Platelet count
ปริมาณเกล็ดเลือด
Platelet count
Thrombocyte count, PLT
CBC, Platelet aggregation
การตรวจหาปริมาณเกล็ดเลือด หรือเพลทเล็ตเคาท์ (Platelet count) เพื่อวินิจฉัยความผิดปกติของภาวะเลือดออกหรือโรคไขกระดูก
เกล็ดเลือดมีกำเนิดมาจากไซโตพลาสซึมของเมกะคาริโอไซต์ (megakaryocytes) ซึ่งอยู่ในไขกระดูก เมื่อเมกะคาริโอไซต์ (megakaryocytes) ออกจากไขกระดูกเข้าสู่กระแสเลือดจะไปติดอยู่ตามหลอดเลือดฝอยในปอดและมีการสร้างเกล็ดเลือดต่อไป ดังนั้นเลือดที่ผ่านปอดแล้วจึงมีเกล็ดเลือดสูงกว่าเลือดก่อนผ่านเข้าสู่ปอด ปอดกับม้ามเป็นที่เก็บเกล็ดเลือดด้วย ถ้าตัดม้ามออกจะมีการสร้างเกล็ดเลือดมากขึ้น เพราะระดับเกล็ดเลือดในเลือดมีผลในการควบคุมการแบ่งตัวของเมกะคาริโอไซต์ (megakaryocytes) ซึ่งเป็นที่ผลิดเกล็ดเลือดด้วย ในคนเมื่อมีการเสียเลือดระยะแรกจะมีจำนวนเกล็ดเลือดในเลือดเพิ่มขึ้นโดยการเคลื่อนออกจากปอดและม้าม ถ้าเสียเลือดมากจนเกล็ดเลือดต่ำ ไขกระดูกสามารถสร้างเกล็ดเลือดเพิ่มมากกว่าปกติได้ถึง 4 – 8 เท่า เมื่อเกล็ดเลือดเข้าสู่กระแสเลือดแล้วจะมีชีวิตอยู่ได้ 8 – 11 วัน เกล็ดเลือดจะมีรูปร่างกลม ถ้ากระทบผิวที่ไม่เรียบเช่นหลอดเลือดที่มีพยาธิสภาพ ที่ผนังเกล็ดเลือดจะเปลี่ยนรูปร่างมีซูโดโพเดีย (pseudopodia) ยื่นไปรอบตัวแผ่ขยายออกไปขนาดใหญ่ขึ้น เมมเบรนจะเหนียวสามารถเกาะติดกับคอลลาเจนไฟเบอร์ (collagen fiber) ที่ผนังหลอดเลือด คุณสมบัตินี้เรียกว่าเพลทเล็ตแอดฮีซีฟเนส (platelet adhesiveness) คุณสมบัติอีกอย่างคือความสามารถในการจับกลุ่ม (platelet aggregation) และคุณสมบัติอีกอย่างคือวิสคอส เมตามอร์โฟสิส (viscous metamorphosis) คือการจับกลุ่มของเกล็ดเลือดแล้วไม่สามารถแยกตัวกลับคืนเป็นเกล็ดเลือดอย่างเดิมได้ ภายหลังที่เกล็ดเลือดรวมตัวกันแล้วจะมีการหดตัวของกลุ่มเกล็ดเลือดทำให้มีการหดตัวของลิ่มเลือด หรือเรียกว่าคลอธรีแทคชั่น (clot retraction)
สาเหตุที่ทำให้เกล็ดเลือดมีปริมาณต่ำเช่นมีการสร้างน้อยเกินไป, มีการทำลายมาก, มีการเร่งการทำลาย, มีการใช้มากขึ้น, มีการสูญเสียเกล็ดเลือดจากการที่มีเลือดออก สำหรับเกล็ดเลือดปริมาณสูงเกิดจากมะเร็งเม็ดเลือดขาว, ภาวะเม็ดเลือดแดงข้น เป็นต้น
การตรวจปริมาณเกล็ดเลือดเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจนับเม็ดเลือดอย่างสมบูรณ์หรือซีบีซี (CBC) ในการตรวจร่างกายประจำปี และอาจตรวจเป็นระยะ ๆ เมื่อพบว่ามีบาดแผลขนาดเล็กแต่เลือดไหลไม่หยุด
เลือด (เจาะจากหลอดเลือดดำที่แขน)
ห้องปฏิบัติการโลหิตวิทยา