คีโทโคนาโซล (ketoconazole) เป็นยาต้านเชื้อรากลุ่มเอโซล (azole antifungals) ใช้สำหรับรักษาการติดเชื้อราที่รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในส่วนต่างๆ ของร่างกาย ยาเหล่านี้อาจใช้ในสภาวะอื่นๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์
โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆ หรือมีประวัติการแพ้ยาคีโทโคนาโซล (ketoconazole) หรือยาต้านเชื้อรากลุ่มเอโซล (azole antifungals)ตัวอื่น หรือ ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่นๆ เช่น อาหาร สารกันเสียหรือสี เป็นต้น
รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'C' สำหรับสตรีมีครรภ์
จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาที่ควบคุมอย่างดีในมนุษย์ หรือ ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์และสัตว์ถึงผลของยาต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรใช้ยานี้เมื่อมีการประเมินแล้วว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์
ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ เว้นแต่แพทย์พิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องใช้เพราะยังไม่มีการศึกษาผลของคีโทโคนาโซล (ketoconazole) ในสตรีมีครรภ์ อย่างไรก็ตามจากการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่าเมื่อใช้คีโทโคนาโซล (ketoconazole) ในขนาดสูงอาจเป็นอันตรายต่อมารดาและตัวอ่อนในครรภ์ ซึ่งยาเหล่านี้ทำให้เกิดทารกวิรูปในสัตว์ทดลอง หากท่านกำลังตั้งครรภ์หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้
คีโทโคนาโซล (ketoconazole) สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมได้ สตรีที่รับประทานยานี้และต้องการให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
เด็กจำนวนน้อยรายที่สามารถใช้คีโทโคนาโซล (ketoconazole) ได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นหากต้องการใช้ยานี้ในเด็กควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
ยาหลายชนิดยังไม่มีการศึกษาในผู้สูงอายุ ดังนั้นจึงยังไม่ทราบการทำงานที่แท้จริงของยาว่ามีการทำงานเช่นเดียวกันกับในผู้ป่วยวัยอื่นหรือไม่ รวมทั้งยังไม่ทราบว่ายานี้ทำให้เกิดอาการข้างเคียง, ปัญหาใดๆ ที่แตกต่างกันในผู้สูงอายุหรือไม่เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปรียบเทียบการใช้คีโทโคนาโซล (ketoconazole) ในผู้สูงอายุกับวัยอื่นๆ
ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น เมื่อท่านต้องการจะรับประทานคีโทโคนาโซล (ketoconazole) ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้อยู่
ก. การใช้ยานี้ร่วมกับคีโทโคนาโซล (ketoconazole) อาจทำให้โอกาสในการเกิดอาการข้างเคียงเกี่ยวกับตับเพิ่มขึ้น
ข. เมื่อใช้ยาต่อไปนี้ร่วมกับคีโทโคนาโซล (ketoconazole) อาจทำให้อาการง่วงนอนเพิ่มขึ้น
ค. ยาต่อไปนี้จะลดฤทธิ์ของคีโทโคนาโซล (ketoconazole) ดังนั้นยาเหล่านี้ควรรับประทานหลังคีโทโคนาโซล (ketoconazole) อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
ง. การใช้ยาต่อไปนี้ร่วมกับคีโทโคนาโซล (ketoconazole) อาจทำให้ระดับยาเหล่านี้ในกระแสเลือดเพิ่มขึ้นซึ่งทำให้เกิดอาการเกี่ยวกับกล้ามเนื้อที่รุนแรงได้
จ. การใช้ยาเหล่านี้ร่วมกับคีโทโคนาโซล (ketoconazole) อาจทำให้เกิดการคั่งน้ำในร่างกายหรือการเต้นของหัวใจช้าลง
ฉ. ซิซาไพรด์ (cisapride) ยานี้ไม่ควรรับประทานร่วมกับคีโทโคนาโซล (ketoconazole) เนื่องจากจะเพิ่มโอกาสในการเกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรงของซิซาไพรด์ (cisapride) ได้
ช. ไซโคลสปอรีน (cyclosporine) และแทโครลิมัส (tacrolimus) การใช้ร่วมกับคีโทโคนาโซล (ketoconazole) อาจทำให้ความเข้มข้นของยานี้เพิ่มขึ้นจนเกิดพิษได้
ซ. ไดดาโนซีน (didanosine) การใช้ยานี้ร่วมกับคีโทโคนาโซล (ketoconazole) อาจทำให้ฤทธิ์ของคีโทโคนาโซล (ketoconazole) ลดลง ดังนั้นควรรับประทานคีโทโคนาโซล (ketoconazole) ห่างจากยานี้อย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนหรือหลังจากรับประทานยานี้
ฌ. ดิจอกซิน (digoxin) ความเข้นข้นของดิจอกซิน (digoxin) อาจสูงขึ้นจนเกิดพิษได้
ญ. ไม่ควรรับประทานต่อไปนี้ร่วมกับคีโทโคนาโซล (ketoconazole) เนื่องจากอาจทำให้โอกาสในการเกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรงของโดเฟทิไลด์ (dofetilide), ไพโมไซด์ (pimozide) และควินิดีน (quinidine) เพิ่มขึ้น
ฎ. ไม่ควรรับประทานยาต่อไปนี้ร่วมกับคีโทโคนาโซล (ketoconazole) เนื่องจากอาจทำให้โอกาสในการเกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรงของอินดินาเวียร์ (indinavir), ริโทนาเวียร์ (ritonavir) และซาควินาเวียร์ (saquinavir) เพิ่มขึ้น
ฏ. ไอโซไนอาซิด (isoniazid) หรือไรแฟมพิน (rifampin) ยานี้อาจทำให้ฤทธิ์ของคีโทโคนาโซล (ketoconazole) ลดลง
ฐ. นีไวราพีน (nevirapine) อาจทำให้ระดับยาในเลือดของคีโทโคนาโซล (ketoconazole) ลดลง
ฑ. วอร์ฟาริน (warfarin) ผลฤทธิ์ของยาต้านการแข็งตัวของเลือดอาจเพิ่มขึ้น
ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้คีโทโคนาโซล (ketoconazole) ท่านควรแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านมีสภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น
ควรรับประทานคีโทโคนาโซล (ketoconazole) พร้อมอาหาร หากท่านมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
หากท่านมีภาวะไม่มีกรดในกระเพาะอาหาร (achlorhydria) หรือมีกรดในกระเพาะอาหารน้อย (hypochlordria) และท่านได้รับยาคีโทโคนาโซล (ketoconazole) หรืออิทราโคนาโซล (itraconazole) ซึ่งต้องอาศัยกรดในการดูดซึม ท่านอาจต้องละลายยาในโคล่าหรือโซดาแล้วดื่มหรือรับประทานยาแล้วดื่มโคล่าหรือโซดาตาม แพทย์อาจแนะนำให้ท่านละลายยาในแคปซูลหรือยาเม็ดในสารละลายกรดอ่อนไฮโดรคลอริกปริมาณ 1 ช้อนชาเพื่อช่วยให้การดูดซึมยาดีขึ้นซึ่งบุคลากรทางการแพทย์จะเป็นผู้เตรียมสารละลายนี้ให้ท่านเอง หลังจากที่ท่านละลายยาในสารละลายกรดแล้วให้เติมสารละลายนี้ในน้ำปริมาตร 1–2 ช้อนชาแล้วดื่ม โดยพยายามให้สารละลายนี้อยู่หลังฟันเพื่อรักษาความเป็นกรดให้ได้นานที่สุดก่อนที่จะถูกทำลายในช่องปาก เพื่อให้แน่ใจท่านควรรับประทานผสมไว้ให้หมดเพื่อให้ได้ปริมาณยาที่ครบถ้วน จากนั้นให้กวาดลิ้นด้วยน้ำประมาณครึ่งแก้วแล้วกลืน เพื่อช่วยล้างกรดที่ค้างอยู่ในปากหรือที่ฟันของท่าน
เพื่อให้การกำจัดการติดเชื้อดีที่สุด ท่านต้องรับประทานยาให้ครบระยะเวลาของการรักษา แม้ว่าอาการของท่านจะดีขึ้นแล้วก็ตามหลังจากรับประทานยา 2–3 วัน เนื่องจากการรักษาการติดเชื้อราต้องใช้เวลานานมาก ดังนั้นท่านอาจต้องรับประทานยาทุกวันต่อเนื่องเป็นเวลานานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปีหรือนานกว่านั้น
การติดเชื้อราบางอย่างไม่สามารถกำจัดเชื้อให้หมดไปได้จึงต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง หากท่านหยุดยาเร็วเกินไป อาการของท่านอาจเกิดขึ้นได้อีก
ยานี้ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อมีปริมาณยาในกระแสเลือดคงที่ เพื่อช่วยให้มีปริมาณยาในกระแสเลือดคงที่ท่านไม่ควรลืมรับประทานยา รวมทั้งควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันของทุกวัน ท่านอาจปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อช่วยในการวางแผนการรับประทานยา
ขนาดยาของคีโทโคนาโซล (ketoconazole) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย อาจแตกต่างจากผู้ป่วยรายอื่นหากท่านมีโรคไตร่วมด้วย ห้ามปรับขนาดยาเองหากแพทย์ไม่ได้แจ้งท่าน ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ หรือ เภสัชกร หรือ ตามที่ระบุไว้บนฉลากยา
จำนวนครั้งของการรับประทานยาในแต่ละวัน, ระยะห่างของการรับประทานยาในแต่ละครั้งและระยะเวลาที่ท่านรับประทานยาขึ้นอยู่กับสภาวะโรคของท่านที่ท่านต้องรับประทานคีโทโคนาโซล (ketoconazole)
หากท่านลืมรับประทานยาให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้ ถ้าใกล้ถึงมื้อต่อไปให้ข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานยาต่อในมื้อถัดไปในขนาดยาปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
ควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามการรักษา เพื่อให้แน่ใจว่ากำจัดเชื้อได้อย่างสมบูรณ์และได้ติดตามอาการไม่พึงประสงค์ของจากยา
หากอาการของท่านไม่ดีขึ้นภายใน 2–3 สัปดาห์ (หรือ 1 เดือนสำหรับการติดเชื้อบางอย่าง) หรืออาการยิ่งแย่ลง ควรกลับไปพบแพทย์
ยานี้ไม่ควรรับประทานร่วมกับซิซาไพรด์ (cisapride) และโดเฟทิไลด์ (dofetilide) เนื่องจากอาจทำให้ความเสี่ยงในการเกิดอาการข้างเคียงเกี่ยวกับหัวใจเพิ่มขึ้น
หากท่านดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ร่วมด้วยในขณะรับประทานยาคีโทโคนาโซล (ketoconazole) อยู่ อาจทำให้ปัญหาเกี่ยวกับตับเพิ่มขึ้น เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง, คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, หน้าแดง เป็นต้น ยาเตรียมที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ (เช่น อิลิกเซอร์, ยาน้ำเชื่อมแก้ไอ, ยาชูกำลัง) อาจทำให้เกิดปัญหาได้เช่นกัน ปัญหาเหล่านี้อาจเกิดขึ้นหลังจากหยุดคีโทโคนาโซล (ketoconazole) อย่างน้อย 1 วัน ดังนั้นท่านไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือรับประทานยาเตรียมที่ประกอบด้วยแอลกอฮฮล์ในขณะรับประทานยานี้หรือหลังจากหยุดยานี้แล้วอย่างน้อย 1 วัน
หากท่านกำลังรับประทานยาลดกรด (antacids), ซิเมทิดีน (cimetidine), แฟโมทิดีน (famotidine), ไนซาทิดีน (nizatidine), โอเมพราโซล (omeprazole) และแรนิทีดีน (ranitidine) ในขณะที่รับประทานคีโทโคนาโซล (ketoconazole) ท่านควรรับประทานยาอื่นๆ ดังกล่าวอย่างน้อย 2 ชั่วโมงหลังจากรับประทานคีโทโคนาโซล (ketoconazole) หากท่านรับประทานยาเหล่านี้ร่วมกันอาจทำให้คีโทโคนาโซล (ketoconazole) ถูกดูดซึมลดลง
คีโทโคนาโซล (ketoconazole) อาจทำให้ตาไวต่อแสงมากผิดปกติ ควรใส่แว่นกันแดดและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจ้าจะช่วยลดผลนี้ลงได้
ยาอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงบางอย่างที่ไม่ต้องการ ถึงแม้ว่าอาการข้างเคียงต่อไปนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นทั้งหมด แต่หากเกิดอาการข้างเคียงขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ก. ควรพบแพทย์ทันที หากมีอาการข้างเคียงต่อไปนี้เกิดขึ้น
พบน้อย
พบน้อยมาก
ข. อาการข้างเคียงอื่นๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการข้างเคียงเหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาเนื่องจากร่างกายจะปรับตัวเข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนานหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน
พบน้อย
พบน้อยมาก
ค. อาการข้างเคียงอื่นๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย หากท่านสังเกตเห็นอาการข้างเคียงอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
คีโทโคนาโซล (ketoconazole) สามารถใช้ในการรักษาโรคเหล่านี้ได้อีกด้วย
ข้อมูลข้างต้นยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ที่ถูกต้องเหมาะสม, ข้อควรระวังหรืออาการข้างเคียงของการใช้ในข้อบ่งใช้เหล่านี้
ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้
ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้
ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้
Chintoral (ซินโตรอล), Diazon (ไดอาซอน), Fungazol, Fungiderm-K (ฟังจิเดอร์ม), Funginox (ฟังจิน๊อกซ์), Fungizin, Kandex (แคนเด็กซ์), Katsin, Kazinal (คาซินอล), Kenazol (เคนาโซล), Kenoral (คีโนรัล), Ketazon (คีตาซอน), Ketocine, Ketoconazole GPO, Ketoconazole T P, Ketomed, Ketoral (คีโตรัล), Ketosil, Ketozal (คีโตซาล), Kezole, Konazol (โคนาโซล), Manoketo (มาโนคีโต), Masarol, Mizoco, Mizoron (ไมโซร่อน), Mycoral (ไมโครัน), Nazole Tablet (ยาเม็ด นาโซล), Ninazol (นินาซอล), Nizoral, Nora, Pasalen
ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว
ยานี้มีชื่อภาษาไทยอื่นที่มีการใช้ดังต่อไปนี้
ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อภาษาไทยอื่นที่อาจมีการใช้ ซึ่งไม่ได้แสดงในนี้