อ่าน: 7380
Small_font Large_font

Enalapril (อีแนลาพริล หรือ อีนาลาพริล)

คำอธิบายพอสังเขป

อีแนลาพริล (enalapril) จัดเป็นยาในกลุ่มต้านความดันเลือดสูง กลุ่มสารยับยั้งเอนไซม์ที่ใช้ในการสร้างสารชื่อแอนจิโอเทนซิน (angiotension converting enzyme inhibitors) หรืออาจเรียกย่อเป็นยากลุ่มเอซ๊อีไอ (ACEIs) แอนจิโอเทนซินเป็นสารที่มีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดหดตัว เมื่อยายับยั้งแอนจิโอเทนซินจึงมีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดขยายตัวและทำให้เลือดไหลผ่านได้ดีขึ้น

ยานี้ ใช้สำหรับผู้ป่วยโรคความดันเลือดสูง, คนที่มีภาวะหัวใจล้ม (heart attack), ภาวะหัวใจล้มเหลวเหตุเลือดคั่ง (congestive heart failure) เมื่อใช้ร่วมกับยาอื่น, คนที่มีกล้ามเนื้อหัวใจเสียหายหรือมีภาวะหัวใจห้องล่างขวาทำหน้าที่ผิดปรกติ, ใช้ปรับการทำงานของหัวใจหลังจากภาวะหัวใจล้ม (heart attck), ใช้รักษาหรือป้องกันการเสื่อมของไตในผู้ป่วยเบาหวานที่มีการสูญเสียโปรตีนทางปัสสาวะ

ยานี้ไม่ได้ใช้เพื่อรักษาโรคความดันเลือดสูงให้หายขาด เพียงแต่ช่วยควบคุมความดันเลือดไว้ โดยต้องควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารเค็ม, การออกกำลังกาย และการลดน้ำหนักในรายที่น้ำหนักเกิน

ก่อนการใช้ยา

การแพ้ยา

โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใด ๆ หรือมีประวัติการแพ้ยาอีแนลาพริล (enalapril) หริอ ยาอื่นในกลุ่มนี้ หรือ ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่น เช่น อาหาร, สารกันเสีย, สี เป็นต้น

ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยาอีแนลาพริลและส่วนประกอบอื่น ๆ ในยานี้ หรือเมื่อรับประทานยานี้แล้วมีอาการ ผื่น คัน ผื่นแพ้ตำแย ลมพิษ บวมน้ำกดไม่บุ๋ม หายใจลำบาก เสียงหายใจหวีดหวือ ไอ หน้าบวม ลิ้นบวม มือบวม คอบวม ปากบวม เปลือกตาบวม (อาการเหล่านี้คืออาการแพ้ยา) หรือในผู้ที่มีภาวะบวมน้ำกดไม่บุ๋มซึ่งเกิดขึ้นเอง

อาหารและเครื่องดื่มที่ต้องระวัง

  • ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือสมุนไพรบางชนิด เช่น ฮอว์ทอร์น (hawthron), เซนต์จอห์นเวิร์ท (St John’s wort), ตังกุย (dong quai), อีฟีดา (ephedra), โยฮิมบี (yohimbe) โสม, ชะเอม, กระเทียม
  • แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงการดื่มกาแฟ, แอลกอฮอล์, การสูบบุหรี่ และยาเสพติด เนื่องจากอาจมีผลต่อการทำงานของยานี้

ตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 1

ABCDX

รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'C' สำหรับสตรีมีครรภ์

จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาที่ควบคุมอย่างดีในมนุษย์ หรือ ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์และสัตว์ถึงผลของยาต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรใช้ยานี้เมื่อมีการประเมินแล้วว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์

ในช่วง 3 เดือนแรกจากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์ ในช่วงหลังจากสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์

การพิจารณาใช้ยาให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ อาจใช้ยานี้ได้ หากพิจารณาแล้วว่าก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์

ตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 2

ABCDX

รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'D' สำหรับสตรีมีครรภ์

ยามีความเสี่ยงในการก่อให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตาม อาจใช้ยานี้ได้ หากพิจารณาแล้วว่าประโยชน์จากการใช้ยามีมากกว่าความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ ดังนั้นการพิจารณาใช้ยาให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์

หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ โดยเฉพาะหลังจากสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ ควรเปลี่ยนไปใช้ยาลดความดันเลือดตัวอื่นที่มีความปลอดภัยระหว่างการตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในวัยเจริญพันธ์ควรคุมกำเนิดระหว่างการใช้ยานี้ในช่วงหลังจากสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์

ข้อมูลในมนุษย์พบว่ายามีความเสี่ยงในการก่อให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ การพิจารณาใช้ยาให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ อาจใช้ยานี้ได้ หากพิจารณาแล้วว่าก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์

ตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 3

ABCDX

รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'D' สำหรับสตรีมีครรภ์

ยามีความเสี่ยงในการก่อให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตาม อาจใช้ยานี้ได้ หากพิจารณาแล้วว่าประโยชน์จากการใช้ยามีมากกว่าความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ ดังนั้นการพิจารณาใช้ยาให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์

หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ โดยเฉพาะหลังจากสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ ควรเปลี่ยนไปใช้ยาลดความดันเลือดตัวอื่นที่มีความปลอดภัยระหว่างการตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในวัยเจริญพันธ์ควรคุมกำเนิดระหว่างการใช้ยานี้ในช่วงหลังจากสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์

ข้อมูลในมนุษย์พบว่ายามีความเสี่ยงในการก่อให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ การพิจารณาใช้ยาให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ อาจใช้ยานี้ได้ หากพิจารณาแล้วว่าก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์

กำลังให้นมบุตร

สตรีให้นมบุตร ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ เพราะยานี้สามารถผ่านทางน้ำนมได้ แม้ว่ายังไม่มีรายงานความผิดปกติของทารกที่ได้รับนมแม่ที่รับประทานยานี้

เด็ก

ไม่ควรใช้ในเด็กทารกหรือเด็กที่มีปัญหาโรคไต

ผู้สูงอายุ

ไม่ควรลุกขึ้นยืนหรือลุกนั่งจากท่านอนเร็วเกินไปโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการวิงเวียนหรือหมดสติ

ยาอื่นที่ใช้อยู่

ก.ห้ามใช้ยานี้ร่วมกับยาต่อไปนี้

  • สารเสริมโพแทสเซียม เกลือที่มีโพแทสเซียม ยาอื่น ๆ ที่สามารถเพิ่มโพแทสเซียมในร่างกาย เช่น ยาขับปัสสาวะที่เก็บโพแทสเซียมเข้าร่างกาย ได้แก่ สไพโรโนแลกโทน (spironolactone), อะมิโลไรด์ (amiloride)
  • ลิเทียม (lithium)
  • กลุ่มยาที่ออกฤทธิ์กดภูมิต้านทานของร่างกาย เช่น แอซาไทโอพรีน (azathioprine), เมอร์แคปโทพิวรีน (mercaptopurine)
  • มอร์ฟีน (morphine)

ข. ระมัดระวังการใช้ยานี้ร่วมกับยาต่อไปนี้

  • ยารักษาหวัด ไอ ไข้ หรือ ยาลดน้ำหนัก เนื่องจากอาจทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น, เอฟรีดิน (ephedrine), นอร์อะดรีนาลิน (noradrenaline), อะดรีนาลิน (adrenaline)
  • ยาขับปัสสาวะบางกลุ่ม เช่น ไฮโดรคลอโรไทอาไซด์ (hydrochlorothiazide), ฟรูโรซีไมด์ (fruosemide)
  • ยาลดความดันกลุ่มอื่น เช่น ไนโตรกลิเซอริน (nitroglycerin), ยาแก้ซึมเศร้า เช่น แอมิทริปทิลีน (amitriptyline),
  • ยารักษาโรคจิต|ยาระงับความรู้สึก
  • ยาบรรเทาอาการปวดอักเสบของกระดูกและข้อ เช่น ทอง กลุ่มยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์ต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตอรอยด์ เช่น ไดโคลฟีแนก (diclofenac), ไอบิวโพรเฟน (ibuprofen), แอสไพริน (aspirin), อินโดเมทาซิน (indomethacin), เพียร็อกซิแคม (piroxicam), เซเลโคสิป (celecoxib)
  • ยารักษาเบาหวาน เช่น อินซูลิน (insulin), เมตฟอร์มิน (metformin), กลิพิไซด์ (glipizide), กลิคลาไซด์ (gliclazide), ไกลเบนคลาไมด์ (gliblenclamide)
  • ยาต้านซึมเศร้ากลุ่มยับยั้งโมโนแอมีนนออกซิเดส (MAOIs)
  • เฮพาริน (heparin)
  • อัลโลพูรินอล (allopurinol)
  • ดิจอกซิน (digoxin)
  • สเตอรอยด์ (steroid)
  • เททราซัยคลิน (tetracycline)
  • ไทรเมโทพริม (trimethoprim)
  • โพรเบนีซิด (probenecid)
  • คาร์บามาซีพีน (carbamazepine)
  • นีไวราพีน (nevirapine)
  • ฟีโนบาร์บิทอล (phenobarbital)
  • เฟนิทอยน์ (phenytoin)|
  • ไม่ควรใช้ยาลดกรดในช่วง 2 ชั่วโมงของการได้รับยานี้
  • ไม่ใช้สารทดแทนเกลือหรือนมที่มีเกลือต่ำก่อนปรึกษาแพทย์

ค. ยังมียาหลายชนิดที่ไม่ควรใช้ร่วมกับอีแนลาพริล (enalapril) ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบว่าท่านกำลังใช้ยาใดอยู่ในขณะนี้

ภาวะโรคร่วม

  • ห้ามใช้กับผู้ที่มีการอุดกั้นของหลอดเลือดแดงที่ไต (renal artery occlusion)
  • ระมัดระวังการใช้ในผู้ที่มีภาวะหรือโรคต่อไปนี้:
– ภาวะไตบกพร่อง – ผู้ที่ฟอกไต – ผู้ที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายไต – ภาวะตับวายหรือเป็นโรคตับ – การหดแคบของเอออร์ตาหรือท่อเลือดแดง (aortic stenosis) – โรคเบาหวานโดยเฉพาะผู้ที่ไม่สามารถควบคุมน้ำตาลได้ดี – น้ำตาลในเลือดต่ำ – ภาวะใช้น้ำตาลแลคโตสไม่ได้ (lactose intolerance) – ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำหรือแกรนูโลไซต์น้อย – ปัญหาเกี่ยวกับไขกระดูก – มีภาวะโรคของคอลลาเจนและหลอดเลือดจากโรคภูมิต้านตนเอง – โรคต้านภูมิต้านทานตนเองซิสเทมิกลูปัสเออริทีมาโทซัส (systemic lupus erythematosus) หรือเรียกย่อว่า เอสแอลอี (SLE) – มีประวัติบวมแบบแองจิโอเอดิมา (angioedema) จากการได้รับยาอื่น – ได้รับการรักษาภาวะไขมันในเลือดสูงโดยใช้เครื่องมือ – มีอาการความดันเลือดต่ำ, มีปริมาตรเลือดน้อย – ความดันเลือดสูงในหลอดเลือดไต – ไอแห้ง – ภาวะเลือดมีโพแทสเซียมมากหรือได้รับเกลือโพแทสเซียม – เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี

การใช้ที่ถูกต้อง

  • รับประทานยาได้ทั้งก่อนอาหาร หลังอาหาร และพร้อมอาหาร แต่วิธีที่ดีที่สุดคือการรับประทานยาตอนท้องว่าง 1 ชั่วโมงก่อนอาหาร อาหารหากรู้สึกไม่สบายท้องให้รับประทานพร้อม
  • รับประทานยาโดยกลืนพร้อมน้ำ
  • รับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวันเป็นประจำ
  • ไม่ควรใช้ยาลดกรดในช่วง 2 ชั่วโมงของการได้รับยา

