ค้นหาโรคและความเจ็บป่วย / อาการ

อ่าน: 1357
Small_font Large_font

ทอนซิลอักเสบ (tonsillitis)

คำจำกัดความ

Acute tonsillitis เป็นภาวะอักเสบของต่อมทอนซิลเฉียบพลัน ส่วนคออักเสบ (pharyngitis) หมายถึง ภาวะอักเสบของเนื้อเยื่อในลำคอที่อยู่บริเวณหลังช่องปากเข้าไป บางครั้งภาวะทั้งสองอาจเกิดขึ้นพร้อมกันได้ บางครั้งอาจเกิดเพียงทอนซิลอักเสบหรือคออักเสบอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยทั่วไปเมื่อพูดว่าต่อมทอนซิลอักเสบ จะหมายความถึงการอักเสบของต่อมทอนซิลซึ่งโดยมากเป็นทั้งสองข้าง และมักมีอาการอักเสบของหลอดคอหอยร่วมด้วย ต่อมทอนซิลอักเสบแบ่งเป็นชนิดเฉียบพลันและชนิดเรื้อรัง

อาการ

ผู้ป่วยโรคต่อมทอนซิลอักเสบเฉียบพลัน จะมีอาการไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ โดยเฉพาะเวลากลืนอาหาร หรือน้ำลาย จะเจ็บมาก พยาธิสภาพของโรคนี้ พบการบวมแดงของต่อมทอนซิลและเยื่อบุคอหอย อาจพบหนองได้ การอักเสบรุนแรงกระจายทั่วไป ลิ้นไก่แดงมาก และพบหนองสีเทาเหลืองที่บริเวณทอนซิลได้บ่อย

สาเหตุ

  1. ต่อมทอนซิลอักเสบเฉียบพลัน อาจเกิดได้ทั้งจากเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย เด็กก่อนวัยเรียนมักจะเกิดจากเชื้อไวรัส และติดต่อกันได้ง่าย เพราะไม่รู้จักวิธีป้องกันการติดต่อของโรค สำหรับในเด็กโตและผู้ใหญ่ มักจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ส่วนใหญ่เป็นเชื้อกลุ่มเดียวกันกับที่ทำให้เป็นโรคหวัด หรือเชื้อที่ทำให้เกิดการอักเสบของระบบหายใจตอนบน
  2. เชื้อไวรัสที่พบบ่อยที่สุดคือ rhinovirus และ coronavirus ซึ่งอาการมักไม่รุนแรง ส่วนเชื้อ adenovirus และ herpes simplex virus พบว่าเป็นสาเหตุได้ไม่บ่อย แต่มีความสำคัญเพราะมีอาการรุนแรง ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีในระยะแรกอาจมีอาการคออักเสบและทอนซิลอักเสบได้
  3. เชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคพบได้หลายชนิด ร้อยละ 15 เกิดจากเชื้อสเตร็ปโตค็อคคัส S. pyogenes ส่วน group C และ G อาจเกิดการระบาดโดยปนเปื้อนในอาหารได้

การวินิจฉัย

โรคนี้สามารถให้การวินิจฉัยได้จากการซักถามประวัติอาการ การตรวจร่างกายโดยละเอียด การแยกให้ได้ว่าเกิดจากเชื้อไวรัสหรือจากเชื้อแบคทีเรีย ส่วนใหญ่การตรวจร่างกายอย่างเดียวมักไม่สามารถบอกสาเหตุได้ การตรวจพบหนองที่ต่อมทอนซิล หรือคอหอย มักเกิดจากการติดเชื้อสเตร็ปโตค็อคคัส group A, C, G เชื้อแบคทีเรียชนิดไม่พึ่งออกซิเจน adenovirus และ herpes simplex virus ถ้าพบว่ามีผื่นแดงที่ผิวหนัง ควรนึกถึงการติดเชื้อ S. pyogenes และ Epstein Barr virus ส่วนในรายที่มีอาการตาอักเสบร่วมด้วย มัก

เกิดจากเชื้อ adenovirus และ enterovirus บางชนิด
การตรวจหาแอนติเจนของเชื้อสเตร็ปโตค็อคคัส จากตัวอย่างที่ป้ายจากคอหอยและทอนซิล เป็นวิธีที่ให้ผลอย่างรวดเร็ว มีความจำเพาะสูงถึงร้อยละ 90 แต่มีความไวอยู่ระหว่าง 60-95 การตรวจหาแอนติเจนของเชื้อสเตร็ปโตค็อคคัส ถ้าให้ผลบวกสามารถให้การวินิจฉัยได้ว่าเป็นจากเชื้อสเตร็ปโตค็อคคัส แต่ถ้าให้ผลลบ ควรเพาะเชื้อลงบนอาหารเลี้ยงเชื้อเพื่อยืนยัน

