อ่าน: 1150
Small_font Large_font

Zidovudine (ไซโดวูดีน )

คำอธิบายพอสังเขป

ยาไซโดวูดีน หรือ ซิโดวูดีน (zidovudine) หรืออาจเรียกว่า เอซิโดไทมิดีน (azidothymidine) หรือย่อว่า “เอแซดที (AZT)” ใช้เป็นยาร่วมกับยาตัวอื่นในการรักษาภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (human immunodeficiency virus, HIV) ซึ่งทำให้เกิดโรคเอดส์หรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS)

ยาไซโดวูดีนใช้ในการชะลอการดำเนินไปของโรคสำหรับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ทั้งผู้ที่ไม่มีอาการแสดงของโรค, มีอาการแสดงของโรคเล็กน้อยและมีอาการแสดงของโรคมาก

อีกทั้งยานี้ใช้ในการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสเอชไอวีจากแม่ที่ติดเชื้อไปสู่ลูกในระหว่างที่ตั้งครรภ์และคลอดบุตร

ยาไซโดวูดีนไม่สามารถรักษาหรือป้องกันภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องได้ แต่ยานี้จะช่วยชะลอการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสเอชไอวีและการเกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องให้ช้าลงซึ่งอาจช่วยชะลอการเกิดอาการหรือปัญหาต่าง ๆ เนื่องจากภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวี หรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ยาไซโดวูดีนอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงรวมทั้งปัญหาเกี่ยวกับความผิดปกติของไขกระดูก อาการที่บ่งบอกถึงการมีพยาธิสภาพที่ไขกระดูกได้แก่ มีไข้, หนาวสั่น, เจ็บคอ, ผิวซีดและมักจะมีอาการเหนื่อยล้าหรืออ่อนแรงมากผิดปกติ ปัญหาที่เกี่ยวกับความผิดปกติของไขกระดูกแก้ไขโดยการถ่ายเลือดหรือหยุดรับประทานยาไซโดวูดีนชั่วคราว ควรพบแพทย์ทันทีหากท่านมีอาการผิดปกติใดๆในระหว่างรับประทานยาไซโดวูดีน

ยาไซโดวูดีนในประเทศไทยมีรูปแบบยา 2 แบบ ได้แก่ ยาแคปซูลและยาน้ำเชื่อมใสสำหรับรับประทาน

ก่อนการใช้ยา

การแพ้ยา

โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆหรือมีประวัติการแพ้ยาไซโดวูดีน (zidovudine) รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่นๆ เช่น อาหาร สารกันเสียหรือสี เป็นต้น

ตั้งครรภ์

ABCDX

รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'C' สำหรับสตรีมีครรภ์

จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาที่ควบคุมอย่างดีในมนุษย์ หรือ ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์และสัตว์ถึงผลของยาต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรใช้ยานี้เมื่อมีการประเมินแล้วว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์

ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ เว้นแต่แพทย์พิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องใช้ เนื่องจากยาไซโดวูดีน (zidovudine) สามารถผ่านรกได้ จากการศึกษาในสตรีมีครรภ์พบว่ายาไซโดวูดีนสามารถลดการแพร่เชื้อไวรัสเอชไอวีจากแม่สู่ลูกได้ในระหว่างที่ตั้งครรภ์และระหว่างคลอด นอกจากนี้ยาไซโดวูดีนไม่เพิ่มอุบัติการณ์การเกิดทารกวิรูปอีกด้วย

จากการศึกษาในสัตว์ทดลองก็พบว่า ยาไซโดวูดีนไม่ทำให้เกิดทารกวิรูปยกเว้นการใช้ยานี้ในขนาดยาที่สูงมาก ๆ อย่างไรก็ตามยังมีการศึกษาที่พบว่ายาไซโดวูดีนลดจำนวนแม่ที่ตั้งครรภ์และคลอดบุตรสำเร็จในหนูและกระต่ายโดยใช้ขนาดยาที่สูงกว่าขนาดยาที่ใช้ในมนุษย์หลายเท่า

กำลังให้นมบุตร

ยาไซโดวูดีน (zidovudine) สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมได้ ท่านจึงไม่ควรให้นมบุตรในขณะที่รับประทานยานี้
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่มีภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เชื้ออาจแพร่ผ่านน้ำนมสู่ทารกที่ดื่มนมและทำให้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีได้

เด็ก

ยาไซโดวูดีน (zidovudine) อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงในผู้ป่วยบางรายโดยเฉพาะในเด็ก ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินข้อดีข้อเสียของการรักษาด้วยยานี้ ผู้ป่วยเด็กอาจต้องระมัดระวังเป็นพิเศษโดยมาพบแพทย์ตามนัดบ่อยกว่าปกติ

