การศึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า การรับประทานข้าวขาวมีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และยังอ้างว่าการรับประทานข้าวกล้องจะทำให้มีสุขภาพดีมากกว่าการรับประทานข้าวขาวอีกด้วย
นักวิจัยจาก Harvard School of Public Health and Brigham and Women’s Hospital ณ เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทำการตรวจสอบข้อมูลจากผู้ใหญ่มากกว่า 197,000 คน และพบว่าผู้ที่รับประทานข้าวขาวอย่างน้อย 5 มื้อต่อสัปดาห์ จะมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเบาหวานมากกว่าผู้ที่บริโภคข้าวขาวน้อยกว่า 1 มื้อต่อเดือน ซึ่งตรงข้ามกับการรับประทานข้าวกล้อง เนื่องจากผู้ที่บริโภคข้าวกล้องมากกว่า 2 มื้อต่อสัปดาห์ จะทำให้มีความเสี่ยงต่ำต่อการจะเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่รับประทานข้าวกล้องน้อยกว่า 1 มื้อต่อเดือน
จากการค้นพบนี้ทำให้นักวิจัยเชื่อว่าการรับประทานข้าวขาวเป็นบ่อเกิดหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ และหนทางที่จะช่วยบรรเทาปัญหานี้ คือ การบริโภคข้าวกล้องแทน ซึ่งนักวิจัยกล่าวว่าการบริโภคข้าวกล้องเพียง 1 ใน 3 มื้อของทุกๆ วัน ในปริมาณเท่าๆ กับที่เคยรับประทานข้าวขาว ก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ลงประมาณ 16 เปอร์เซ็นต์ เพราะในข้าวกล้องยังคงมีรำข้าวและจมูกข้าวซึ่งอุดมไปด้วยเส้นใย แร่ธาตุ วิตามิน และสารพฤกษเคมี ซึ่งแน่นอนว่ามีปริมาณมากกว่าในข้าวขาวซึ่งสารอาหารเหล่านั้นถูกขัดสีออกไปพร้อมกับรำข้าวและจมูกข้าวในขั้นตอนการผลิต
นอกจากนี้เว็บไซต์ MeDINDIA ยังระบุว่านักวิจัยมีความกังวลเล็กน้อยกับผลที่ค้นพบเพราะประชาชนบางส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มหันมาบริโภคข้าวกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวขาว และยังระบุอีกว่าผลการศึกษานี้อาจจะมีความสำคัญมากสำหรับประชาชนในประเทศแถบเอเชียที่รับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก
แม้ว่าการวิจัยนี้จะทำกับกลุ่มประชาชนในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งมีความแตกต่างกับประชาชนไทย แต่ถึงเวลาหรือยังที่ประชาชนในประเทศไทยจะหันมาใส่ใจสุขภาพด้วยการบริโภคข้าวกล้องเพิ่มมากขึ้น หรือต้องรอให้ปัญหาเกิดขึ้นกับตนเอง