อ่าน: 376
Small_font Large_font

Hydrocortisone and Ciprofloxacin (Otic) (ยาสูตรผสมไฮโดรคอร์ติโซนและซิโพรฟลอกซาซินชนิดหยอดหู)

คำอธิบายพอสังเขป

ยาสูตรผสมไฮโดรคอร์ติโซนและซิโพรฟลอกซาซินชนิดหยอดหู (hydrocortisone and ciprofloxacin otic preparations) ประกอบด้วยตัวยาสำคัญ คือ

  • ไฮโดรคอร์ติโซน (hydrocortisone) เป็นยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตอรอยด์ (corticosteroids) หรืออาจเรียกสั้น ๆ ว่า สเตอรอยด์ ไฮโดรคอร์ติโซน มีฤทธิ์ลดอาการอักเสบและการแพ้เช่น อาการระคายเคือง บวม แดง คัน

  • ซิโพรฟลอกซาซิน หรือ ซิโปรฟลอกซาซิน (ciprofloxacin) เป็นยากลุ่มฟลูออโรควิโนโลน (fluoroquinolones) ใช้สำหรับรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย

ยาสูตรผสมไฮโดรคอร์ติโซนและซิโพรฟลอกซาซินชนิดหยอดหูใช้รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียของหูส่วนนอกที่มีการอักเสบชนิดรุนแรงฉับพลันหรือเรื้อรัง โดยใช้ในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ต้องแน่ใจว่าไม่ได้เกิดจากเชื้อรา หรือไวรัส

ยาที่มีจำหน่ายได้แก่

  • ยาสูตรผสมไฮโดรคอร์ติโซนและซิโพรฟลอกซาซินชนิดหยอดหู (hydrocortisone and ciprofloxacin ear drops)

ก่อนการใช้ยา

การแพ้ยา

โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใด ๆ หรือมีประวัติการแพ้ยาไฮโดรคอร์ติโซน (hydrocortisone) หรือยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตอรอยด์ (corticosteroids) หรือ ยาซิโพรฟลอกซาซิน (ciprofloxacin) หรือยาในกลุ่มฟลูออโรควิโนโลน (fluoroquinolones) ตัวอื่น หรือส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่น ๆ เช่น อาหาร, สารกันเสีย, สี เป็นต้น

อาหารและเครื่องดื่มที่ต้องระวัง

ท่านสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติเว้นแต่ว่าแพทย์ได้แจ้งท่านเป็นอย่างอื่น

ตั้งครรภ์

ABCDX

รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'C' สำหรับสตรีมีครรภ์

จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาที่ควบคุมอย่างดีในมนุษย์ หรือ ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์และสัตว์ถึงผลของยาต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรใช้ยานี้เมื่อมีการประเมินแล้วว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์

ไม่มีการศึกษาการใช้ยาที่มีส่วนผสมของยากลุ่มคอร์ติโคสเตอรอยด์ชนิดใช้หยอดหู (otic corticosteroids) ในสตรีมีครรภ์ในมนุษย์ แต่จากการศึกษาในสัตว์ทดลอง พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนของสัตว์ทดลอง สตรีมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้

กำลังให้นมบุตร

ไม่พบว่ายากลุ่มคอร์ติโคสเตอรอยด์ ชนิดใช้หยอดหู (otic corticosteroids) ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อทารกที่ได้รับน้ำนมมารดา อย่างไรก็ตามยากลุ่มคอร์ติโคสเตอรอยด์ ชนิดรับประทานสามารถผ่านออกทางน้ำนมได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้ในระหว่างที่ให้นมบุตร

เด็ก

ยังไม่มีการพิสูจน์ถึงความปลอดภัย และประสิทธิผลของการใช้ยานี้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี

ผู้สูงอายุ

ไม่พบความแตกต่างด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยระหว่างการใช้ยานี้ในผู้ป่วยสูงอายุและวัยผู้ใหญ่ช่วงอายุอื่น

