ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ใช้ในการรักษาสิวรุนแรงที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูน ใช้เมื่อรักษาสิวด้วยยาตัวอื่นไม่ได้ผลเท่านั้น ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจใช้ในการรักษาโรคผิวหนังอื่นๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์
ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์เนื่องจากทำให้เกิดทารกวิรูปในมนุษย์
ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ห้ามใช้ในสตรีให้นมบุตรยกเว้นใช้เมื่อรักษาสิวด้วยยาตัวอื่นไม่ได้ผล ดังนั้นหากท่านต้องการให้นมบุตร โปรดอ่านและทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำเตือนของการใช้ยานี้อย่างละเอียด
ยานี้ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการรักษาสิวชนิดรุนแรงเท่านั้นและต้องมีใบสั่งยาของแพทย์หากท่านต้องการซื้อยานี้จากร้านยา
โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆ หรือมีประวัติการแพ้ยาไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin), แอซิเทรทิน (acitretin), อีเทรทิเนต (etretinate), เทรทิโนอิน (tretinoin) หรือผลิตภัณฑ์ของวิตามินเอ หรือ ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่นๆ เช่น อาหาร สารกันเสียหรือสี เป็นต้น
รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'X' สำหรับสตรีมีครรภ์
จากการศึกษาในสัตว์หรือมนุษย์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ หรือมีหลักฐานชัดเจนจากการใช้ในมนุษย์ว่าเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้นห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์หรือในสตรีที่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์
ห้ามใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ในสตรีมีครรภ์เนื่องจากทำให้เกิดทารกวิรูปในมนุษย์ นอกจากนี้ห้ามใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ในสตรีที่อาจตั้งครรภ์ในระหว่างการรักษาหรือหลังเสร็จสิ้นการรักษา 1 เดือน
ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมได้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ในระหว่างให้นมบุตรเนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงในเด็กที่ดื่มนมมารดา
เด็กอาจไวต่อฤทธิ์ของไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) มากเป็นพิเศษ ทำให้โอกาสในการเกิดอาการข้างเคียงในระหว่างการรักษาเพิ่มขึ้น อาจพบอาการข้างเคียง เช่น ปวดหลัง, ข้อหรือกล้ามเนื้อในเด็กได้บ่อยกว่าผู้ใหญ่
ควรใช้ยานี้ด้วยความระมัดระวังในวัยรุ่น โดยเฉพาะผู้ที่มีความผิดปกติหรือมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก
ยาหลายชนิดยังไม่มีการศึกษาในผู้สูงอายุ ดังนั้นจึงยังไม่ทราบการทำงานที่แท้จริงของยาว่ามีการทำงานเช่นเดียวกันกับในผู้ป่วยวัยอื่นหรือไม่ รวมทั้งยังไม่ทราบว่ายานี้ทำให้เกิดอาการข้างเคียง, ปัญหาใดๆ ที่แตกต่างกันในผู้สูงอายุหรือไม่เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปรียบเทียบการใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ในผู้สูงอายุกับวัยอื่นๆ อย่างไรก็ตามผู้สูงอายุอาจมีความเสี่ยงในการเกิดปัญหาต่างๆ และอาการข้างเคียงในขณะใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) มากขึ้น
ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น เมื่อท่านต้องการจะรับประทานไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้อยู่
ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ท่านควรแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านมีสภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น
การใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้ระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ (สารประเภทไขมัน) ในเลือดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดมากขึ้นในผู้ป่วยที่มีประวัติของคนในครอบครัวมีระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ (สารประเภทไขมัน) ในเลือดสูง, น้ำหนักตัวมากผิดปกติ, โรคเบาหวานหรือดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก
สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน การใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลง
ควรใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อย่างระมัดระวังเนื่องจากยังไม่ทราบแน่ชัดว่าไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) มีผลทำให้เกิดการสูญเสียกระดูก (bone loss) หรือไม่