ผู้สูงอายุ

ยังไม่ทราบว่ายานี้ทำให้เกิดอาการข้างเคียง, ปัญหาใด ๆ ที่แตกต่างกันในผู้สูงอายุกับผู้ป่วยวัยอื่นหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปรียบเทียบการใช้ยาไซโดวูดีน (zidovudine) ในผู้สูงอายุกับวัยอื่น ๆ

ยาอื่นที่ใช้อยู่

ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น เมื่อท่านต้องการจะรับประทานยาไซโดวูดีน(zidovudine) ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้อยู่

  • แอมโฟเธอริซิน บี รูปแบบยาฉีด (amphotericin B)
  • แอซาไทโอพรีน (azathioprine)
  • คลอแรมเฟนิคอล (chloramphenicol)
  • คลาริโทรไมซิน (clarithromycin)
  • คอลชิซีน (colchicine)
  • ไซโคลฟอสฟาไมด์ (cyclophosphamide)
  • แดปโซน (dapsone)
  • ดอกโซรูบิซิน (doxorubicin)
  • ฟลูโคนาโซล (fluconazole)
  • ฟลูไซโทซีน (flucytosine)
  • แกนไซโคลเวียร์ (ganciclovir)
  • อินเตอร์เฟอรอน แอลฟา (interferon alfa)
  • เมอร์แคปโทพิวรีน (mercaptopurine)
  • เมโทเทรกเซต (methotrexate)
  • พลิคามัยซิน (plicamycin)
  • โพรเบนีซิด (probenecid)
  • เพียราซินาไมด์ (pyrazinamide)
  • ไรบาไวริน (ribavirin)
  • ยาที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง
  • ยาที่ใช้ในการรักษาโรคไทรอยด์

ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบ หากท่านกำลังรับประทานยาอื่น ๆ ที่ใช้ในการรักษาภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากท่านกำลังรับประทานยาสทาวูดีน (stavudine)

ภาวะโรคร่วม

ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ยาไซโดวูดีน (zidovudine) ท่านควรแจ้งแพทย์หากท่านมีภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย

  • กำลังตั้งครรภ์
  • โรคไต
  • โรคตับ
  • โรคโลหิตจางหรือปัญหาเกี่ยวกับเลือด
  • ปัญหาเกี่ยวกับตับอ่อน
  • โรคเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อ
  • ผู้ที่มีปริมาณกรดโฟลิกและวิตามินบีสิบสองในกระแสเลือดต่ำ เนื่องจากยาไซโดวูดีนอาจทำให้ภาวะโลหิตจางเลวลง เพราะยาไซโดวูดีนจะลดปริมาณกรดโฟลิกและวิตามินบีสิบสองในกระแสเลือด

การใช้ที่ถูกต้อง

  • ยาไซโดวูดีน (zidovudine) มีรูปแบบแคปซูล, ยาเม็ดและยาน้ำสำหรับรับประทาน
  • ยาไซโดวูดีนจะรับประทานพร้อมกับยาตัวอื่น ๆ ในการรักษาภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ท่านควรรับประทานยาทั้งหมดที่ใช้ร่วมกันในการรักษาตามแพทย์สั่ง
  • ควรดื่มน้ำมาก ๆ ประมาณ 2-3 ลิตรต่อวัน เว้นแต่แพทย์สั่งให้ท่านจำกัดการดื่มน้ำ
  • ยานี้อาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน หรือเจ็บในปาก ซึ่งอาจบรรเทาได้โดยการรับประทานอาหารครั้งละน้อย ๆ แต่รับประทานบ่อย ๆ หรือ อมลูกอม หรือเคียวหมากฝรั่ง
  • เพื่อให้สามารถกำจัดเชื้อได้อย่างสมบูรณ์ ควรรับประทานยานี้จนครบระยะเวลาในการรักษาแม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตามหลังจากการรับประทานยา 2 – 3 วัน หากท่านหยุดรับประทานยาเร็วเกินไป อาการของท่านอาจเกิดขึ้นได้อีก
  • ยานี้จะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อมีระดับยาในกระแสเลือดหรือในปัสสาวะคงที่ เพื่อช่วยให้ระดับยาคงที่ ควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอและตรงเวลา จะดีที่สุดหากรับประทานยาโดยเว้นระยะเวลาระหว่างมื้อยาเท่า ๆ กัน เช่น หากท่านต้องรับประทานยาวันละ 4 ครั้ง ระยะห่างระหว่างมื้อยาควรเป็นทุกๆ 6 ชั่วโมงพอดี หากการรับประทานยาเช่นนี้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันหรือการนอนหลับของท่านควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อให้ช่วยวางแผนการรับประทานยาให้เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน

สำหรับผู้ป่วยที่รับประทานยาในรูปแบบของเหลว
ควรใช้ช้อนตวงที่ให้ไปพร้อมยาเนื่องจากช้อนตวงในครัวเรือนมักตวงยาได้ในปริมาณที่ไม่ถูกต้องแม่นยำ อาจได้รับขนาดยาที่ไม่ถูกต้อง

ขนาดยา

ขนาดยาของยาไซโดวูดีน (zidovudine) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรรับประทานยาตามแพทย์หรือตามที่ระบุไว้บนฉลากยา

จำนวนครั้งของการรับประทานยาในแต่ละวัน,ระยะห่างของการรับประทานยาในแต่ละครั้งและระยะเวลาที่ท่านรับประทานยาขึ้นอยู่กับสภาวะโรคของท่านที่ท่านต้องรับประทานยาไซโดวูดีน

เมื่อลืมใช้ยา

หากท่านลืมรับประทานยาให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้ ถ้าใกล้ถึงมื้อต่อไปให้ข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานยาต่อในมื้อถัดไปในขนาดยาปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า

การเก็บรักษา

  • เก็บให้พ้นมือเด็ก
  • เก็บให้ห่างจากความร้อนและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
  • ห้ามเก็บยาไว้ในห้องน้ำ ใกล้อ่างล้างมือหรือที่ชื้น เนื่องจากความร้อนหรือความชื้นอาจเป็นสาเหตุให้ยาเสื่อมคุณภาพ
  • ห้ามเก็บยารูปแบบของเหลวในช่องแช่แข็ง
  • ทิ้งยาเมื่อยาหมดอายุ

ข้อควรระวัง

  • ท่านควรมาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งเพื่อติดตามการดำเนินไปของโรคและอาการข้างเคียงจากการรับประทานยาเนื่องจากยาไซโดวูดีน
(zidovudine) อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับเลือด
  • ห้ามรับประทานยาอื่นๆร่วมกับยาไซโดวูดีน โดยที่ท่านไม่ได้ปรึกษาแพทย์ก่อนเนื่องจากการรับประทานยาบางตัวกับยาไซโดวูดีน ทำให้ผลข้างเคียงจากยาไซโดวูดีนเพิ่มขึ้น
  • ยาไซโดวูดีนอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับเลือดที่ทำให้ท่านมีโอกาสในการติดเชื้อต่างๆ มากขึ้นรวมทั้งการสมานแผลช้าขึ้น ดังนั้นท่านควรระมัดระวังในการใช้แปรงสีฟัน, ไหมขัดฟัน, ไม้จิ้มฟันไม่ให้ทำลายเหงือก หากท่านมีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพช่องปากในระหว่างการรักษาด้วยยาไซโดวูดีน ควรปรึกษาแพทย์หรือทันตแพทย์
  • ยานี้อาจทำให้มึนงง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ควรระมัดระวังการขับรถ หรือ ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล หรือ งานที่ต้องการความระมัดระวังสูง จนกว่าจะทราบว่ายานี้ไม่ไ้ด้ทำให้ท่านมีปัญหาดังกล่าว**
  • เชื้อไวรัสเอชไอวี อาจแพร่สู่ผู้อื่นได้โดยผ่านของเหลวต่าง ๆ ของร่างกายรวมทั้งเลือด, ของเหลวที่ช่องคลอดหรือน้ำอสุจิ หากท่านมีภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ท่านควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นรวมทั้งการแลกเปลี่ยนของเหลวต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น การให้เลือด เป็นต้น แต่หากท่านต้องการมีเพศสัมพันธ์ ท่านหรือคู่นอนของท่านต้องสวมใส่ถุงยางอนามัยเสมอ ถุงยางอนามัยที่ใช้ต้องทำมาจากยางเท่านั้นและใช้ทุกครั้งที่ท่านมีเพศสัมพันธ์ทั้งทางช่องคลอด, ทวารหนักหรือทางปาก สำหรับการใช้ยาฆ่าเชื้ออสุจิ เช่น โนโนไซนอล-เก้า (nonoxynol-9) อาจช่วยป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสเอชไอวีได้บ้างหากท่านใช้แล้วไม่เกิดอาการระคายเคืองช่องคลอด, ทวารหนักหรือปาก ยาฆ่าอสุจินี้สามารถฆ่าเชื้อไวรัสเอชไอวีได้จากผลการทดลองในห้องปฏิบัติการ
  • ห้ามใช้เจลหล่อลื่นที่มีส่วนประกอบของไขมันเป็นหลักเนื่องจากผลิตภัณฑ์พวกนี้อาจทำให้ถุงยางอนามัยฉีกขาดได้ หากท่านต้องการใช้เจลหล่อลื่น ควรใช้เจลหล่อลื่นที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักเช่น เค-วายเจล (K-Y jelly) เป็นต้น สำหรับผู้หญิงควรสวมใส่ถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิงเนื่องจากการรับประทานยาคุมกำเนิดหรือใส่ห่วงคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ไม่สามารถป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสเอชไอวีได้
  • หากท่านกำลังใช้ยาฉีดใด ๆ ห้ามใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น

