อ่าน: 2599
Small_font Large_font

Isotretinoin (ไอโซเทรทิโนอิน )

คำอธิบายพอสังเขป

ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ใช้ในการรักษาสิวรุนแรงที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูน ใช้เมื่อรักษาสิวด้วยยาตัวอื่นไม่ได้ผลเท่านั้น ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจใช้ในการรักษาโรคผิวหนังอื่นๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์

ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์เนื่องจากทำให้เกิดทารกวิรูปในมนุษย์

ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ห้ามใช้ในสตรีให้นมบุตรยกเว้นใช้เมื่อรักษาสิวด้วยยาตัวอื่นไม่ได้ผล ดังนั้นหากท่านต้องการให้นมบุตร โปรดอ่านและทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำเตือนของการใช้ยานี้อย่างละเอียด

ยานี้ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการรักษาสิวชนิดรุนแรงเท่านั้นและต้องมีใบสั่งยาของแพทย์หากท่านต้องการซื้อยานี้จากร้านยา

ก่อนการใช้ยา

การแพ้ยา

โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆ หรือมีประวัติการแพ้ยาไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin), แอซิเทรทิน (acitretin), อีเทรทิเนต (etretinate), เทรทิโนอิน (tretinoin) หรือผลิตภัณฑ์ของวิตามินเอ หรือ ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่นๆ เช่น อาหาร สารกันเสียหรือสี เป็นต้น

ตั้งครรภ์

ABCDX

รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'X' สำหรับสตรีมีครรภ์

จากการศึกษาในสัตว์หรือมนุษย์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ หรือมีหลักฐานชัดเจนจากการใช้ในมนุษย์ว่าเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้นห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์หรือในสตรีที่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์

ห้ามใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ในสตรีมีครรภ์เนื่องจากทำให้เกิดทารกวิรูปในมนุษย์ นอกจากนี้ห้ามใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ในสตรีที่อาจตั้งครรภ์ในระหว่างการรักษาหรือหลังเสร็จสิ้นการรักษา 1 เดือน

กำลังให้นมบุตร

ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมได้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ในระหว่างให้นมบุตรเนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงในเด็กที่ดื่มนมมารดา

เด็ก

เด็กอาจไวต่อฤทธิ์ของไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) มากเป็นพิเศษ ทำให้โอกาสในการเกิดอาการข้างเคียงในระหว่างการรักษาเพิ่มขึ้น อาจพบอาการข้างเคียง เช่น ปวดหลัง, ข้อหรือกล้ามเนื้อในเด็กได้บ่อยกว่าผู้ใหญ่

ควรใช้ยานี้ด้วยความระมัดระวังในวัยรุ่น โดยเฉพาะผู้ที่มีความผิดปกติหรือมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก

ผู้สูงอายุ

ยาหลายชนิดยังไม่มีการศึกษาในผู้สูงอายุ ดังนั้นจึงยังไม่ทราบการทำงานที่แท้จริงของยาว่ามีการทำงานเช่นเดียวกันกับในผู้ป่วยวัยอื่นหรือไม่ รวมทั้งยังไม่ทราบว่ายานี้ทำให้เกิดอาการข้างเคียง, ปัญหาใดๆ ที่แตกต่างกันในผู้สูงอายุหรือไม่เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปรียบเทียบการใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ในผู้สูงอายุกับวัยอื่นๆ อย่างไรก็ตามผู้สูงอายุอาจมีความเสี่ยงในการเกิดปัญหาต่างๆ และอาการข้างเคียงในขณะใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) มากขึ้น

ยาอื่นที่ใช้อยู่

ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น เมื่อท่านต้องการจะรับประทานไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้อยู่

  • แอซิเทรทิน (acitretin) หรือเทรทิโนอิน (tretinoin) การใช้ยาเหล่านี้ร่วมกับไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้อาการข้างเคียงจากการใช้ยามากขึ้น
  • ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน (oral contraceptives), ยาคุมกำเนิดที่ประกอบด้วยโปรเจสตินเพียงอย่างเดียว (mini pills) ยานี้จะไม่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดหากใช้ร่วมกับไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin)
  • เททราไซคลีน (tetracycline), ยาฆ่าเชื้อรูปแบบรับประทาน การใช้ยานี้ร่วมกับไอโซเทรทิโนอิน

(Isotretinoin) อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดอาการข้างเคียงที่เรียกว่า pseudotumor cerebri (อาการคล้ายมีก้อนเนื้อในสมอง) ซึ่งจะมีอาการบวมและความดันในสมองสูง

ภาวะโรคร่วม

ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ท่านควรแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านมีสภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น

  • ติดแอลกอฮอล์หรือเคยมีประวัติติดแอลกอฮอล์
  • โรคเบาหวานหรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน
  • มีประวัติคนในครอบครัวมีระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ (สารประเภทไขมัน) ในเลือดสูง
  • มีปัญหาน้ำหนักตัวรุนแรง

การใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้ระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ (สารประเภทไขมัน) ในเลือดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดมากขึ้นในผู้ป่วยที่มีประวัติของคนในครอบครัวมีระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ (สารประเภทไขมัน) ในเลือดสูง, น้ำหนักตัวมากผิดปกติ, โรคเบาหวานหรือดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก

สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน การใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลง

  • เบื่ออาหาร (anorexia)
  • โรคกระดูกพรุน (osteoporosis) ในเด็กหรือผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน
  • โรคกระดูกอ่อน (osteomalacia)
  • โรคหรืออาการเกี่ยวกับกระดูกอื่นๆ

ควรใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อย่างระมัดระวังเนื่องจากยังไม่ทราบแน่ชัดว่าไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) มีผลทำให้เกิดการสูญเสียกระดูก (bone loss) หรือไม่

ไม่ควรใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ในผู้ป่วยที่มีสภาวะดังต่อไปนี้

  • โรคไต
  • ภาวะไขมันในเลือดสูง (อย่างฉับพลันและเพิ่มขึ้นมาก)
  • โรคตับ
  • ผู้ที่มีภาวะวิตามินเอในร่างกายมากเกินไป

โรคเกี่ยวกับความผิดปกติของจิตใจ เช่น โรคซึมเศร้า, โรคจิตเภท เป็นต้น การใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้ภาวะเหล่านี้ยิ่งแย่ลง

การใช้ที่ถูกต้อง

เมื่อท่านได้รับยาไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ท่านจะได้รับเอกสารกำกับยาด้วย โปรดอ่านและทำความเข้าใจเอกสารกำกับยาอย่างละเอียด หากท่านมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ห้ามใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ในสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่ไม่สามารถคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างน้อย 1 เดือนก่อนการเริ่มการรักษาด้วยยานี้

ท่านต้องคุมกำเนิดอย่างต่อเนื่องตลอดการรักษาด้วยยานี้อาจเป็นเวลานานถึง 20 สัปดาห์และเป็นเวลาอีก 1 เดือนหลังจากใช้ยานี้

เพื่อให้แน่ใจ ท่านควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อให้เข้าใจข้อมูลดังกล่าวทั้งหมด

หากท่านเป็นสตรีที่สามารถมีบุตรได้ท่านต้องทดสอบการตั้งครรภ์ภายใน 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มการรักษาด้วยไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) เพื่อให้แน่ใจว่าท่านไม่ได้ตั้งครรภ์

อาจเริ่มการรักษาด้วยไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ภายในสัปดาห์หรือวันที่ 2–3 ของการมีประจำเดือนครั้งถัดไป นอกจากนี้ท่านต้องทดสอบการตั้งครรภ์ทุกเดือนในขณะใช้ยานี้และ 1 เดือนหลังจากหยุดใช้ยานี้

รับประทานไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) พร้อมอาหารและน้ำ 1 แก้ว (ประมาณ 250 มิลลิลิตร) การรับประทานยาพร้อมอาหารจะทำให้ได้รับปริมาณยาที่ครบถ้วน การรับประทานยาพร้อมน้ำ 1 แก้ว (ประมาณ 250 มิลลิลิตร) จะช่วยลดอาการไม่สบายท้องหรือหน้าอกซึ่งอาจเกิดจากการรับประทานไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ได้

ควรรับประทานยาตามใบสั่งยาของแพทย์เท่านั้น ห้ามรับประทานมากกว่า, บ่อยกว่าและนานกว่าที่แพทย์สั่งเนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงจากการใช้ยามากขึ้นและ ห้ามนำยานี้ให้ผู้อื่นรับประทานเด็ดขาด เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงในการเกิดทารกวิรูปและอาการข้างเคียงอื่นๆ ที่เกิดจากการใช้ยาได้

ขนาดยา

ขนาดยาของไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ หรือ เภสัชกร หรือ ตามที่ระบุไว้บนฉลากยา

