ราบีพราโซล (rabeprazole) เป็นยาในกลุ่มยับยั้งการหลั่งกรดกลุ่มยับยั้งการปั๊มโปรตอน (proton pump inhibitors) หรือเรียกย่อว่า กลุ่มพีพีไอ (PPIs) ทำให้ลดการสร้างกรดจากกระเพาะอาหาร
ใช้สำหรับรักษาสภาวะที่มีกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป ใช้สำหรับรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก โรคกรดไหลย้อน (gastro-oesophageal reflux disease) หรือ ที่เรียกย่อว่าเกิร์ด (GERD) ที่เกิดจากกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนไปยังหลอดอาหาร บางครั้งอาจใช้โอเมพราโซล (omeprazole) ร่วมกับยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาแผลในกระเพาะอาหารที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เฮลลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter pylori)ยานี้ยังใช้สำหรับรักษากลุ่มอาการโซลลิงเกอร์-เอลลิสัน (Zollinger–Ellison syndrome) ซึ่งเกิดจากการที่กระเพาะอาหารสร้างกรดมากเกินไป
โปรดแจ้งแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆ หรือมีประวัติการแพ้ยาราบีพราโซล (rabeprazole) หรือ ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่นๆ เช่น อาหาร สารกันเสียหรือสี เป็นต้น
รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'B' สำหรับสตรีมีครรภ์
จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาไม่มีความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์ หรือ จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายามีความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่พบผลดังกล่าวจากการศึกษาในมนุษย์ ดังนั้น ยาที่จัดอยู่ในประเภทนี้สามารถใช้ในสตรีมีครรภ์ได้ค่อนข้างปลอดภัย
ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาในมนุษย์ แต่การศึกษาในสัตว์ทดลองไม่พบว่าราบีพราโซล (rabeprazole) เป็นอันตรายต่อตัวอ่อนในครรภ์
ราบีพราโซล (rabeprazole) อาจผ่านเข้าสู่น้ำนมได้ แต่เคยมีรายงานว่ายานี้ทำให้สัตว์ทดลองมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้ว่าควรเปลี่ยนไปใช้ยาอื่นหรือหยุดให้นมบุตรในช่วงที่ทำการรักษา
ไม่มีข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงในการเปรียบเทียบการใช้ราบีพราโซล (rabeprazole) ในเด็กกับช่วงอายุอื่นๆ
มีการทดลองการใช้ยานี้ในผู้สูงอายุและไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ที่แตกต่างกันหรือปัญหาอื่น
ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น เมื่อท่านต้องการจะรับประทานราบีพราโซล (rabeprazole) ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้อยู่
ปัญหาการเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ราบีพราโซล (rabeprazole) ท่านควรแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านมีสภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย
กลืนยาทั้งเม็ด ห้ามหัก แบ่งหรือเคี้ยว ควรรับประทานยานี้ให้ครบระยะเวลาที่แพทย์สั่งแม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม และควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามอาการและแพทย์จะบอกท่านเองว่าหยุดยาได้เมื่อไร
ขนาดยาของราบีพราโซล (rabeprazole) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ หรือ เภสัชกร หรือ ตามที่ระบุไว้บนฉลากยา
จำนวนครั้งของการรับประทานยาในแต่ละวัน, ระยะห่างของการรับประทานยาในแต่ละครั้งและระยะเวลาที่ท่านรับประทานยาขึ้นอยู่กับสภาวะโรคของท่านที่ท่านต้องรับประทานราบีพราโซล (rabeprazole)
หากท่านลืมรับประทานยาให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้ ถ้าใกล้ถึงมื้อต่อไปให้ข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานยาต่อในมื้อถัดไปในขนาดยาปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
ควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผลการรักษาและติดตามอาการไม่พึงประสงค์ หากอาการไม่ดีขึ้นหรืออาการยิ่งแย่ลงควรกลับไปพบแพทย์
ยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์บางอย่างที่ไม่ต้องการ ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับผู้ใช้ยาทุกราย แต่หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ก. ควรพบแพทย์ทันทีหากท่านมีอาการเหล่านี้
พบน้อยมาก
ข. อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาเนื่องจากร่างกายจะปรับตัวเข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนานหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน
พบบ่อย
พบน้อย
ค. อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย หากท่านสังเกตเห็นอาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้
ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้
Lansoprazole, Omeprazole, Pantoprazole
ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้
ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว