สาธารณสุข ให้ทุกจังหวัดเร่งรัด 3 มาตรการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เน้นเฝ้าระวังโรคในกลุ่มอาการคล้ายไข้หวัดในสถานพยาบาล เพื่อตรวจจับการระบาดในระยะเริ่มต้น
พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ เตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ครั้งที่ 1/2553 กล่าว ว่า จากการประเมินผลสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ 2009ในประเทศไทยมีการแพร่ระบาดทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2552 – 13 กุมภาพันธ์ 2553 มีผู้ป่วยยืนยันผลทางห้องปฏิบัติการ 32,953 ราย จากการศึกษาของสำนักระบาดวิทยา คาดว่าในระลอกแรกคนไทยร้อยละ 10 หรือประมาณ 8 ล้านคน น่าจะติดเชื้อและป่วยแล้ว โดยส่วนใหญ่อาการไม่มากและไม่ได้ไปโรงพยาบาล มียอดผู้เสียชีวิตสะสมทั้งหมด206ราย ได้ให้กระทรวงสาธารณสุขกำชับทุกจังหวัด เร่งรัดดำเนินการควบคุมป้องกันโรค 3 มาตรการหลัก ได้แก่
1.ให้เฝ้าระวังโรคในกลุ่มอาการคล้ายไข้หวัดอย่างใกล้ชิด เพื่อตรวจจับการระบาดให้ได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น
2.เน้นการเฝ้าระวังผู้ป่วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ในสถานศึกษา โดยให้สุขศึกษาแก่เจ้าหน้าที่ ผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้สถานศึกษาตรวจคัดกรองเด็กป่วยทุกวันทำการ
3.ให้เร่งรัดการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน และให้ความรู้ในการป้องกันโรคในระดับบุคคลและครอบครัว โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงประมาณ 2 ล้านคน หากเริ่มมีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่คือไข้ ไอ ปวดเมื่อยตามตัว ให้รีบพบแพทย์รักษาโดยเร็ว เพื่อลดการเสียชีวิต
ใน ส่วนการรณรงค์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 2 ล้านโด๊ส ในกลุ่มเสี่ยงโดยความสมัครใจ ที่มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ และลดอัตราป่วย อัตราตายของประชาชน ที่ได้จัดส่งไปยังโรงพยาบาลของรัฐ 1,164 แห่ง โรงพยาบาลเอกชน 222 แห่ง ขณะนี้ฉีดแล้ว 235,678 ราย คิดเป็นร้อยละ 12 หากสามารถฉีดได้ครบ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนได้ 1.8 ล้านคน คาดว่าจะช่วยลดผู้ป่วยได้ 160,000 คน ลดผู้ป่วยหนักที่ต้องเข้าโรงพยาบาล 8,032 คน และลดการเสียชีวิต 160 คน จึงขอให้ทุกจังหวัดรณรงค์สร้างความเข้าใจประชาชนกลุ่มเสี่ยง ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนโดยความสมัครใจต่อไป
ที่มา กระทรวงสาธารณสุข