จำนวนแคปซูลที่ท่านรับประทานขึ้นอยู่กับความแรงของยา รวมทั้งจำนวนครั้งของการรับประทานยาในแต่ละวัน,ระยะห่างของการรับประทานยาในแต่ละครั้งและระยะเวลาที่ท่านรับประทานยาขึ้นอยู่กับสภาวะโรคของท่านที่ท่านต้องรับประทานไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin)

เมื่อลืมใช้ยา

หากท่านลืมรับประทานยาให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้ ถ้าใกล้ถึงมื้อต่อไปให้ข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานยาต่อในมื้อถัดไปในขนาดยาปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า

การเก็บรักษา

  • เก็บให้พ้นมือเด็ก
  • เก็บให้ห่างจากความร้อนและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
  • ห้ามเก็บยารูปแบบแคปซูลไว้ในห้องน้ำ ใกล้อ่างล้างมือหรือที่ชื้น เนื่องจากความร้อนหรือความชื้นอาจเป็นสาเหตุให้ยาเสื่อมคุณภาพ
  • ทิ้งยาเมื่อยาหมดอายุ

ข้อควรระวัง

ควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลการรักษาและติดตามผลไม่พึงประสงค์ของยา

ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ทำให้เกิดทารกวิรูปในสตรีมีครรภ์ ดังนั้นหากท่านสงสัยว่าท่านอาจจะตั้งครรภ์ ควรหยุดยาทันทีแล้วไปพบแพทย์

ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานวิตามิน, ผลิตภัณฑ์สมุนไพรหรือยาที่หาซื้อได้เอง (OTC-drugs) ยาเหล่านี้หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น St. John’s wort อาจทำให้ยาเม็ดคุมกำเนิดไม่มีประสิทธิผลในการคุมกำเนิด

ในช่วง 3 สัปดาห์แรกของการรับประทานไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ท่านอาจรู้สึกระคายเคืองผิวหนัง รวมทั้งอาการสิวดูเหมือนจะแย่ลงก่อนที่จะดีขึ้นในภายหลัง ควรกลับไปพบแพทย์หากอาการของท่านไม่ดีขึ้นภายใน 1–2 เดือนหลังจากเริ่มรับประทานยานี้หรืออาการระคายเคืองจากการใช้ยายิ่งรุนแรงขึ้น จะเห็นผลในการรักษาอย่างเต็มที่หลังจากท่านรับประทานยาต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 6 เดือน ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของท่านเพื่อช่วยลดการระคายเคืองผิวหรือผิวแห้ง

ห้ามบริจาคเลือดในขณะท่านใช้ยานี้และเป็นเวลา 30 วันหลังจากหยุดรับประทานยานี้เพื่อเป็นการป้องกันโอกาสที่สตรีมีครรภ์จะได้รับเลือดที่มียานี้อยู่

ยานี้อาจทำให้ความสามารถของการมองเห็นในตอนกลางคืนในผู้ป่วยบางรายลดลง หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นไม่ควรขับขี่ยานพาหนะหรือทำกิจกรรมใดๆ ที่เสี่ยงอันตราย หากการมองเห็นของท่านไม่ค่อยดี ควรกลับไปพบแพทย์

ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้เกิดอาการตาแห้ง ดังนั้นหากท่านใส่คอนแทคเลนส์ในระหว่างใช้ยานี้และหลังจากหยุดยาแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ อาจทำให้ระคายเคืองตามากขึ้น ท่านอาจไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการใช้น้ำตาเทียมการบรรเทาอาการนี้

ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้ปากและจมูกแห้ง สำหรับการบรรเทาอาการปากแห้งชั่วคราวควรใช้ลูกอมหรือหมากฝรั่งที่ปราศจากน้ำตาล อมก้อนน้ำแข็งให้ละลายในปาก อย่างไรก็ตามถ้าท่านรู้สึกว่าปากแห้งติดต่อกันเป็นเวลามากกว่า 2 สัปดาห์ควรปรึกษาทันตแพทย์ อาการปากแห้งติดต่อกันเป็นเวลามากกว่า 2 สัปดาห์อาจทำให้เกิดโรคภายในช่องปากรวมถึงฟันผุ โรคเหงือกและติดเชื้อราง่ายขึ้น

ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน, ลมแรงหรืออาการหนาวเย็นเนื่องจากอาจทำให้ผิวของท่านแสบไหม้, แห้งหรือระคายเคืองมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วง 2–3 สัปดาห์แรกของการรักษา อย่างไรก็ตาม ท่านไม่ควรหยุดรับประทานยายกเว้นอาการระคายเคืองรุนแรงมาก และห้ามใช้หลอดไฟ แสงอาทิตย์ซึ่งในใช้การรักษาโรคผิวหนังบางชนิด

เพื่อช่วยให้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ทำงานได้ดี ควรใช้โลชั่นกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 15 และควรสวมเสื้อผ้าหรือหมวกเพื่อป้องกันแดด

ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับอารมณ์หรือพฤติกรรม และความคิดเกี่ยวกับการคิดฆ่าตัวตาย ควรพบแพทย์ทันทีหากท่านมีอาการดังกล่าวเกิดขึ้น

ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระดูกหรือกล้ามเนื้อ รวมทั้งอาการปวดข้อ, ปวดกล้ามเนื้อหรือตึงกล้ามเนื้อ, เคลื่อนไหวลำบาก ควรพบแพทย์หากอาการดังกล่าวรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน

ห้ามรับประทานวิตามินเอหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ประกอบด้วยวิตามินเอในขณะรับประทานยานี้ เนื่องจากอาจทำให้โอกาสในการเกิดอาการข้างเคียงเพิ่มขึ้น

ห้ามแวกซ์ขนในขณะที่รับประทานยานี้และหลังจากหยุดยานี้แล้วเป็นเวลา 6 เดือน เนื่องจากไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้โอกาสในการเกิดแผลจากการแวกซ์ขนเพิ่มขึ้นและห้ามกระทำการเสริมสวยที่อาจมีอัตรายต่อผิวหนัง เช่น การทำเลเซอร์, การลอกผิว เป็นต้น เนื่องจากไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้โอกาสในการเกิดแผลเป็นเพิ่มขึ้น

สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

  • ยานี้อาจมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด หากท่านสังเกตพบความผิดปกติเกี่ยวกับผลการทดสอบระดับน้ำตาลในเลือดหรือในปัสสาวะหรือมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

อาการไม่พึงประสงค์

ยาอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงบางอย่างที่ไม่ต้องการ ถึงแม้ว่าอาการข้างเคียงต่อไปนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นทั้งหมด แต่หากเกิดอาการข้างเคียงขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม

ก. ควรพบแพทย์ทันที หากมีอาการข้างเคียงต่อไปนี้เกิดขึ้น

พบบ่อย

  • ปวดข้อหรือปวดกระดูก, รู้สึกแสบร้อน แดง คันหรืออาการอื่นๆที่บ่งบอกว่าเกิดการอักเสบของตา, เคลื่อนไหวลำบาก, เลือดไหลจากจมูก, ปากแห้งแตก แดง แสบร้อน เจ็บหรืออาการอื่นๆที่บ่งบอกว่าเกิดการอักเสบของริมฝีปาก, ติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเกิดผื่นที่ผิวหนัง

พบน้อยมาก

  • ปวดท้อง(รุนแรง), พยายามฆ่าตัวตายหรือมีความคิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย(มักหายไปหลังจากหยุดยา), ปวดหลัง, เลือดออกตามเหงือกหรือเหงือกอักเสบ, ตาพร่าหรือการมองเห็นผิดปกติ, พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป, ความสามารถในการมองเห็นตอนกลางคืนหรือเช้ามืดลดลง (เกิดทันทีหรืออาจเกิดขึ้นติดต่อกันเป็นเวลานานหลังจากหยุดยาแล้ว), ท้องร่วง (รุนแรง), ปวดศีรษะ (รุนแรงหรือเกิดขึ้นติดต่อกันเป็นเวลานาน), ซึมเศร้า, คลื่นไส้และอาเจียน, ปวดตา, ปวดตึงกล้ามเนื้อ (เมื่อใช้ยาเป็นเวลานาน), เลือดออกจากทวารหนัก, ตัวเหลืองตาเหลือง