ขนาดยา

ขนาดยาของยาอีแนลาพริล (enalapril) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ขึ้นกับสภาวะโรคของท่าน**ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรอย่างเคร่งครัด**

เมื่อลืมใช้ยา

ให้รับประทานทันทีทีนึกได้ ถ้าใกล้เวลาของมื้อต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานมื้อถัดไปโดยใช้ตามขนาดที่แพทย์สั่ง ห้ามรับประทานยาเพิ่มเป็น 2 เท่า

การเก็บรักษา

  • เก็บยาในภาชนะปิดสนิท อย่าให้โดนแสงโดยตรง
  • เก็บยาที่อุณหภูมิห้องไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส อย่าเก็บในที่ร้อน
  • เก็บยาในที่แห้ง อย่าเก็บในที่ชื้น เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว
  • เก็บยาทุกชนิดให้พ้นสายตาและมือเด็ก หรือสัตว์เลี้ยง
  • เก็บยาในภาชนะบรรจุเดิมที่ได้รับมา
  • หากมียาเหลือหลังจากแพทย์สั่งให้หยุดใช้ ควรส่งคืนยาแก่เภสัชกร
  • ไม่ใช้ยานี้หลังจากวันหมดอายุ ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรในการทิ้งยานี้

ข้อควรระวัง

  • ถ้าท่านต้องผ่าตัด ได้รับยาชาหรือยาสลบต้องแจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ทราบว่าท่านกำลังใช้ยานี้อยู่
  • ยาอาจทำให้รู้สึกวิงเวียนหรือเวียนศีรษะ ไม่ควรขับขี่ยวดยานหรือทำงานกับเครื่องจักรที่อันตราย และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • ไม่ควรหยุดยาเอง โดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน แม้ว่าจะรู้สึกสบายดีก็ตาม เพราะความดันเลือดสูงมักไม่มีอาการแสดงใด ๆ และจะมีผลต่อการทำงานของหัวใจและไต
  • อาจมีอาการความดันเลือดตกขณะเคลื่อนไหวเร็ว ๆ ไม่ควรลุกขึ้นยืนหรือลุกนั่งจากท่านอนเร็วเกินไปโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการวิงเวียนหรือหมดสติ
  • ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรหากมีอาการท้องร่วง คลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง หรือเหงื่อออกมาก เนื่องจากการสูญเสียน้ำจากร่างกายมากจะเป็นอันตรายขณะใช้ยานี้ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันการขาดน้ำ
  • ยานี้จะมีผลทำให้ผิวหนังไวต่อแสงมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดนาน ๆ ให้ใช้ครีมกันแดดและสวมเสื้อผ้าที่มิดชิดเมื่อออกนอกบ้าน
  • ระมัดระวังการออกกำลังกายในสภาพแวดล้อมที่ร้อนเกินไป ซึ่งอาจทำให้เสียเหงื่อมาก ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการออกกำลังกายที่เหมาะสม

อาการไม่พึงประสงค์

ยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์บางอย่างที่ไม่ต้องการ ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับผู้ใช้ยาทุกราย แต่หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม

ก.อาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง ต้องหยุดยาแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที อาการที่พบ เช่น