ยาอื่นที่ใช้อยู่

ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาหยอดบริเวณเดียวกันกับยาสูตรผสมไฮโดรคอร์ติโซนและซิโพรฟลอกซาซินชนิดหยอดหู (hydrocortisone and ciprofloxacin otic preparations)

ภาวะโรคร่วม

ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ยาสูตรผสมไฮโดรคอร์ติโซนและซิโพรฟลอกซาซินชนิดหยอดหู (hydrocortisone and ciprofloxacin otic preparations) ท่านควรแจ้งแพทย์หากท่านมีภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น

  • โรคเบาหวาน
  • โรคลมชัก
  • โรคหัวใจ หลอดเลือด
  • ต้อหิน
  • โรคความดันโลหิตสูง
  • โรคกระดูกพรุน
  • โรคเชื้อราในช่องหู
  • วัณโรค
  • โรคติดเชื้อไวรัสในช่องหู
  • โรคหูชั้นกลางอักเสบจากการติดเชื้อ
  • แก้วหูทะลุ เนื่องจากอาจทำให้ยาดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด และอาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นได้

การใช้ที่ถูกต้อง

ขั้นตอนการใช้ยาหยอดหู

  1. หากมีหนองในหูมาก ควรทำความสะอาดช่องหูก่อนด้วยไม้พันสำลี พันเอาหนองออกให้มากที่สุด เพื่อมิให้ยาหยอดเจือจางจนเกินไป ยกเว้นในรายที่หยอดหูเพื่อละลายขี้หู ไม่ควรแคะใด ๆ เพราะจะทำให้ขี้หูเคลื่อนที่ลึกมากขึ้น
  2. หากเก็บยาไว้ในตู้เย็น ก่อนใช้ให้เอาขวดยาใส่ในฝ่ามือ และกำไว้สัก 2-3 นาที เพื่อให้อุณหภูมิของยาใกล้เคียงกับอุณหภูมิของร่างกาย
  3. เขย่าขวดก่อนใช้ยา
  4. นอนตะแคงหรือเอียงศีรษะให้หูข้างที่จะหยอดยาหันขึ้นข้างบน
  5. ดึงใบหูขึ้นบน เอนไปข้างหลังในขณะหยอดหู แล้วตะแคงศรีษะไว้นาน 5-10 นาที เพื่อให้ยาสัมผัสกับผิวหนังมากที่สุด ยาที่ไหลออกมาภายนอกสามารถเช็ดได้ แต่ไม่ควรเช็ดในรูหู ในกรณีที่แก้วหูทะลุ ยาอาจไหลเข้าไปในท่อระบายความดันที่เชื่อมระหว่างหูชั้นกลางกับลำคอส่วนบน (Eustachian tube) ได้ ทำให้รู้สึกขมในคอจากยาที่ไหลลงคอ คล้ายกับเวลาหยอดตา ซึ่งไม่เป็นการผิดปกติแต่ประการใด
  6. หยอดยาในหูตามที่กำหนด แต่ไม่ควรเอาหลอดหยดสอดเข้าไปในรูหู เพราะหลอดหยดอาจทำให้เกิดบาดแผลต่อหูได้ และควรพยายามไม่ให้หลอดหยดสัมผัสกับสิ่งใดๆ เพื่อป้องกันสิ่งปนเปื้อนเข้าไปในยา
  7. นอนตะแคงหรือเอียงศีรษะอยู่ในท่าเดิม 3-5 นาที
  8. ถ้ารูหูบวมมาก ไม่แน่ใจว่าจะหยอดยาผ่านเข้าไปได้หรือไม่ ควรใช้สำลีปั่นเป็นเส้นเล็ก ๆ ยาว ๆ แล้วสอดเข้าไปในรูหู เพื่อหยอดยาผ่านสำลีนี้ และควรเปลี่ยนสำลีนี้ทุกวันจนกระทั่งรูหูกว้างพอที่จะหยอดยาได้ตามปกติ
  9. หากมีผื่น บวมแดง ปวดหูมากขึ้น เวียนศีรษะ หูอื้อมากขึ้นให้หยุดยาแล้วนำยาที่ใช้ไปปรึกษาแพทย์ทันที