ไม่ควรใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ในผู้ป่วยที่มีสภาวะดังต่อไปนี้
โรคเกี่ยวกับความผิดปกติของจิตใจ เช่น โรคซึมเศร้า, โรคจิตเภท เป็นต้น การใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้ภาวะเหล่านี้ยิ่งแย่ลง
เมื่อท่านได้รับยาไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ท่านจะได้รับเอกสารกำกับยาด้วย โปรดอ่านและทำความเข้าใจเอกสารกำกับยาอย่างละเอียด หากท่านมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ห้ามใช้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ในสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่ไม่สามารถคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างน้อย 1 เดือนก่อนการเริ่มการรักษาด้วยยานี้
ท่านต้องคุมกำเนิดอย่างต่อเนื่องตลอดการรักษาด้วยยานี้อาจเป็นเวลานานถึง 20 สัปดาห์และเป็นเวลาอีก 1 เดือนหลังจากใช้ยานี้
เพื่อให้แน่ใจ ท่านควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อให้เข้าใจข้อมูลดังกล่าวทั้งหมด
หากท่านเป็นสตรีที่สามารถมีบุตรได้ท่านต้องทดสอบการตั้งครรภ์ภายใน 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มการรักษาด้วยไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) เพื่อให้แน่ใจว่าท่านไม่ได้ตั้งครรภ์
อาจเริ่มการรักษาด้วยไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ภายในสัปดาห์หรือวันที่ 2–3 ของการมีประจำเดือนครั้งถัดไป นอกจากนี้ท่านต้องทดสอบการตั้งครรภ์ทุกเดือนในขณะใช้ยานี้และ 1 เดือนหลังจากหยุดใช้ยานี้
รับประทานไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) พร้อมอาหารและน้ำ 1 แก้ว (ประมาณ 250 มิลลิลิตร) การรับประทานยาพร้อมอาหารจะทำให้ได้รับปริมาณยาที่ครบถ้วน การรับประทานยาพร้อมน้ำ 1 แก้ว (ประมาณ 250 มิลลิลิตร) จะช่วยลดอาการไม่สบายท้องหรือหน้าอกซึ่งอาจเกิดจากการรับประทานไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ได้
ควรรับประทานยาตามใบสั่งยาของแพทย์เท่านั้น ห้ามรับประทานมากกว่า, บ่อยกว่าและนานกว่าที่แพทย์สั่งเนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงจากการใช้ยามากขึ้นและ ห้ามนำยานี้ให้ผู้อื่นรับประทานเด็ดขาด เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงในการเกิดทารกวิรูปและอาการข้างเคียงอื่นๆ ที่เกิดจากการใช้ยาได้
ขนาดยาของไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ หรือ เภสัชกร หรือ ตามที่ระบุไว้บนฉลากยา
จำนวนแคปซูลที่ท่านรับประทานขึ้นอยู่กับความแรงของยา รวมทั้งจำนวนครั้งของการรับประทานยาในแต่ละวัน,ระยะห่างของการรับประทานยาในแต่ละครั้งและระยะเวลาที่ท่านรับประทานยาขึ้นอยู่กับสภาวะโรคของท่านที่ท่านต้องรับประทานไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin)
หากท่านลืมรับประทานยาให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้ ถ้าใกล้ถึงมื้อต่อไปให้ข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานยาต่อในมื้อถัดไปในขนาดยาปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
ควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลการรักษาและติดตามผลไม่พึงประสงค์ของยา
ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ทำให้เกิดทารกวิรูปในสตรีมีครรภ์ ดังนั้นหากท่านสงสัยว่าท่านอาจจะตั้งครรภ์ ควรหยุดยาทันทีแล้วไปพบแพทย์
ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานวิตามิน, ผลิตภัณฑ์สมุนไพรหรือยาที่หาซื้อได้เอง (OTC-drugs) ยาเหล่านี้หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น St. John’s wort อาจทำให้ยาเม็ดคุมกำเนิดไม่มีประสิทธิผลในการคุมกำเนิด
ในช่วง 3 สัปดาห์แรกของการรับประทานไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ท่านอาจรู้สึกระคายเคืองผิวหนัง รวมทั้งอาการสิวดูเหมือนจะแย่ลงก่อนที่จะดีขึ้นในภายหลัง ควรกลับไปพบแพทย์หากอาการของท่านไม่ดีขึ้นภายใน 1–2 เดือนหลังจากเริ่มรับประทานยานี้หรืออาการระคายเคืองจากการใช้ยายิ่งรุนแรงขึ้น จะเห็นผลในการรักษาอย่างเต็มที่หลังจากท่านรับประทานยาต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 6 เดือน ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของท่านเพื่อช่วยลดการระคายเคืองผิวหรือผิวแห้ง
ห้ามบริจาคเลือดในขณะท่านใช้ยานี้และเป็นเวลา 30 วันหลังจากหยุดรับประทานยานี้เพื่อเป็นการป้องกันโอกาสที่สตรีมีครรภ์จะได้รับเลือดที่มียานี้อยู่
ยานี้อาจทำให้ความสามารถของการมองเห็นในตอนกลางคืนในผู้ป่วยบางรายลดลง หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นไม่ควรขับขี่ยานพาหนะหรือทำกิจกรรมใดๆ ที่เสี่ยงอันตราย หากการมองเห็นของท่านไม่ค่อยดี ควรกลับไปพบแพทย์
ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้เกิดอาการตาแห้ง ดังนั้นหากท่านใส่คอนแทคเลนส์ในระหว่างใช้ยานี้และหลังจากหยุดยาแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ อาจทำให้ระคายเคืองตามากขึ้น ท่านอาจไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการใช้น้ำตาเทียมการบรรเทาอาการนี้
ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้ปากและจมูกแห้ง สำหรับการบรรเทาอาการปากแห้งชั่วคราวควรใช้ลูกอมหรือหมากฝรั่งที่ปราศจากน้ำตาล อมก้อนน้ำแข็งให้ละลายในปาก อย่างไรก็ตามถ้าท่านรู้สึกว่าปากแห้งติดต่อกันเป็นเวลามากกว่า 2 สัปดาห์ควรปรึกษาทันตแพทย์ อาการปากแห้งติดต่อกันเป็นเวลามากกว่า 2 สัปดาห์อาจทำให้เกิดโรคภายในช่องปากรวมถึงฟันผุ โรคเหงือกและติดเชื้อราง่ายขึ้น
ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน, ลมแรงหรืออาการหนาวเย็นเนื่องจากอาจทำให้ผิวของท่านแสบไหม้, แห้งหรือระคายเคืองมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วง 2–3 สัปดาห์แรกของการรักษา อย่างไรก็ตาม ท่านไม่ควรหยุดรับประทานยายกเว้นอาการระคายเคืองรุนแรงมาก และห้ามใช้หลอดไฟ แสงอาทิตย์ซึ่งในใช้การรักษาโรคผิวหนังบางชนิด
เพื่อช่วยให้ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) ทำงานได้ดี ควรใช้โลชั่นกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 15 และควรสวมเสื้อผ้าหรือหมวกเพื่อป้องกันแดด
ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับอารมณ์หรือพฤติกรรม และความคิดเกี่ยวกับการคิดฆ่าตัวตาย ควรพบแพทย์ทันทีหากท่านมีอาการดังกล่าวเกิดขึ้น
ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระดูกหรือกล้ามเนื้อ รวมทั้งอาการปวดข้อ, ปวดกล้ามเนื้อหรือตึงกล้ามเนื้อ, เคลื่อนไหวลำบาก ควรพบแพทย์หากอาการดังกล่าวรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน
ห้ามรับประทานวิตามินเอหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ประกอบด้วยวิตามินเอในขณะรับประทานยานี้ เนื่องจากอาจทำให้โอกาสในการเกิดอาการข้างเคียงเพิ่มขึ้น
ห้ามแวกซ์ขนในขณะที่รับประทานยานี้และหลังจากหยุดยานี้แล้วเป็นเวลา 6 เดือน เนื่องจากไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้โอกาสในการเกิดแผลจากการแวกซ์ขนเพิ่มขึ้นและห้ามกระทำการเสริมสวยที่อาจมีอัตรายต่อผิวหนัง เช่น การทำเลเซอร์, การลอกผิว เป็นต้น เนื่องจากไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจทำให้โอกาสในการเกิดแผลเป็นเพิ่มขึ้น
สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
ยาอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงบางอย่างที่ไม่ต้องการ ถึงแม้ว่าอาการข้างเคียงต่อไปนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นทั้งหมด แต่หากเกิดอาการข้างเคียงขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ก. ควรพบแพทย์ทันที หากมีอาการข้างเคียงต่อไปนี้เกิดขึ้น
พบบ่อย
พบน้อยมาก
ไม่ทราบอุบัติการณ์ในการเกิดว่ามากน้อยเพียงใด
ข. อาการข้างเคียงอื่นๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการข้างเคียงเหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาเนื่องจากร่างกายจะปรับตัวเข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนานหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน
พบบ่อย
ไม่ทราบอุบัติการณ์ในการเกิดว่ามากน้อยเพียงใด
ค. อาการข้างเคียงอื่นๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย หากท่านสังเกตเห็นอาการข้างเคียงอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ไอโซเทรทิโนอิน (isotretinoin) อาจใช้ในสภาวะดังต่อไปนี้
ข้อมูลข้างต้นยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ที่ถูกต้องเหมาะสม, ข้อควรระวังหรืออาการข้างเคียงของการใช้ในข้อบ่งใช้เหล่านี้
ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้
ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้
Adapalene, Benzoyl Peroxide, Clindamycin (Topical), Erythromycin (Topical) , Tretinoin (Topical)
ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้
Acnotin 5, Acnotin 10, Acnotin 20, A-Cnotren, Isotane, Proacne 10, Roaccutane, Sotret
ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว
ยานี้มีชื่อภาษาไทยอื่นที่มีการใช้ดังต่อไปนี้
ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อภาษาไทยอื่นที่อาจมีการใช้ ซึ่งไม่ได้แสดงในนี้