อาการไม่พึงประสงค์

ยาอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงบางอย่างที่ไม่ต้องการ ถึงแม้ว่าอาการข้างเคียงต่อไปนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่หากเกิดอาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้นหรือท่านมีข้อสงสัยใดๆควรกลับไปพบแพทย์ทันที

ก.ควรพบแพทย์ทันที หากมีอาการข้างเคียงต่อไปนี้เกิดขึ้น

พบบ่อย

มีไข้, หนาวสั่น, เจ็บคอ, ผิวหนังซีด, เหนื่อยล้าหรืออ่อนเพลียมากผิดปกติ
อาการข้างเคียงดังกล่าวอาจเกิดขึ้นหลังหยุดยาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนก็ได้

พบน้อยมาก

ไม่สบายท้อง, สับสน, ชัก, ท้องร่วง, หายใจถี่, ความอยากอาหารลดลง, อารมณ์หรือจิตใจผิดปกติ, ปวดกล้ามเนื้อ, กล้ามเนื้อตึง ไม่มีแรงหรือเกร็ง, คลื่นไส้, ง่วงซึม

ข.ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนานหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน

พบบ่อย

ปวดศีรษะอย่างรุนแรง, คลื่นไส้, หลับยาก

พบน้อย

เล็บมีเส้นสีน้ำตาล, สีผิวเปลี่ยนไป

ค. อาการข้างเคียงอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย หากท่านสังเกตเห็นอาการข้างเคียงอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ในกรณีที่ต้องใช้ยาเป็นเวลานาน แพทย์อาจตรวจเลือดของผู้ใช้ยาเป็นระยะ เพื่อติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากยา
  • ยานี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกระจายตัวของไขมันบริเวณต่าง ๆ ร่างกาย โดยมีไขมันเพิ่มบริเวณไหล่ คอ และรอบลำตัว แต่มีการสูญเสียไขมันบริเวณแขน ขาและใบหน้า ทำให้แขนขาเล็กลง แก้มตอบ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงตามปกติของยานี้**
  • ยาไซโดวูดีน (zidovudine) อาจใช้ในผู้ป่วยบางรายเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีจากการทำงาน (ผู้ที่ต้องสัมผัสกับเชื้อ)

กลุ่มยา

ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้

ยาที่เกี่ยวข้อง

ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้

Abacavir, Abacavir, lamivudine, zidovudine, Amprenavir, Delavirdine, Didanosine , Efavirenz, Indinavir, Lamivudine, Lopinavir+ritonavir, Nevirapine, Ritonavir, Saquinavir, Tenofovir

ชื่อทางการค้า

ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้

Antivir cap (แอนติเวียร์), Antivir syr (แอนติเวียร์ ไซรัป), Retrovir cap (รีโทรเวียร์), T.O.Vir cap (ที.โอ.เวียร์), T-ZA cap (ที-ซา)

ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว

แหล่งอ้างอิง

  1. Micromedex Thomson Healthcare. Advice for the Patient Drug Information in Lay Language USP DI, volume ll. 25th ed. Massachusetts: Micromedex Thomson Healthcare, 2005: 1634-6.
  2. Klasco RK (Ed): DRUGDEX® System (electronic version). Thomson Micromedex, Greenwood Village, Colorado, USA. Available at: http://www.thomsonhc.com (cited: Dec 12, 2010).
  3. Sunthornraj N, Fun LF, Evangelista LF, Labandilo LD, Romano MB, Afable JO, et al. MIMs Thailand. 106th ed. Bangkok: MediMedia (Thailand); 2007.

หทัยรัตน์ คังคะสุวรรณ
โพยม วงศ์ภูวรักษ์
22 มกราคม 2554 07 เมษายน 2554
เพื่อนแนะนำ : เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย, เราชนะรอบ 4, ยืมเงิน 3000 ด่วน, แอพผ่อนของ, กู้เงิน, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อไม่เช็ค บูโรถูกกฎหมาย