ถ้าในอาหารที่เรารับประทานนั้นมีไขมันทรานส์ 0.49 กรัม บนฉลากจะเขียนไว้ว่า มีไขมันทรานส์เท่ากับสูนย์ หากเรารับประทานอาหารเหล่านี้เข้าไปในปริมาณที่มากขึ้น เราก็จะได้รับไขมันทรานส์ในปริมาณที่เกินกว่าที่ควรรับประทาน
ข้อมูลจาก depthai.go.th ระบุว่า ไขมันทรานส์ (Trans fat) คือไขมันแปรรูปชนิดหนึ่งที่ส่วนใหญ่เกิดจากการนำ ไขมันไม่อิ่มตัวที่มีลักษณะเป็นของเหลว (Liquid Oil) มาเติมไฮโดรเจน (Hydrogenated) เช่นการแปรสภาพน้ำมันพืชเป็นเนยเทียม (Margarine) เพื่อให้ไขมันนั้นแข็งตัว มีจุดหลอมเหลวสูงขึ้น ไม่เป็นไข มีอายุการเก็บรักษานานขึ้น และมีรสชาดดีใกล้เคียงกับไขมันจากสัตว์ ในราคาที่ถูกกว่า ส่งผลให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร และร้าน Fast Food นิยมใช้ Transfat เป็นส่วนประกอบของอาหาร
Eric Brandt นักศึกษาจากCase Western Reserve University School of Medicine กล่าวว่า ปริมาณไขัมนทรานส์ที่เราควรได้รับในแต่ละวันนั้นไม่ควร เกิน 1.11 กรัม แต่การรับประทานอาหารแม้ว่าจะเป้นอาหารสุขภาพเราก็อาจได้รับปริมาณไขมันนี้เกินกว่าที่กำหนดไว้
ไขมันทรานส์นี้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหลอดเลือด โรคอ้วน และโรคหัวใจล้มเหลว
จากการศึกษาพบว่า ทุกวันนี้เราได้รับไขมันทรานส์ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นจาก 0.9 % เป็น 2.1 % หรือราว 4.6 กรัม ซึ่งส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกดโรคหลองเลือดหัวใจเพิ่มขึ้น 30 %
นักวิจัยได้เสนอแนะให้องค์การอาหารและยาสหรัฐเปลี่ยนการกำกับปริมาณไขมันทรานส์บนฉลากอาหารใหม่ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดเกี่ยวกับปริมาณไขมันที่แท้จริงในอาหารต่าง ๆ อีกทั้งให้มีการรายงานเกี่ยวกับการรับประทานไขมันทรานส์ เตือนประชาชนให้เข้าใจการรับประทานอาหารที่มีไขมันทรานส์ และควรมีการตรวจสอบปริมาณไขมันทรานส์ในอาหารอย่างเหมาะสม
ที่มา UPI.com