ยาฝังคุมกำเนิด
เป็นการคุมกำเนิดโดยใช้หลอดยาบรรจุฮอร์โมนจำนวน 2 หลอด ฝังที่บริเวณด้านในของต้นแขน ใช้เวลาในการฝังยาประมาณ 10 นาที แต่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้นานถึง 5 ปี
ยาฝังคุมกำเนิดมีผลดีอย่างไร
- เป็นวิธีคุมกำเนิดชั่วคราวที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูง ปลอดภัย
- สะดวก ฝังยาเพียงครั้งเดียว สามารถคุมกำเนิดได้นานถึง 5 ปี
- ไม่ต้องมีข้อปฏิบัติขณะร่วมเพศ
- เมื่อครบ 5 ปี หรือเมื่อต้องการบุตร เพียงแต่มาพบแพทย์เพื่อถอดยาฝังคุมกำเนิดออก ก็จะมีบุตรได้ตามปกติ
ป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างไร
- เปลี่ยนแปลงเยื่อมูกที่บริเวณปากมดลูกให้มีลักษณะเหนียวข้น ทำให้ตัวอสุจิไม่สามารถผ่านไปผสมกับไข่ได้
- เปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูกให้มีลักษณะฝ่อ ไม่เหมาะแก่การฝังตัวของไข่ที่ถูกผสมแล้ว
- ยับยั้งการตกไข่
สตรีที่เหมาะจะฝังยาคุม
- ไม่มีข้อห้ามในการฝังยาคุม
- ต้องการเว้นช่วงการมีบุตรอย่างน้อย 5 ปี
- ไม่ต้องการมีบุตรแต่ยังไม่พร้อมจะทำหมัน
- มีข้อห้ามในการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน
ข้อห้ามในการฝังยาคุม
- ตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์
- เป็นหรือสงสัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม
- มีเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก โดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีความผิดปกติของระบบการแข็งตัวของหลอดเลือด หรือกำลังได้รับยาต้านทานการแข็งตัวของหลอดเลือด
- มีความผิดปกติเกี่ยวกับการทำงานของตับ หรือเคยมีประวัติโรคตับ
เวลาที่เหมาะสมในการฝังยาคุม
- ภายใน 7 วันแรกของการมีระดูหรือเมื่อใดก็ได้ที่แน่ใจว่าไม่ได้กำลังตั้งครรภ์
- หลังการแท้งบุตรทันที หรือ 7 วันแรกหลังแท้ง
- หลังคลอด 4 – 6 สัปดาห์
มีอาการข้างเคียงอย่างไร
หลังฝังยาคุมอาจพบรอบเดือนผิดปกติ เช่น ระดูมามาก มานาน มากระปลิดประปรอย หรือไม่มีระดูมาเลย แต่ไม่มีผลเสียต่อสุขภาพ
อาการข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งคล้ายกับฮอร์โมนคุมกำเนิดอื่น ๆ ได้แก่ น้ำหนักขึ้น ปวดศีรษะ เป็นสิว
ข้อปฏิบัติหลังฝังยาคุม
- ควรงดร่วมเพศ หรือใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยใน 7 วันแรกของการฝังยาคุมกำเนิด
- ควรมาพบแพทย์ตามนัด 7 วัน เพื่อดูแลแผลที่ฝังยาและต่อไปปีละครั้งเพื่อติดตามผลและตรวจมะเร็งปากมดลูกประจำปี
การดูแลบริเวณที่ฝังยาคุม
- แกะผ้าพันแผลออกหลังฝังยาได้ 1 – 2 วัน
- รักษาบริเวณที่ฝังยาให้แห้ง อย่าโดนน้ำ 7 วัน
- บริเวณที่ฝังยาอาจมีจ้ำเลือดหรือบวม ซึ่งจะหายปกติใน 1 – 2 วัน
- ควรหลีกเลี่ยงการออกแรงหนัก ๆ ด้วยแขนข้างที่ฝังยาประมาณ 7 วัน
- ควรหลีกเลี่ยงการกระทบกระแทกอย่างแรงบริเวณที่ฝังยาคุม
- ควรมาพบแพทย์ ถ้าบริเวณที่ฝังยาคุมมีการติดเชื้อ เป็นหนอง หรือมีอาการปวด บวม แดง
ข้อมูลจาก: หน่วยวางแผนครอบครัว โรงพยาบาลสงขลานครินทร์