อ่าน: 505
Small_font Large_font

Indinavir (อินดินาเวียร์)

คำอธิบายพอสังเขป

ยาอินดินาเวียร์ (indinavir) ใช้เป็นยาเดี่ยวหรือเป็นยาร่วมกับยาอื่นๆในการรักษาภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (human immunodeficiency virus,HIV) ซึ่งไวรัสเอชไอวีจะทำให้เกิดโรคเอดส์หรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS)

ยาอินดินาเวียร์ไม่สามารถรักษาหรือป้องกันภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องได้ แต่ยานี้จะช่วยชะลอการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสเอชไอวีและการเกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องให้ช้าลงซึ่งอาจช่วยชะลอการเกิดอาการหรือปัญหาต่าง ๆ เนื่องจากภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ยาอินดินาเวียร์ไม่สามารถป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสเอชไอวีจากผู้ติดเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ ผู้ที่ได้รับยานี้ยังอาจเกิดปัญหาต่าง ๆ ที่มักเกิดจากภาวะติดเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ในประเทศไทยยานี้มี 1 รูปแบบคือ ยาแคปซูลสำหรับรับประทาน

ก่อนการใช้ยา

การแพ้ยา

โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆหรือมีประวัติการแพ้ยาอินดินาเวียร์ (indinavir) รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่น ๆ เช่น อาหาร สารกันเสียหรือสี เป็นต้น

ตั้งครรภ์

ABCDX

รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'C' สำหรับสตรีมีครรภ์

จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาที่ควบคุมอย่างดีในมนุษย์ หรือ ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์และสัตว์ถึงผลของยาต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรใช้ยานี้เมื่อมีการประเมินแล้วว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์

ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ เว้นแต่แพทย์พิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องใช้เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาผลของยาอินดินาเวียร์ (indinavir) ในสตรีมีครรภ์ อย่างไรก็ตามยานี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ระดับสารที่ชื่อว่าบิริรูบิน (billirubin) เพิ่มมากขึ้นในมารดาซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะดีซ่านตามมาและยังไม่ทราบแน่ชัดว่าผลนี้จะเกิดกับทารกในครรภ์หรือไม่ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้หากท่านกำลังตั้งครรภ์หรือวางแผนจะตั้งครรภ์

กำลังให้นมบุตร

ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายาอินดินาเวียร์ (indinavir) สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมของมนุษย์ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามพบว่ายานี้สามารถแพร่ผ่านน้ำนมของสัตว์ทดลองได้ เนื่องจากยานี้มีแนวโน้มที่สามารถทำให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ในขณะให้นมบุตร จึงไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ในขณะให้นมบุตร
นอกจากนี้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีมีความเสี่ยงที่เชื้อไวรัสเอชไอวีจะผ่านจากแม่ผ่านน้ำนมสู่ทารกได้

เด็ก

ยาอินดินาเวียร์ (indinavir) ยังไม่เคยมีการศึกษาในเด็กและมีข้อมูลน้อยเกี่ยวกับการใช้ยานี้ในเด็กเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงอายุอื่น ๆ

ผู้สูงอายุ

ยังไม่ทราบว่ายานี้ทำให้เกิดอาการข้างเคียง, ปัญหาใด ๆ ที่แตกต่างกันในผู้สูงอายุกับผู้ป่วยวัยอื่นหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปรียบเทียบการใช้ยาในผู้สูงอายุกับวัยอื่น ๆ

ยาอื่นที่ใช้อยู่

ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็น อาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม ในกรณีนี้แพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น เมื่อท่านจะรับประทานยาอินดินาเวียร์ (indinavir) ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาใด ๆ อยู่

  • ซิซาไพรด์ (cisapride)
  • เดลาเวอร์ดีน (delavirdine)
  • อนุพันธ์เออร์ก็อต (ergot derivatives)
  • เอฟาไวเรนซ์ (efavirenz)
  • อิทราโคนาโซล (itraconazole)
  • คีโตโคนาโซล (ketoconazole)
  • มิดาโซแลม (midazolam)
  • ไพโมไซด์ (pimozide)
  • ไรฟาบูติน (rifabutin)
  • ริแฟมพิซิน (rifampicin)
  • สมุนไพรเซนต์จอห์นเวิร์ท (St.john’s Wort)
  • ซิลดีนาฟิล (sildenafil)
  • ไตรเอโซแลม (triazolam)
  • ยาลดไขมันบางชนิด เช่น โลวาสแตติน(lovastatin), ซิมวาสแตติน (simvastatin)
  • การใช้ยาไดดาโนซีน (didanosine) ร่วมกับอินดินาเวียร์อาจลดการดูดซึมและทำให้ระดับยาอินดินาเวียร์ในเลือดลดลง จึงควรรับประทานยาอินดินาเวียร์ตอนท้องว่าง และรับประทานไดดาโนซีนให้ห่างจากอินดินาเวียร์อย่างน้อย 1 ชั่วโมง