  • อาการแพ้ยา
  • เวียนศีรษะรุนแรงคล้ายจะหมดสติ, หมดสติ, โรคลมจากหลอดเลือดสมอง (stroke), ความคิดสับสน, หย่อนสมรรถภาพทางเพศ, ซึมเศร้า, รู้สึกสัมผัสเพี้ยน (paresthesia), ประสาทหลอน, โรคจิต
  • เจ็บอก, ปวดเค้นหัวใจ (angina pectoris), หัวใจเต้นเร็วและแรง, หายใจลำบาก, หัวใจล้ม (heart attack), หลอดลมหดเกร็ง (bronchospasm), ใจสั่น, กล้ามเนื้อหัวใจตายเหตุขาดเลือด (myocardial infarction), ปอดอักเสบแทรกซึมด้วยเม็ดเลือดขาวอีโอซิโนฟิล (eosinophilic pneumonitis), ปอดบวมน้ำ (pulmonary edema), หัวใจหยุด (cardiac arrest)
  • ปวดท้องรุนแรง, ตับอักเสบ, ตับวาย, การหลังของน้ำดีลดลงหรือหยุด, ดีซ่าน, ระดับเอนไซม์ตับสูงขึ้น, ตับอ่อนอักเสบ, ลำไส้อืด (ileus), บวมน้ำ, ตัวเหลืองตาเหลือง, คลื่นไส้อาเจียนรุนแรง
  • มีอาการที่อาจบ่งชี้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับไต, การทำงานของไตลดลง, ไตวาย, พบโปรตีนในปัสสาวะ, ปัสสาวะลดน้อยลง, ปัสสาวะสีเข้ม, เนื้อเยื่อแทรกในไตอักเสบ (interstitial nephritis)
  • เลือดผิดปกติ, เม็ดเลือดขาวต่ำ, เกล็ดเลือดน้อย, เวลาเลือดออกนานขึ้น, เลือดจาง, ภาวะพร่องเม็ดเลือดทุกชนิด, โรคภูมิต้านตนเอง
  • ขาหรือข้อเท้าบวม
  • อาการแสดงของภาวะที่เลือดมีโพแทสเซียมมากเกิน เช่น ความคิดสับสน, ใจเต้นไม่สม่ำเสมอ, รู้สึกชาหรือเป็นเหน็บตามมือ เท้า ริมฝีปาก, หายใจลำบาก, แขนขาหนัก, อ่อนแรง, ปวดเกร็งในท้อง (abdominal cramp), ตะคริวกล้ามเนื้อ
  • เป็นพิษต่อหู

ข. อาการไม่พึงประสงค์ที่ไม่รุนแรง หากเกิดขึ้นอาจไม่จำเป็นต้องหยุดยา แต่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ เช่น ตาพร่า, เวียนศีรษะ, ไอแห้ง, คลื่นไส้, อาเจียน, อ่อนแรง, ล้า, ปวดศีรษะ, ง่วงซึม, นอนไม่หลับ, ท้องร่วง, ท้องผูก, ปวดท้อง, รับรู้รสบกพร่อง, เหนื่อย, วิตกกังวล, รู้สึกสั่น, การหลับผิดปกติ ตื่นเต้นอย่างไม่เหมาะสม, รู้สึกหมุน, น้ำมูกไหล, คัดจมูก, เจ็บคอ, ท้องอืด, อาหารไม่ย่อย, เบื่ออาหาร, ระคายเคืองในทางเดินอาหาร, ปากแห้ง, แผลเปื่อยเพปติก (peptic ulcer), หลั่งเหงื่อมาก, ผมร่วง, อาการหน้าแดง, มีเสียงในหู, ไข้, รู้สึกไม่สบาย, ฟกช้ำ, ผิวหนังเป็นปื้นแดงหรือน้ำเงิน, ความฝันผิดปรกติ, ผิวซีด, ปากและลิ้นอักเสบหรือเป็นแผล, เต้านมโต, ปวดข้อหรือกล้ามเนื้อ, ผิวหนังไวต่อแสง, เลือดมีโพแทสเซียมมากเกิน, เลือดมีโซเดียมต่ำ, ภาวะน้ำตาลต่ำในเลือด,ความดันเลือดตกขณะเปลี่ยนท่า, เสียงแหบ, ประสาทเปลี้ย (neurathenia), ปัสสาวะบ่อยและมากกว่าปกติ, อิดโรย, เดินเซ, การสลายของเม็ดเลือดแดงในผู้ป่วยพร่องเอนไซม์กลูโคส-6-เฟสเฟตดีไฮดดรจีเนส (glucose-6-phosphate dehydrogenase) หรือเรียกย่อว่า ภาวะพร้องจีซิกส์พีดี (G6PD)
แต่ถ้ามีอาการรุนแรงหรือทนไม่ได้หรือเกิดต่อเนื่อง ให้ไปพบแพทย์ทันที

