ทาลิโดไมด์ (thalidomide) เคยใช้ในการป้องกันอาเจียนและใช้กล่อมประสาทในสตรีมีครรภ์เมื่อประมาณปีค.ศ. 1950 แต่ทำให้ทารกวิรูป คือ ทารกที่เกิดออกมาผิดปกติ และมีความพิการในหลายลักษณะ เช่น ไม่มีมือและเท้า มีทารกที่คาดว่าพิการจากยานี้เป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย จนทำให้ต้องหยุดจำหน่ายยานี้ไประยะหนึ่ง แต่ต่อมาพบว่ายานี้มีฤทธิ์ควบคุมภูมิคุ้มกัน (immunomodulators) และสามารถรักษาโรคมะเร็งและโรคผิวหนังบางชนิดได้ ปัจจุบันจึงมีการนำยานี้กลับมาใช้อีก และใช้รักษาโรคดังนี้
มะเร็งไขกระดูกเหตุพลาสมาเซลล์ (multiple myeloma)
โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใด ๆ หรือมี ประวัติการแพ้ยาทาลิโดไมด์ (thalidomide) หรือ ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่น ๆ เช่น อาหาร, สารกันเสีย, สี เป็นต้น
รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'X' สำหรับสตรีมีครรภ์
จากการศึกษาในสัตว์หรือมนุษย์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ หรือมีหลักฐานชัดเจนจากการใช้ในมนุษย์ว่าเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้นห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์หรือในสตรีที่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์
โปรดแจ้งแพทย์หากกำลังวางแผนจะมีบุตร เนื่องจาก ยาทาลิโดไมด์ (thalidomide) ทำให้เกิดทารกวิรูป แม้ว่าจะได้รับยาเพียงแค่ครั้งเดียว สตรีวัยเจริญพันธุ์ควรใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพหากจะใช้ยานี้ และเพือความปลอดภัยควรโดยใช้วิธีคุมกำเนิดอย่างน้อย 2 วิธี โดยเริ่มคุมกำเนิด 1 เดือนก่อนที่จะใช้ยา ระหว่างใช้ยา และหลังหยุดยาไปแล้ว 1 เดือน
โปรดแจ้งแพทย์หากท่านกำลังให้นมบุตร หรือตั้งใจจะให้นมบุตรในระหว่างที่ได้รับยาทาลิโดไมด์ (thalidomide) เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง จึงไม่แนะนำให้ทารกได้รับน้ำนมมารดาระหว่างใช้ยานี้
ยังไม่มีการพิสูจน์ถึงประสิทธิผลและความปลอดภัยของการใช้ยาในผู้ป่วยเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
จากการศึกษาการใช้ยาทาลิโดไมด์ (thalidomide) ร่วมกับเดกซาเมทาโซน (dexamethasone)ในการรักษามะเร็งไขกระดูกเหตุพลาสมาเซลล์ (multiple myeloma) โดยมีผู้ป่วยร้อยละ 50 ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี พบว่าไม่มีรายงานการเกิดอาการไม่พึงประสงค์หรือปัญหาใด ๆ ที่แตกต่าง กับการใช้ยานี้ในวัยอื่น ๆ
ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้ร่วมอยู่ด้วย
แอลกอออล์ (alcohol) | ฟีโนบาร์บิทาล (phenobarbital) |
คลอร์โพรมาซีน (chlorpromazine) | รีเซอร์พีน (reserpine) |
คลอแรมเฟนิคอล (chloramphenicol) | ซิสแพลทิน (cisplatin) |
แดพโซน (dapsone) | ไดดาโนซีน (didanosine) |
อีแทมบิวทอล (ethambutol) | อีไทโอนาไมด์ (ethionamide) |
ไฮดราลาซีน (hydralazine) | ไอโซไนอาซิด (isoniazid) |
ลิเทียม (lithium) | เมโทรนิดาโซล (metronidazole) |
ไนโทรฟิวแรนทอยด์ (nitrofurantoin) | เฟนิทอยด์ (phenytoin) |
สทาวูดีน (stavudine) | วินคริสทีน (vincristine) |
ซาลซิทาบีน (zalcitabine) | คาร์บามาเซพีน (carbamazepine) |
กริซีโอฟูลวิน (griseofulvin) | อินดินาเวียร์ (indinavir) |
ริโทนาเวียร์ (ritonavir) | ซาควินาเวียร์ (saquinavir) |
ไรแฟมพิซิน (rifampicin) | ไซโคลสพอริน (cyclosporine) |
โดซีแทกเซล (docetaxel) | มิดาโซแลม (midazolam) |
กรดโซเลโดรนิค (zoledronic acid) |
อาจมียาอีกหลายชนิดที่ไม่ควรใช้ร่วมกับยาทาลิโดไมด์ (thalidomide) ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบว่าท่านกำลังใช้ยาใดอยู่ในขณะนี้
ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ยาทาลิโดไมด์ (thalidomide) ท่านควรแจ้งแพทย์หากท่านมีภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น
ยามีจำหน่ายในรูปแบบแคปซูลชนิดรับประทาน
ขนาดยาของยาทาลิโดไมด์ (thalidomide) แตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร หรือตามที่ฉลากระบุ
จำนวนครั้งของการรับประทานยาในแต่ละวัน, ระยะห่างของการรับประทานยาในแต่ละครั้งและระยะเวลาที่ท่านรับประทานยาขึ้น อยู่กับสภาวะโรคของท่าน
หากท่านลืมรับประทานยาให้ข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานยาต่อในมื้อถัดไปในขนาดยา ปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า และแจ้งให้แพทย์ทราบ
**_ควรติดตามผลการรักษาเป็นระยะ โดยมาตรวจตามแพทย์นัด ให้ยาตามแผนการรักษา การได้ยาไม่ครบ หรือระยะเวลาไม่ตรงกำหนด ก่อให้เกิดผลเสียต่อการรักษา ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องเลื่อนระยะเวลาการให้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง_
เนื่องจากยาทาลิโดไมด์ (thalidomide) สามารถออกมากับน้ำอสุจิได้ ผู้ป่วยเพศชายที่ใช้ยานี้ควรสวมถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์หรือหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่อาจตั้งครรภ์ได้ ทั้งในระหว่างใช้ยาและภายในระยะเวลา 1 เดือนหลังจากใช้ยานี้ หากท่านบังเอิญมีเพศสัมพันธ์กับสตรีวัยเจริญพันธุ์โดยไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์ ให้แจ้งแพทย์ที่รักษาท่านทราบในทันที
ยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์บางอย่างที่ไม่ต้องการ ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับผู้ใช้ยาทุกราย แต่หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ก. แจ้งแพทย์หรือพยาบาลผู้ดูแลทันทีหากมีอาการต่อไปนี้
พบบ่อย
ข.อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาหรือหยุดยาไปแล้วเนื่อง จากร่างกายจะปรับตัวเข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนาน หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน
พบบ่อยมาก
ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้
ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้
Altretamine , Arsenic trioxide , Asparaginase or L-asparaginase , Bleomycin , Dactinomycin or Actinomycin D, Hydroxyurea , Tretinoin (oral), antineoplastic agent
ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้
Thalidomide Pharmion 50 mg hard capsules (ทาลิโดไมด์ ฟาร์มิออน 50 มก.ฮาร์ดแคปซูล), Thalidomide Celgene 50 mg hard capsules (ทาลิโดไมด์ เซลจีน 50 มก.ฮาร์ดแคปซูล)
ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว