ค้นหา Lab Tests

อ่าน: 576
Small_font Large_font

เชื้อเริมหรือไวรัสเฮอร์ปีส์ ซิมเพล็กซ์ : Herpes simplex virus

ชื่อภาษาอังกฤษ

Herpes simplex virus


ชื่อภาษาไทย

เชื้อเริมหรือไวรัสเฮอร์ปีส์ ซิมเพล็กซ์


ชื่อหลัก

Herpes simplex virus


ชื่ออื่น

HSV


ความรู้ทั่วไป

ตรวจเพื่ออะไร

การตรวจหาเชื้อเริมหรือไวรัสเฮอร์ปีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes simplex virus) หรือเอชเอสวี (HSV) เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคเริม (Herpes simplex)

โรคเริมเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อไวรัส ชื่อเฮอร์ปีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes simplex) ซึ่งเชื้อไวรัสนี้มีอยู่ 2 ชนิด คือ ชนิดที่ทำให้เกิดแผล (cold sore) ที่พบบริเวณริมฝีปาก ทั้งบนและล่าง หรือมุมปาก พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ และชนิดที่มักจะพบเริมบริเวณอวัยวะเพศ พบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก ลักษณะอาการแบ่งได้เป็นหลายระยะ โดยจะเริ่มจากความรู้สึกคันหรือเจ็บยิบๆบริเวณที่จะเกิดแผล แล้วจะมีผื่น กลายเป็นกลุ่มของตุ่มน้ำใสซึ่งภายหลังจะรวมตัวกันอยู่บนผิวหนังประมาณ 1-2 วัน จากนั้นตุ่มน้ำใสนี้ จะแตกออก และตกสะเก็ดแต่บางรายอาจเป็นนานกว่านั้นเกือบถึง 1 สัปดาห์ ทั้งนี้เราไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสเริมได้เด็ดขาด แต่เชื้อจะมีระยะพักตัว ซึ่งมักพักตัวอยู่ในเส้นประสาท และก่อให้เกิดตุ่มใสขึ้นอีกได้เสมอๆ ซึ่งขึ้นกับปัจจัยต่างๆ เช่น ภูมิคุ้มกันลดลง ความเครียดทางกายหรือจิตใจ ช่วงประจำเดือน เป็นต้น

เชื้อเฮอร์ปีส์ (herpes) มีสองชนิดคือ

  1. เฮอร์ปีส์ ซิมเพล็กซ์ ไวรัส 1 (Herpes simplex virus 1) หรือเอชเอสวีวัน (HSV-1) มักเกิดบริเวณปากและผิวหนังเหนือสะดือขึ้นไป เมื่อเกิดที่ปากเรียกเฮอร์ปีส์ เลเบียลิส (Herpes labialis) โรคนี้ไม่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  2. เฮอร์ปีส์ ซิมเพล็กซ์ ไวรัส 2 (Herpes simplex virus 2) หรือเอชเอสวีทู (HSV-2) เชื้อมักเกิดบริเวณอวัยวะเพศและติดต่อโดยเพศสัมพันธ์เรียกเฮอร์ปีส์ เจนิทัลลิส (Herpes genitalis) ทำให้เกิดโรคเริมบริเวณอวัยวะเพศของทั้งชายและหญิง

ทั้งนี้ไวรัสทั้งสองชนิดสามารถติดต่อในบริเวณที่ต่างจากปกติได้ เช่นเอชเอสวีวัน (HSV-1) ก่อให้เกิดแผลที่อวัยวะเพศ เริมทั้ง 2 ชนิดนี้ ติดต่อกันได้ทางการสัมผัสโดยตรง เช่น การใช้แก้วน้ำร่วมกัน การจูบกันและติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และโดยการสัมผัสสิ่งของที่ผู้มีเชื้อใช้ เช่น ผ้าเช็ดตัว ช้อน เป็นต้น อาการแผลของเริมนี้อาจเกิดเป็นซ้ำได้อีก เนื่องจากเชื้อไวรัสเริมนี้จะเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในปมประสาท (ganglion) และมักจะทำให้เป็นเริมซ้ำที่บริเวณเดิม หรือใกล้เคียงกับตำแหน่งเดิมเสมอ ปัจจัยที่ทำให้เป็นเริมซ้ำได้อีกมีดังนี้

  • การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • ความเครียด วิตกกังวล เช่น ทำงานหนัก ใกล้สอบ เป็นต้น
  • ความเจ็บป่วย ช่วงที่สุขภาพอ่อนแอ ทรุดโทรม ไม่ค่อยสบาย จะกลับเป็นเริมได้อีก
  • อากาศร้อน แสงแดด สิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นได้แก่ การถูไถ การสัมผัสลม แสง ความเย็น เสื้อผ้าคับๆ เหงื่อ
  • ภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ระหว่างมีประจำเดือน

ลักษณะของโรคเริม เมื่อเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายประมาณ 6-8 วัน จะทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดตุ่มน้ำพองใสเป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มละ 2-10 เม็ด ซึ่งเป็นช่วงที่สามารถติดต่อไปสู่ผู้อื่นได้ ผู้ป่วยจะมีอาการคันหรือแสบร้อนรอบๆ ตุ่มใสนี้ ซึ่งต่อมาจะแตกออกเป็นแผลตื้น ๆ หลายแผลติดกัน ตกสะเก็ด และหายไปในที่สุด ซึ่งมักจะไม่ก่อให้เกิดแผลเป็น