ค. หากเกิดอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่อาจจะเกี่ยวกับยานี้ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกร

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ความดันเลือดสูงเกิดจากการที่หลอดเลือดตีบขึ้น ส่งผลให้เลือดไหลผ่านได้ยากขึ้น ซึ่งปกติเราจะไม่ทราบถึงค่าความดันเลือดที่สูงดังนั้นจำเป็นที่จะต้องตรวจเป็นประจำ การปล่อยให้มีความดันเลือดที่สูงโดยไม่ได้รับการรักษาสามารถทำให้เกิดการทำลายอวัยวะที่สำคัญ เช่น หัวใจหรือไตได้ และนำไปสู่การเกิดโรคหลอดเลือดสมอง, อาการหัวใจล้ม (heart attack), ภาวะหัวใจล้มเหลว (heart failure), ภาวะไตวาย, ตาบอด โดยการใช้ยาสามารถควบคุมความดันเลือดสูงได้ซึ่งต้องอาศัยแพทย์แนะนำ
  • ควรไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อติดตามผลการรักษา แพทย์จะแนะนำให้ตรวจวัดระดับความดันเลือดเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการได้รับยาหรือช่วงที่มีการเปลี่ยนขนาดยา และในผู้ป่วยบางรายอาจจำเป็นต้องตรวจบางอย่างเพิ่มเช่น ระดับโพแทสเซียม, ครีแอทินิน (creatinine) เพื่อดูการทำงานของไต หรือ เอนไซม์ตับเพื่อดูการทำงานของตับ
  • ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับค่าความดันเลือดที่เหมาะสมสำหรับท่านและเมื่อใดที่จะต้องมาพบแพทย์ ถ้าท่านมีเครื่องวัดระดับความดันเลือดด้วยตนเองที่บ้าน ท่านควรบันทึกค่าความดันเลือดที่วัดได้เอง และนำค่าที่บันทึกไว้มาให้แพทย์ดู
  • ควรเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่มีผลช่วยลดความดันเลือด เช่น ลดความเครียด, ออกกำลังกาย, ลดการรับประทานอาหารที่มีเกลือมาก, ลดน้ำหนัก

กลุ่มยา

ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้

ยาที่เกี่ยวข้อง

ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้

Captopril, Perindopril, Quinapril, Ramipril

ชื่อทางการค้า

ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้

Anapril tablets, Enace tablets, Enapril tablets, Enaril tablets, Envas tablets, Invoril tablets, Korandil tablets, Lapril tablets, Myopril tablets, Naritec tablets, Nalopril tablets, Renitec tablets, Unaril tablets

ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว

ชื่อภาษาไทยอื่นที่อาจมีการใช้

ยานี้มีชื่อภาษาไทยอื่นที่มีการใช้ดังต่อไปนี้

อีนาลาพริล, อินาลาพริน

ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อภาษาไทยอื่นที่อาจมีการใช้ ซึ่งไม่ได้แสดงในนี้

แหล่งอ้างอิง

  1. CPM medica. MIMS Thailand Online. Available at http://www.mims.com. Access Date: 1 May, 2010.
  2. DRUGDEX® System:Klasco RK (Ed): DRUGDEX® System (electronic version). Thomson Micromedex, Greenwood Village, Colorado, USA. Available at: http://www.thomsonhc.com. Access Date: 15 March, 2010.
  3. Lacy CF, Armstrong LL, Goldman MP, Lance LL. Drug Information Handbook with international trade names index. 18th ed. Ohio: Lexi Comp In; 2009.
  4. MedlinePlus Trusted Health Information for You. Enalapril. Available at http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/drug_Aa.html. Access Date: March 17, 2005.

panupong puttarak
โพยม วงศ์ภูวรักษ์
10 ธันวาคม 2552 20 ธันวาคม 2553
เพื่อนแนะนำ : เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย, เราชนะรอบ 4, ยืมเงิน 3000 ด่วน, แอพผ่อนของ, กู้เงิน, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อไม่เช็ค บูโรถูกกฎหมาย