ภาวะโรคร่วม

ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ยาอินดินาเวียร์ (indinavir) ท่านควรแจ้งแพทย์หากท่านมีภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย

  • โรคเลือดไหลไม่หยุด (hemophilia)
  • ภาวะตับอักเสบ (hepatitis)
  • ภาวะตับอักเสบ
  • โรคตับ
  • ภาวะมีสารบิลิรูบินในกระแสเลือดมากเกินไป (hyperbilirubinemia)

การใช้ที่ถูกต้อง

  • ควรรับประทานยาอินดินาเวียร์ (indinavir) ตอนท้องว่างคือ 1 ชั่วโมงก่อนอาหารหรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมงหรือรับประทานพร้อมอาหารเบา ยาอินดินาเวียร์ อาจรับประทานพร้อมเครื่องดื่มอื่น ๆ เช่น นมขาดมันเนย, น้ำผลไม้, กาแฟหรือชา เป็นต้นหรืออาหารเบา ๆ เช่น ขนมปังแห้งรับประทานพร้อมน้ำผลไม้ กาแฟหรือนมขาดมันเนย หรือคอร์นเฟลก (corn flakes) รับประทานพร้อมนมขาดมันเนย เป็นต้น
  • ในขณะที่รับประทานยาอินดินาเวียร์ ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ปัสสาวะมากขึ้นช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในไต โดยดื่มน้ำประมาณ 2-3 ลิตรต่อวัน เว้นแต่แพทย์สั่งให้ท่านจำกัดการดื่มน้ำ
  • ต้องรับประทานยาอินดินาเวียร์ ตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด ห้ามรับประทานในจำนวนที่มากกว่า, บ่อยกว่าหรือเป็นระยะเวลานานกว่าที่แพทย์สั่ง รวมทั้งห้ามหยุดรับประทานยาหากแพทย์ไม่ได้สั่งให้หยุด
  • ควรรับประทานยานี้ให้ครบระยะเวลาในการรักษา แม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม
  • ยานี้จะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อมีระดับยาในกระแสเลือดหรือในปัสสาวะคงที่ เพื่อช่วยให้ระดับยาคงที่ ควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอและตรงเวลา จะดีที่สุดหากรับประทานยาโดยเว้นระยะเวลาระหว่างมื้อยาเท่า ๆ กัน เช่น หากต้องรับประทานยาวันละ 3 ครั้ง ระยะห่างระหว่างมื้อยาควรเป็นทุก ๆ 8 ชั่วโมง หากการรับประทานยาเช่นนี้แล้วมีปัญหารบกวนการใช้ชีวิตประจำวันหรือการนอนหลับของท่านควรปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์เพื่อให้ช่วยวางแผนการรับประทานยาให้เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน

ขนาดยา

ขนาดยาของยาอินดินาเวียร์ (indinavir) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ หรือ เภสัชกรหรือ ตามที่ระบุไว้บนฉลากยา

จำนวนครั้งของการรับประทานยาในแต่ละวัน,ระยะห่างของการรับประทานยาในแต่ละครั้งและระยะเวลาที่ท่านรับประทานยาขึ้นอยู่กับสภาวะโรคของสภาวะโรคของผู้ใช้ยาแต่ละราย

เมื่อลืมใช้ยา

หากท่านลืมรับประทานยาให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้ ถ้าใกล้ถึงมื้อต่อไปให้ข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานยาต่อในมื้อถัดไปในขนาดยาปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า

การเก็บรักษา

  • เก็บให้พ้นมือเด็ก
  • เก็บให้ห่างจากความร้อนและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
  • ห้ามเก็บยาไว้ในห้องน้ำ ใกล้อ่างล้างมือหรือที่ชื้น เนื่องจากความร้อนหรือความชื้นอาจเป็นสาเหตุให้ยาเสื่อมคุณภาพ
  • ทิ้งยาเมื่อยาหมดอายุ

ข้อควรระวัง

ห้ามรับประทานยาอื่นๆร่วมกับยานี้หากยังไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเนื่องจากการรับประทานยาบางชนิดร่วมกับยานี้อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดผลไม่พึงประสงค์จากยาอินดินาเวียร์ (indinavir)

