นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยมสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ ตำบลหาดยาย อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร เกี่ยวกับกรณีข่าวหญิงตั้งครรภ์ชาวชุมพรที่เสียชีวิตภายหลังฉีดวัคซีน ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า จนถึงวันนี้ ยังไม่พบว่าวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่กระทรวงสาธารณสุขรณรงค์ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั้ง 5 กลุ่มมารับบริการฉีดฟรี ที่โรงพยาบาลรัฐบาลทั่วประเทศ จะมีผลกระทบให้เกิดอันตรายต่อกลุ่มเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ ในทางตรงข้ามหากไม่มารับการฉีดวัคซีนแล้ว และเกิดการแพร่ระบาดของโรคขึ้น โอกาสเสียชีวิตจะสูงกว่ามาก ดังนั้นจึงขอเรียนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงว่า ขอให้มารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่โรงพยาบาลรัฐบาลทั่วประเทศ

การให้บริการฉีดวัคซีน 2 ล้านโด๊ส ขณะนี้ฉีดให้กลุ่มเสี่ยงไปแล้วประมาณ 3 แสนโด๊ส ยังเหลืออีก 1.7 ล้านโด๊ส ซึ่งจะจำกัดฉีดให้เฉพาะกลุ่มเสี่ยงก่อน สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีร่างกายแข็งแรง ยังไม่เปิดบริการ ทั้งนี้สาเหตุที่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับบริการฉีดน้อย เนื่องจากกระแสข่าวที่เกิดจากคนส่วนหนึ่งเข้าใจผิดว่า สตรีตั้งครรภ์ไปฉีดวัคซีนแล้วเกิดปัญหา เช่นลูกเสียชีวิตบ้าง แท้งบ้าง ซึ่งความจริง ผลการตรวจสอบจนถึงวันนี้ยังไม่มีรายใดที่เกิดจากการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 จึงเป็นเพียงการวินิจฉัยเข้าใจกันไปเองว่าเกิดจากวัคซีน ซึ่งผลจากการตรวจสอบ ส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตเกิดจากแม่มีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว หรือมีประวัติเคยแท้งบุตรมาก่อน ซึ่งแม้ไม่มาฉีดวัคซีนก็มีโอกาสแท้งอยู่แล้ว

นอกจากนี้ มาตรการเพื่อลดการเสียชีวิตทั้งกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มทั่วไป เมื่อป่วยเป็นไข้หรือไข้หวัดใหญ่ ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที ทางกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการเป็นนโยบายกับปลัดกระทรวงสาธารณสุขไปแล้วว่า ให้ยาต้านไวรัสได้ทันที ไม่ต้องรอผลตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการว่าเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 หรือไม่ ซึ่งจะช่วยลดการเสียชีวิตได้

ที่มา กระทรวงสาธารณสุข