ขนาดยา

ขนาดยาของยาสูตรผสมไฮโดรคอร์ติโซนและซิโพรฟลอกซาซินชนิดหยอดหู(hydrocortisone and ciprofloxacin otic preparations) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามใบสั่งยาของแพทย์หรือตามที่ฉลากระบุ

เมื่อลืมใช้ยา

ถ้าลืมหยอดหู ให้หยอดทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเกือบจะถึงเวลาที่จะหยอดครั้งต่อไป ก็ไม่ต้องหยอดครั้งที่ลืม แต่รอหยอดยาครั้งต่อไปได้เลย

การเก็บรักษา

  • เก็บยาให้พ้นมือเด็ก
  • เก็บให้ห่างจากความร้อนและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
  • ให้เก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส แต่ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็ง
  • ห้ามใช้ยาหลังวันสิ้นอายุของยาที่แสดงไว้บนฉลาก หากไม่ระบุเป็นอย่างอื่น วันสิ้นอายุของยา หมายถึง วันสุดท้ายของเดือนที่แสดงบนฉลาก
  • ยาที่ผลิตจากแต่ละบริษัทอาจมีวิธีการเก็บยาแตกต่างกัน ให้อ่านวิธีการเก็บยาโดยละเอียดจากฉลากยาด้วย

ข้อควรระวัง

หากอาการไม่ดีขึ้นใน 7 วัน หรืออาการแย่ลงควรรีบกลับไปพบแพทย์
หยุดยา และรีบกลับไปพบแพทย์ทันที หากใช้ยาแล้ว มีผื่นผิวหนัง หรือปฏิกิริยาการแพ้เกิดขี้น

  • ก่อนใช้ยาซิโพรฟลอกซาซินชนิดใช้กับดวงตา (ophthalmic ciprofloxacin) ควรแน่ใจก่อนว่าผู้ป่วยไม่เคยมีประวัติแพ้ยาอื่นในกลุ่มฟลูออโรควิโนโลน (fluoroquinolones) และควรสังเกตอาการแพ้ยาอย่างใกล้ชิดถ้าผู้ป่วยเคยมีประวัติแพ้ยาดังกล่าวและได้รับยาซิโพรฟลอกซาซิน เพราะมีโอกาสเกิดการแพ้ข้ามกันได้
  • ห้ามใช้หยอดตา
  • การใช้ยาเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการดื้อยาและการเจริญมากไปของเชื้อที่ดื้อยาได้ ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ซ้ำซ้อนได้ (superinfection)
  • หากการติดเชื้อแบคทีเรียยังไม่ดี หรือขยายกว้างขึ้นให้หยุดยา
  • การติดเชื้อแบคทีเรียอาจขยายกว้างขึ้นโดยไม่สามารถทราบได้ เนื่องจากผลของยาไฮโดรคอร์ติโซน (hydrocortisone) บดบังอาการไว้

  • หากหยอดยานี้มากเกินไป และหยอดติดต่อกันนานเกินไป อาจทำให้มีการดูดซึมยาไฮโดรคอร์ติโซนเข้าสู่ร่างกายอาจทำให้เกิดภาวะกดการทำงานของต่อมไฮโปทาลามัส-พิทูอิทารี-ต่อมหมวกไต (hypothalamic-pituitary-adrenal axis suppression) ซึ่งอาจแสดงออกโดยกลุ่มอาการคุชชิ่ง (Cushing’s syndrome) ซึ่งทำให้มีความผิดปกติหลายอย่าง เช่น บวมน้ำ น้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว หน้ากลมเหมือนดวงจันทร์ มีโหนกตรงต้นคอ นอกจากนี้ยังทำให้น้ำตาลในเลือดสูง และมีน้ำตาลออกมากับปัสสาวะ

อาการไม่พึงประสงค์

ยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์อย่างที่ไม่ต้องการ ถึงแม้ว่าอาการไม่พึงประสงค์ต่อไปนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นทั้งหมด แต่หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม

ก. พบแพทย์ทันทีหากมีอาการต่อไปนี้
พบน้อยมาก

  • ตาบวม, ผื่นลมพิษ, คัน , หน้าบวม, แน่นหน้าอก, หายใจลำบาก

พบไม่บ่อย

  • ตาพร่า
  • ปวดศีรษะ
  • ความดันโลหิตสูง
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ติดเชื้อราในช่องหู

พบน้อย

  • สูญเสียการได้ยิน
  • คัน, แดง, บวม , ระคายเคืองโดยไม่เคยเป็นมาก่อน

ข. พบแพทย์โดยเร็ว หากในอาการต่อไปนี้

พบน้อยมาก

  • เวียนศรีษะ

ค.อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาหรือหยุดยาไปแล้วเนื่องจากร่างกายจะปรับตัว เข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนาน หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน

พบน้อย

  • รู้สึกแสบร้อนในหู

ง. อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย หากท่านสังเกตเห็นอาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

กลุ่มยา

ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้

ยาที่เกี่ยวข้อง

ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้

Ciprofloxacin, Ciprofloxacin (Ophthalmic), Dexamethasone and Ciprofloxacin (Otic) , Dexamethasone and Moxifloxacin (Ophthalmic) , Gatifloxacin, Gatifloxacin (Ophthalmic) , Levofloxacin, Levofloxacin (Ophthalmic) , Lomefloxacin, Moxifloxacin, Moxifloxacin (Ophthalmic) , Nalidixic acid, Norfloxacin, Ofloxacin, Ofloxacin (Ophthalmic) , Ofloxacin (Otic) , Prednisolone and Ofloxacin (Ophthalmic) , Betamethasone and Neomycin (Otic) , Dexamethasone and Gentamicin (Otic) , Dexamethasone and Neomycin (Otic) , Dexamethasone, Framycetin and Gramicidin (Otic), Fludrocortisone, Neomycin, Furaltadone, Polymyxin B, and Lidocaine (Otic), Prednisolone and Gentamicin (Otic) , Prednisolone and Neomycin (Otic)

ชื่อทางการค้า

ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้

Cipro HC otic

ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว

แหล่งอ้างอิง

  1. กองควบคุมยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข. สืบค้นทะเบียนยาสามัญสำหรับยาเดี่ยว.Hydrocortisone . Available at: http://wwwapp1.fda.moph.go.th/ed2547/?url=14 Access Date: May 7, 2010.
  2. สุชาดา ชุติมาวรพันธ์, โพยม วงศ์ภูวรักษ์, อภิฤดี เหมะจุฑา. คู่มือทักษะตามเกณฑ์ความรู้ความสามารถทางวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม (พ.ศ.2550). สภาเภสัชกรรม. หน้า 66-91.
  3. Dailymed current medication information . Hydrocortisone . Available at: http://dailymed.nlm.nih.gov/dailymed/drugInfo.cfm?id=6758 Date: JAN 14, 2011.
  4. DRUGDEX® System:Klasco RK (Ed): DRUGDEX® System (electronic version). Thomson Micromedex, Greenwood Village, Colorado, USA. Available at: http://www.thomsonhc.com (cited: 30/12/2010).
  5. MedlinePlus Trusted Health Information for You. Corticosteroids (Otic) Available at http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/drug_Aa.html. Access Date: March 17, 2005.
  6. The Merck Manuals Online medical Library The Merck Manual for Healthcare Professionals Ofoxacin Drug Information Provided by Lexi-Comp. Available at:http://www.merckmanuals.com/professional/lexicomp/ciprofloxacin.html Access Date: Dec 30, 2010.

ไตรรัตน์ แก้วเรือง
โพยม วงศ์ภูวรักษ์
15 มกราคม 2554 21 มีนาคม 2554
เพื่อนแนะนำ : เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย, เราชนะรอบ 4, ยืมเงิน 3000 ด่วน, แอพผ่อนของ, กู้เงิน, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อไม่เช็ค บูโรถูกกฎหมาย