ท่านควรไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งเพื่อติดตามผลการรักษาและประเมินว่าเกิดผลไม่พึงประสงค์จากยาบ้างหรือไม่

อาการไม่พึงประสงค์

ยาอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงบางอย่างที่ไม่ต้องการ ถึงแม้ว่าอาการข้างเคียงต่อไปนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นทั้งหมด แต่หากเกิดอาการข้างเคียงขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม

ก.หยุดใช้ยานี้และควรได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน หากมีอาการไม่พึงประสงค์ต่อไปนี้

พบบ่อย

  • มีเลือดปนในปัสสาวะ, ปวดแปลบๆที่ใต้ชายโครง

ข.ควรพบแพทย์ทันที หากมีอาการข้างเคียงต่อไปนี้เกิดขึ้น

พบน้อย

  • ปวดท้อง, หนาวสั่น, อุจจาระมีสีเทาดำ, ปัสสาวะสีเข้มขึ้น, วิงเวียนศีรษะ, มีไข้, ปวดศีรษะ, คัน, ความอยากอาหารลดลง, คลื่นไส้, ผื่นคัน, ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น, เหนื่อยล้าหรืออ่อนเพลียมากผิดปกติ, อาเจียนเป็นเลือด, ตัวเหลืองตาเหลือง

พบน้อยมาก

  • สับสน, กระหายน้ำมาก, ผิวหนังแห้งหรือคัน, อ่อนล้า, ลมหายใจมีกลิ่นหอมหวาน, ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น, ปัสสาวะมากขึ้น, ผิวหนังซีด, หายใจลำบากและหอบ, เลือดออกผิดปกติหรือมีจ้ำเลือด, เหนื่อยล้าหรืออ่อนเพลียมากผิดปกติ, อาเจียน, น้ำหนักลด

อาการข้างเคียงอื่น ๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการข้างเคียงเหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาเนื่องจากร่างกายจะปรับตัวเข้ากับยา

**ค.ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนานหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน*

พบบ่อย

  • การรับรู้รสอาหารเปลี่ยนแปลงไป, ท้องร่วง, หลับยาก, อ่อนเพลีย

พบน้อย

  • กรดไหลย้อน, ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น, ไอ, เรอ, รู้สึกไม่สบาย

ง. อาการข้างเคียงอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย หากท่านสังเกตเห็นอาการข้างเคียงอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ผู้ที่ใช้ยานี้เป็นเวลานาน แพทย์อาจสั่งตรวจเลือดเป็นระยะ เช่น ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด เพราะยานี้ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงได้**

ยานี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกระจายตัวของไขมันบริเวณต่าง ๆ ร่างกาย โดยมีไขมันเพิ่มบริเวณไหล่ คอ และรอบลำตัว แต่มีการสูญเสียไขมันบริเวณแขน ขาและใบหน้า ทำให้แขนขาเล็กลง แก้มตอบ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงตามปกติของยานี้

กลุ่มยา

ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้

ยาที่เกี่ยวข้อง

ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้

Abacavir, Abacavir, lamivudine, zidovudine, Amprenavir, Delavirdine, Didanosine , Efavirenz, Lamivudine, Lopinavir+ritonavir, Nevirapine, Ritonavir, Saquinavir, Tenofovir, Zidovudine

ชื่อทางการค้า

ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้

Crixivan cap (คริซิแวน แคปซูล), Inavir cap (อินาเวียร์ แคปซูล)

ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว

แหล่งอ้างอิง

  1. Micromedex Thomson Healthcare. Advice for the Patient Drug Information in Lay Language USP DI, volume ll. 25th ed. Massachusetts: Micromedex Thomson Healthcare, 2005: 913-4.
  2. Klasco RK (Ed): DRUGDEX® System (electronic version). Thomson Micromedex, Greenwood Village, Colorado, USA. Available at: http://www.thomsonhc.com (cited: Dec 12, 2010).
  3. Sunthornraj N, Fun LF, Evangelista LF, Labandilo LD, Romano MB, Afable JO, et al. MIMs Thailand. 106th ed. Bangkok: MediMedia (Thailand); 2007.

หทัยรัตน์ คังคะสุวรรณ
โพยม วงศ์ภูวรักษ์
23 มกราคม 2554 07 เมษายน 2554
เพื่อนแนะนำ : เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย, เราชนะรอบ 4, ยืมเงิน 3000 ด่วน, แอพผ่อนของ, กู้เงิน, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อไม่เช็ค บูโรถูกกฎหมาย