.โรวัน เชรโบสกี๊ (Rowan T. Chlebowski) การใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนท์เพียงอย่างเดียวส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดกว่าการกินยาหลอก(presbo pills)ติดต่อการนาน 8 ปี
นักวิจัยได้คำนวณว่า 8 ใน 10,000 ผู้หญิงจะเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปอดทุกปีไม่ว่าพวกเขาใช้เอสโตรเจนท์หรือยาหลอก
ข้อมูลในวารสารของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ความว่า “การค้นพบนี้น่าจะทำให้ผู้หญิงที่จะต้องผ่าตัดมดลูกและผู้ที่จะต้องใช้เอสโตรเจนท์สำหรับอาการวัยหมดประจำเดือนมั่นใจ”
การใช้ฮอร์โมนบำบัดทดแทนการรักษา (HRT) ยังคงมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับวัยหมดประจำเดือนเช่น อาการร้อนวูบวาบและเหงื่อออกรุนแรงในเวลากลางคืนและยังสามารถรักษามวลกระดูกใว้ได้
แต่ผู้หญิงกว่าหนึ่งล้านคนหยุดใช้หลังจากการศึกษาขนาดใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐฯในปี 2002 พบว่าสตรีวัยหมดประจำเดือนที่ใช้เอสโตรเจนผสมกับโปรเจสติน มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจ, หลอดเลือด, มะเร็งเต้านมและการอุดตันของหลอดเลือดกว่าผู้หญิงได้รับยาหลอก
การศึกษาใหม่ได้ติดตามผู้หญิงมากกว่า 10,000 คน อายุ 50-79 ปี ที่ใช้ยาฮอร์โมนหญิงหรือยาหลอก
ในกลุ่มผู้ใช้ฮอร์โมน, 61 คน (ร้อยละ 0.15 ต่อปี) มีความเสียงที่จะเป็นมะเร็งปอดเมื่อเทียบกับ 54 คน (ร้อยละ 0.13 ต่อปี) ในกลุ่มยาหลอก
ซานโตโร (Santoro) ประธานของสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาที่มหาวิทยาลัยโคโลราโด เตือนว่าเอสโตรเจนเท่านั้นที่เป็นตัวเลือกสำหรับผู้หญิงที่ไม่มีมดลูก
ข่าวจาก Reuters