ไม่ทราบอุบัติการณ์ในการเกิดว่ามากน้อยเพียงใด

  • อุจจาระดำ, เลือดออกจากแผลในปาก, ท้องอืด, ปัสสาวะมีเลือดปนหรือปัสสาวะขุ่น, ไอเป็นเลือด, ปวดกระดูก, แสบร้อนผิวหนัง, เจ็บหน้าอก, หนาวสั่น, สับสน, ท้องผูก, ชัก, ไอหรือเสียงแหบ, ปัสสาวะสีเข้มขึ้น, ความสูงลดลง, หายใจลำบาก, พูดลำบาก, กลืนลำบาก, มีสารคัดหลั่งไหลออกจากตา, วิงเวียนศีรษะ, เห็นภาพซ้อน, ปวดหู, น้ำตาไหลมากผิดปกติ, เป็นลม, หัวใจเต้นเร็วผิดปกติหรือผิดจังหวะ, มีไข้และมีหรือไม่มีอาการหนาวสั่น, แผลหายยาก, รู้สึกไม่สบายตัว, แสบยอดอก, ความดันโลหิตสูง, ผื่นลมพิษ, ไม่สามารถเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อแขน ขาหรือใบหน้า, พูดไม่ได้, อาหารไม่ย่อย, เนื้อเยื่ออักเสบจากการติดเชื้อ, มีผื่นราบสีเหลืองหรือก้อนเนื้อที่ผิวหนัง, ระคายเคืองผิวหนัง, ปวดตึงข้อหรือข้อบวมแดง, เจริญเติบโตช้าในเด็ก, เล็บหลุด, เบื่ออาหาร, กลั้นปัสสาวะไม่อยู่, สูญเสียการได้ยินหรือการได้ยินเปลี่ยนแปลงไป, กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง, ข้อต่อตามแขนขาแข็งเกร็ง, กล้ามเนื้ออ่อนล้า, หายใจมีเสียง, ปวดซี่โครง แขนหรือขา, ปวดหรือแสบร้อนคอ, ปวดหรือตึงบริเวณตาหรือโหนกแก้ม, มีแผลหรือตุ่มน้ำที่ริมฝีปาก จมูก ตาหรืออวัยวะเพศ, ปัสสาวะลำบาก, เจ็บบริเวณหน้าอก ขาหนีบหรือขาโดยเฉพาะที่น่อง, ปวดท้องทั้งด้านหน้าและด้านข้าง อาจลามไปด้านหลัง, ผิวซีด, มีจุดเลือดออกที่ผิวหนัง, เจ็บรอบๆเล็บมือหรือรอบๆเล็บมือแดงมาก, ผิวหนังมีสีแดง เจ็บหรือคัน, ตาไวต่อแสง, หายใจสั้น, พูดช้า, จาม, เจ็บคอ, เจ็บ มีแผลในปากหรือมีฝ้าขาวในปาก ที่ริมฝีปากหรือลิ้น, คัดจมูกหรือน้ำมูกไหล, ทรงตัวไม่ได้กระทันหัน, หมดสติกระทันหัน, หายใจสั้นฉับพลันโดยไม่มีสาเหตุ, เกิดสิวบริเวณหน้าอกและหลังอย่างรวดเร็วและรุนแรง, เปลือกตา ใบหน้า ริมฝีปาก แขน ขาหรือเท้าบวม, ปวดที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ รักแร้หรือขาหนีบ, แน่นหน้าอก, เลือดออกมากผิดปกติหรือเกิดจ้ำเลือด, เหนื่อยล้าหรืออ่อนเพลียมากผิดปกติ, น้ำหนักเพิ่มหรือลดมากผิดปกติ, อารมณ์รุนแรงหรือใช้พลังงานมากผิดปกติ, ท้องร่วงเป็นน้ำหรือมีเลือดปน, ไอ

ข. อาการข้างเคียงอื่นๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการข้างเคียงเหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาเนื่องจากร่างกายจะปรับตัวเข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนานหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน

พบบ่อย

  • ผิวหนังหลุดลอก, ใส่คอนแทคเลนส์ยาก (อาจมีปัญหานนี้ติดต่อกันเป็นเวลานานหลังหยุดใช้ยา), ตาแห้ง (อาจเกิดติดต่อกันเป็นเวลานานหลังหยุดใช้ยา), ปากแห้งหรือจมูกแห้ง, ผิวแห้งหรือมีอาการคันผิวหนัง, ปวดศีรษะ (เล็กน้อย), ผิวหนังไวต่อแสงมากขึ้น, ฝ่ามือหรือฝ่าเท้าซีด, ไม่สบายท้อง, ผมบาง (อาจเกิดติดต่อกันเป็นเวลานานหลังหยุดใช้ยา)