โรคเริมอวัยวะเพศ มีอัตราการติดต่อสูง ซึ่งโดยมากมักจะเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่ การใช้ถุงยางอนามัยก็ไม่สามารถป้องกันได้ทีเดียว อาการของเริมอวัยวะเพศมักจะเป็นรุนแรงในช่วงการติดเชื้อครั้งแรกโดยเริ่มปรากฏขึ้นประมาณ 2-3 วัน ถึง 3 อาทิตย์ หลังจากได้รับเชื้อ คือ มีอาการปวดแสบปวดร้อน ระคายเคืองบริเวณที่จะเกิดตุ่มแผล และอาจมีอาการปวดศีรษะ เป็นไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อก่อน เมื่อเวลาผ่านไปอีกประมาณ 10 วัน จะปรากฏมีตุ่มใสๆ เกิดขึ้นและมีอาการเจ็บปวดมาก โดยเฉพาะในผู้ป่วยหญิงอาการของโรคจะเกิดขึ้นนาน 3-6 อาทิตย์ หลังจากนั้นไวรัสอาจจะยังอาศัยและซ่อนตัวอยู่ในร่างกายอีกในสภาวะพักตัว และทำให้เกิดเป็นๆ หายๆ มากหรือน้อยแล้วแต่บุคคล เช่น เมื่อมีอารมณ์เครียด มีประจำเดือน หรือมีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น

โรคแทรกซ้อนของการติดเชื้อเฮอร์ปีส์ ซิมเพล็กซ์ (herpes simplex)

  • การตั้งครรภ์และการติดเชื้อเฮอร์ปีส์ ซิมเพล็กซ์ (herpes simplex) พบว่าคนท้องที่ติดเชื้อประมาณร้อยละ 0.01 – 0.04 อาจจะเกิดการแท้ง คลอดก่อนกำหนด เด็กเจริญเติบโตช้าโดยเฉพาะการติดเชื้อใกล้คลอดดังนั้นแนะนำว่าควรจะรักษาหากเกิดการติดเชื้อเมื่อใกล้คลอด การติดเชื้อครั้งแรกจะเกิดโรคแทรกซ้อนได้บ่อยกว่าการติดเชื้อที่กลับเป็นซ้ำ
  • เฮอร์ปีส์ เอนเซ็ฟฟาไลติส (Herpes Encephalitis) เกิดจากเชื้อที่อยู่ในระยะแฝงตัว (Latency) และเกิดการแบ่งตัวผู้ป่วยอาจจะเสียชีวิตหากไม่ได้รักษาแต่โชคดีที่พบน้อย
  • เฮอร์ปีส์ เม็นนิงไจติส (Herpes Meningitis) พบได้ร้อยละ 4-8 ในคนที่เป็นเอชเอสวีทูบริเวณอวัยวะเพศ (primary genital HSV-2) พบมากในผู้หญิง แต่ไม่ต้องตกใจเนื่องจากหายเองใน 2-7วันผู้ป่วยจะปวดศีรษะ อาเจียน และมีไข้
  • ผู้ป่วยโรคเอดส์และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องจากยา เช่นสเตียรอยด์ (steroid) มะเร็ง ยารักษามะเร็งหากผู้ป่วยกลุ่มนี้ติดเชื้อเฮอร์ปีส์ ซิมเพล็กซ์ (herpes simplex) จะเป็นรุนแรงมีโรคแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม ตับอักเสบ สมองอักเสบ
  • การติดเชื้อที่ตา อาจจะทำให้ตาพร่ามัว ในรายที่เป็นรุนแรงอาจจะทำให้ตาบอด

ตรวจเมื่อใด

การตรวจเชื้อเริมหรือไวรัสเฮอร์ปีส์ ซิมเพลกซ์ สามารถทำได้โดยการซักประวัติและการตรวจร่างกายพบผื่นดังกล่าวข้างต้น


สิ่งส่งตรวจที่ต้องใช้

  • การเพาะเชื้อไวรัสโดยการนำน้ำใต้ตุ่มใสไปเพาะเชื้อโดยเฉพาะควรจะนำหลังจากเกิดผื่นแล้วไม่เกิน 3 วัน การตรวจนี้ไม่ได้ผลในรายที่ผื่นตกสะเก็ด หรือผื่นของการกลับเป็นซ้ำ
  • นำเนื้อเยื่อไปตรวจโดยกล้องจุลทรรศน์

แหล่งอ้างอิง

  1. http://th.wikipedia.org/wiki/เริม
  2. http://www.siamhealth.net/public_html/Health/Photo_teaching/herpes_simplex.htm



24 เมษายน 2554 22 กรกฎาคม 2554
เพื่อนแนะนำ : เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย, เราชนะรอบ 4, ยืมเงิน 3000 ด่วน, แอพผ่อนของ, กู้เงิน, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อไม่เช็ค บูโรถูกกฎหมาย