ภาวะแทรกซ้อน

ผลแทรกซ้อนของต่อมทอนซิลอักเสบที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่

  1. ฝีรอบต่อมทอนซิล ข้างคอหอย ผนังคอหอย ต่อมน้ำเหลืองที่คอ
  2. หินปูนในทอนซิล
  3. ไข้รูห์มาติก
  4. เยื่อบุหัวใจอักเสบ
  5. ไตอักเสบ

การรักษาและยา

ในส่วนของการรักษาโรคต่อมทอนซิลอักเสบเฉียบพลันนั้น ปกติแพทย์จะให้การรักษาตามอาการ เช่น
ให้ยาบรรเทาอาการเจ็บคอ ยาลดน้ำมูก หรือลดไข้ และให้การรักษาเฉพาะ เช่น การให้ยาต้านจุลชีพเพื่อกำจัดเชื้อต้นเหตุ ถ้าการอักเสบนั้นเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย แต่อย่างไรก็ตาม หากแพทย์พิจารณาว่าสาเหตุมาจากไวรัส ก็จะให้ยาตามอาการเท่านั้น เพราะยาต้านจุลชีพไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ นอกจากนี้ในรายที่มีอาการมากๆ เช่น เจ็บคอมากจนรับประทานอาหารไม่ได้ และมีไข้สูงแพทย์จะแนะนำให้นอนพักรักษาในโรงพยาบาล เพื่อให้น้ำเกลือและยาต้านจุลชีพทางหลอดเลือดดำ ซึ่งจะทำให้อาการทุเลาดีขึ้นเร็วกว่าการให้ยากลับไปรับประทานที่บ้าน

ถ้าผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาทอนซิลอักเสบเฉียบพลัน การอักเสบของต่อมทอนซิลอาจจะกระจายกว้างออกไปจนเกิดเป็นหนองบริเวณรอบต่อมทอนซิล แล้วอาจลุกลามผ่านช่องคอเข้าสู่ช่องปอดและหัวใจได้ นอกจากนั้น เชื้อแบคทีเรียอาจเข้ากระแสเลือดแล้วกระจายไปทั่วร่างกาย ซึ่งนับเป็นภาวะที่เป็นอันตรายอย่างมาก เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ หากเป็นต่อมทอนซิลอักเสบเฉียบพลันบ่อยๆ ต่อมทอนซิลจะโตขึ้น แล้วเปลี่ยนสภาพเป็นแบบเรื้อรัง และอาจมีการอักเสบอย่างเฉียบพลันได้ การที่ต่อมทอนซิลโตจะทำให้เกิดร่องหรือซอกซึ่งเศษอาหารอาจเข้าไปตกค้างอยู่ได้ อาจทำให้เกิดการอักเสบยืดเยื้อออกไป

การผ่าตัด

  1. โดยทั่วไปแพทย์จะพิจารณาตัดต่อมทอนซิลก็ต่อเมื่อ
    • เป็นภาวะต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังที่รักษาด้วยยาไม่ได้ผล หรือเกิดการอักเสบ ปีละหลาย ครั้ง หลายปีติดต่อกัน ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลง เช่นต้องขาดงาน หรือขาดเรียนบ่อย
    • เมื่อต่อมทอนซิลโตมากๆ ทำให้เกิดอาการนอนกรน และ/ หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
    • ผู้ป่วยที่มีต่อมทอนซิลโต และแพทย์สงสัยว่า อาจเป็นมะเร็งของต่อมทอนซิลโดยตรง หรือมีมะเร็ง ที่ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ แล้วหาตำแหน่งมะเร็งต้นเหตุไม่เจอ แต่แพทย์สงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งที่มาจากต่อมทอนซิล
  2. การผ่าตัดเอาต่อมทอนซิลออก ไม่ได้ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกาย หรือของช่องปากลดลงแต่อย่างใด
  3. ผลแทรกซ้อนของการตัดทอนซิลที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
    • เลือดออกมาก
    • ทางเดินหายใจอุดตัน
    • เสียงเปลี่ยน กลืนลำบาก
    • โรคแทรกซ้อนของยาสลบหรือยาชา
    • อาจเสียชีวิตได้

ยาที่เกี่ยวข้อง

ยาที่ใช้บ่อย Amoxicillin and Clavulanate (Amoxycillin and Clavulanate), Amoxicillin หรือ Amoxycillin, Cefuroxime, Erythromycin , Paracetamol, Roxithromycin,

แหล่งอ้างอิง

-



04 มิถุนายน 2553 19 กรกฎาคม 2553
เพื่อนแนะนำ : เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย, เราชนะรอบ 4, ยืมเงิน 3000 ด่วน, แอพผ่อนของ, กู้เงิน, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อไม่เช็ค บูโรถูกกฎหมาย