ไม่ทราบอุบัติการณ์ในการเกิดว่ามากน้อยเพียงใด

  • ปวดท้องช่วงมีประจำเดือนมากผิดปกติ, ปวดแสบปวดร้อน ขนลุก คัน ชา มีความรู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่ม, เล็บมือเล็บเท้าผิดปกติไป, ได้ยินเสียงในหูอย่างต่อเนื่อง, มีรังแคที่หนังศีรษะ, ผิวเข้มขึ้น, อ่อนล้า, หน้าแดง, ความผิดปกติของเส้นผมหรือขน (ผมหรือขนร่วงผิดปกติ / ผมหรือขนเจริญมากผิดปกติโดยเฉพาะขนบริเวณใบหน้า), ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงขึ้น, สีผิวปกติหรือซีดลง, ผิวหนังบริเวณที่เคยมีสีเข้มกลับซีดลง, ผิวมัน, กระสับกระส่าย, หน้าแดง, แสบร้อนผิวอย่างรุนแรง, เกิดผื่นที่ผิวหนัง ตกสะเก็ดหรือมีน้ำเหลืองเยิ้ม, นอนหลับได้น้อยลง, แสบกระเพาะอาหาร, เหงื่อออกมากผิดปกติ, นอนหลับยาก, นอนไม่หลับ, ง่วงซึมผิดปกติ, มึนงง, เหนื่อยล้า, อ่อนเพลีย, รู้สึกเฉื่อยชา, รู้สึกร้อนหน้าผิดปกติ, เสียงเปลี่ยนไป

ค. อาการข้างเคียงอื่นๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย หากท่านสังเกตเห็นอาการข้างเคียงอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ข้อมูลเพิ่มเติม

ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจใช้ในสภาวะดังต่อไปนี้

  • รูขุมขนอักเสบ (Folliculitis)ซึ่งเกิดเนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรียแกรมลบบริเวณใบหน้าใกล้กับจมูก
  • สิวเรื้อรังที่รักแร้ (hidradenitis suppurativa) ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของต่อมเหงื่อ
  • โรคโรซาเซีย (rosacea ) จะมีผิวหนังแดงบริเวณใบหน้า ปกติมักพบที่จมูกและแก้ม
  • โรคผิวหนังที่เกิดจากการหนาตัวของผิวหนังมากผิดปกติ เช่น keratosis follicularis, palmoplantar keratoderma, lamellar ichthyosis และ rubra pilaris เป็นต้น

ข้อมูลข้างต้นยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ที่ถูกต้องเหมาะสม, ข้อควรระวังหรืออาการข้างเคียงของการใช้ในข้อบ่งใช้เหล่านี้

กลุ่มยา

ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้

ยาที่เกี่ยวข้อง

ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้

Adapalene, Benzoyl Peroxide, Clindamycin (Topical), Erythromycin (Topical) , Tretinoin (Topical)

ชื่อทางการค้า

ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้

Acnotin 5, Acnotin 10, Acnotin 20, A-Cnotren, Isotane, Proacne 10, Roaccutane, Sotret

ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว

ชื่อภาษาไทยอื่นที่อาจมีการใช้

ยานี้มีชื่อภาษาไทยอื่นที่มีการใช้ดังต่อไปนี้

ไอโซเทรติโนอิน

ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อภาษาไทยอื่นที่อาจมีการใช้ ซึ่งไม่ได้แสดงในนี้

แหล่งอ้างอิง

  1. Micromedex Thomson Healthcare. Advice for the Patient Drug Information in Lay Language USP DI, volume ll. 25th ed. Massachusetts: Micromedex Thomson Healthcare, 2005: 988-91.
  2. Klasco RK (Ed): DRUGDEX® System (electronic version). Thomson Micromedex, Greenwood Village, Colorado, USA. Available at: http://www.thomsonhc.com (cited: Oct 12, 2009).
  3. Joint Formulary Committee. British National Formulary. 57th ed. London: British Medical Association and Royal Pharmaceutical Society of Great Britain, 2009: 637-42.
  4. Sunthornraj N, Fun LF, Evangelista LF, Labandilo LD, Romano MB, Afable JO, et al. MIMs Thailand. 106th ed. Bangkok: MediMedia (Thailand); 2007.

นรวร เจนณรงค์ , หทัยรัตน์ คังคะสุวรรณ
โพยม วงศ์ภูวรักษ์
13 ตุลาคม 2552 19 สิงหาคม 2553
เพื่อนแนะนำ : เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย, เราชนะรอบ 4, ยืมเงิน 3000 ด่วน, แอพผ่อนของ, กู้เงิน, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อไม่เช็ค บูโรถูกกฎหมาย