ในช่องปากของคนเรามีแบคทีเรียกว่า 700 ชนิด ที่เป็นสาเหตุให้ฟันผุ และอาหารก็เป็นปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้แบคทีเรียทำลายฟันได้เพิ่มขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เมื่อคนเรารับประทานอาหารบางอย่างเข้าไป อาหารจะทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียในช่องปาก จนเกิดกรดแลคติค (กรดที่เป็นสาเหตุให้ฟันผุ) ขึ้นมาภายใน 7 นาทีหลังจากเริ่มรับประทานอาหารเหล่านั้น และนี่คืออาหารที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเป็นอันตรายต่อฟัน
มันฝรั่งทอด เพรทเซล และข้าวโพดคั่ว
เป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลสูงซึ่งเมื่อรวมกับแบคทีเรียในช่องปาก ก็จะเริ่มผลิตกรดแลคติคออกมาและกรดแลคติคเหล่านี้จะเริ่มละลายผิวชั้นนอกของฟันเป็นสาเหตุให้ฟันผุ คาร์โบไฮเดรตจากอาหารต่างชนิดกันก่อให้เกิดกรดแลกติกไม่เท่ากัน และข้าวโพดคั่วก็เป็นอาหารหนึ่งที่เลวร้ายที่สุดต่อสุขภาพฟัน เพราะฉะนั้นเพื่อสุขภาพฟันที่ดีควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้และหันกลับมารับประทานของว่างเพื่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ โยเกิร์ต ชีสและถั่ว ซึ่งเป็นอาหารที่เพิ่มฟอสฟอรัสให้กับฟัน ช่วยให้ฟันแข็งแรง
อาหารมีส่วนผสมของโซดา
โซดามีกรดฟอสฟอริคสูง กรดชนิดนี้ใช้ในการขัดคราบสนิมของเครื่องยนต์กลไกต่างๆ จินตนาการต่อว่าถ้าอยู่ในช่องปากนานๆ จะเป็นเช่นไร เพราะฉะนั้นเพื่อสุภาพฟัน ควรหันมาดื่มน้ำเปล่าหรือชาสมุนไพรแทนการดื่มโซดา หรือถ้าต้องดื่มโซดาควรดื่มเพียงเล็กน้อยต่อสัปดาห์
กาแฟ
ในกาแฟบางชนิดอาจจะมีกรดซึ่งเป็นผลมาจากดินที่ใช้ปลูก เพราะฉะนั้นกาแฟก็อาจจะเป็นอันตรายต่อฟันได้ ด้วยเหตุนี้จึงควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ และหันมาดื่มชาดำ ชาสมุนไพร (ยกเว้นชาผลไม้รสส้ม) แทนเพื่อลดความยุ่งยากลำบากให้กับฟัน
แอลกอฮอล์
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ จะเป็นสาเหตุให้เซลล์ในช่องปากและหลอดอาหารถูกทำลาย จนกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ และยังทำให้ฟันผุได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะดีที่สุด
ผลไม้ประเภทส้ม
ส้มจะมีกรดซิตริกซึ่งสามารถทำลายเคลือบฟัน ตัวฟันหรือรากฟันได้ ภายใน 7 นาที และแม้ว่ากรดซิตริกจะเป็นอันตรายต่อฟันแต่ก็ไม่ควรเลิกรับประทานผลไม้ประเภทส้ม เพราะส้มมีวิตามินและสารอาหารที่ร่างกายต้องการ วิธีที่จะทำให้รับประทานส้มอย่างสบายใจ ไร้กังวลเรื่องฟันผุ คือควรรีบบ้วนปากทันทีที่รับประทานเสร็จ
ผลไม้ที่ไม่ใช่ส้ม
แม้จะไม่ใช่ผลไม้ประเภทส้มก็เป็นอันตรายต่อฟันได้เช่นกันเพราะในผลไม้มีน้ำตาลซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันผุ แต่สารอาหารในผลไม้เหล่านี้ก็เป็นจำเป็นต่อร่างกาย รวมทั้งต่อฟันด้วย เพราะฉะนั้นไม่ควรเลิกรับประทานผลไม้ แต่ทุกครั้งหลังรับประทานเสร็จควรรีบบ้วนปากหรือแปรงฟันทันที
น้ำสลัด
น้ำสลัดหลายชนิดมีทั้งส่วนผสมของน้ำตาล น้ำส้มสายชูและกรด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันบางลงเนื่องจากกรดอะซิติก ซึ่งพบในน้ำส้มสายชูและกรดอะซิติกเหล่านี้จะเริ่มสร้างความเสียหายให้กับฟันภายในเวลาไม่ถึง 10 นาทีหลังจากบริโภคเข้าไป แต่สลัดเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพเพราะฉะนั้นไม่ควรเลิกรับประทาน เพียงแค่ลดปริมาณน้ำสลัดลง ก็จะช่วยคงไว้ซึ่งสุขภาพฟันที่ดีได้
มะเขือเทศ และซอสมะเขือเทศ
ในซอสมะเขือเทศมีน้ำส้มสายชู และในน้ำส้มสายชูก็มีกรดอะซิติกซึ่งสามารถทำให้ฟันบางลงได้ อีกทั้งในมะเขือเทศก็มีกรดซิตริกเช่นเดียวกับส้ม เพราะฉะนั้นเมื่อรับประทานมะเขือเทศ หรือซอสมะเขือเทศเข้าไปเคลือบฟันก็จะถูกทำลายได้ แต่ทั้งมะเขือเทศและซอสมะเขือเทศมีวิตามินและสารอาหารมากมายที่ร่างกายต้องกาย ดังนั้นไม่จำเป็นต้องตัดออกจากรายการอาหาร เพียงแต่ควรเพิ่มสารอาหารที่ช่วยให้ฟันแข็งแรงเข้าไปในเมนูอาหารที่ต้องใช้มะเขือเทศหรือซอสมะเขือเทศ รวมทั้งต้องรีบบ้วนปากภายใน 7 นาทีหลังจากรับประทาน เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดอันตรายที่จะเกิดกับฟันได้
ขนมปังและพาสต้า
ขนมปังและพาสต้ามีคาร์โบไฮเดรตที่ใช้ในการผลิตกรดแลคติคซึ่งจะส่งผลให้ฟันถูกทำลายได้ แม้จะมีความเสี่ยงแต่ไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานขนมปัง เพราะเพียงแค่เปลี่ยนจากขนมปังธรรมดามาเป็นขนมปังและพาสต้าจากธัญพืชและบ้วนปากภายใน 7 นาที ก็จะช่วยป้องกันฟันผุได้
อาหารทั้งหมดนี้เมื่อรับประทานเข้าไปจะเป็นอันตรายต่อฟัน แต่ก็มีอาหารหลายชนิดที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องละ เลิก การรับประทานอาหารเหล่านั้น เพียงแค่หันมาดูแลใส่ใจสุขภาพของฟันให้มากขึ้น เช่น รับประทานอาหารที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของฟัน บ้วนปากทันทีที่รับประทานเสร็จหรือภายใน 7 นาที (เวลาที่กรดแลคติคเริ่มจะทำลายฟัน) และที่สำคัญควรแปรงฟันอย่างถูกวิธี อย่างน้อยวันละ 2 ฟัน เพื่อให้ฟันแข็งแรง และอยู่กับช่องปากไปนานๆ
ข่าวจาก: ivillage HEALTH
ขอบคุณครับ