อ่าน: 516
Small_font Large_font

Diphenoxylate and Atropine (ยาสูตรผสมระหว่างไดฟีนอกซิเลต และแอโทรพีน)

คำอธิบายพอสังเขป

ยาสูตรผสมระหว่างไดฟีนอกซิเลตและแอโทรพีน (diphenoxylate and atropine) ใช้สำหรับรักษาอาการท้องร่วงในผู้ใหญ่ ไดฟีนอกซิเลต (diphenoxylate) ช่วยหยุดอาการท้องร่วงโดยทำให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ให้ช้าลง

เนื่องจากไดฟีนอกซิเลต (diphenoxylate) มีโครงสร้างเคมีคล้ายคลึงกับยาเสพติดกลุ่มนาร์โคติก หากรับประทานยาในขนาดสูงกว่าที่ระบุอาจทำให้เกิดการติดยา เพื่อป้องกันการใช้ยาในทางที่ผิดที่อาจเกิดขึ้นจึงมีการเติมแอโทรพีน (atropine) (เป็นยาต้านโคลิเนอร์จิค) หากรับประทานยาขนาดสูงกว่าขนาดปกติอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากแอโทรพีน (atropine) ทำให้ไม่อยากใช้ยาในครั้งต่อไป

ไม่ควรใช้ยาสูตรผสมระหว่างไดฟีนอกซิเลตและแอโทรพีน (diphenoxylate and atropine) ในเด็ก เด็กที่มีอาการท้องร่วงควรได้รับสารละลายของคาร์โบไฮเดรต (น้ำตาล) และเกลือแร่ที่สำคัญต่าง ๆ เพื่อทดแทนน้ำ น้ำตาลและเกลือแร่ที่สำคัญที่ได้สูญเสียจากร่างกายในขณะท้องร่วง

ก่อนการใช้ยา

การแพ้ยา

โปรดแจ้งแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆ หรือมีประวัติการแพ้ยาไดฟีนอกซิเลต (diphenoxylate) หรือแอโทรพีน (atropine) หรือ ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่นๆ เช่น อาหาร สารกันเสียหรือสี เป็นต้น

ตั้งครรภ์

ABCDX

รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'C' สำหรับสตรีมีครรภ์

จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาที่ควบคุมอย่างดีในมนุษย์ หรือ ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์และสัตว์ถึงผลของยาต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรใช้ยานี้เมื่อมีการประเมินแล้วว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์

ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ เว้นแต่แพทย์พิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องใช้เพราะยังไม่มีการศึกษาในมนุษย์ จากการศึกษาในสัตว์ทดลองโดยให้ยานี้ในขนาดที่สูงกว่าขนาดปกติที่ใช้ในมนุษย์พบว่าไม่ทำให้เกิดทารกวิรูป อย่างไรก็ตามการศึกษาในหนูหลายการศึกษาแสดงให้เห็นว่ายานี้ทำให้น้ำหนักของหนูลดลงและลดโอกาสของการตั้งครรภ์หรือเกิดการตั้งครรภ์เมื่อให้ยานี้ในขนาดที่สูงกว่าขนาดปกติที่ใช้ในมนุษย์หลายเท่า

กำลังให้นมบุตร

ถึงแม้ว่าทั้งไดฟีนอกซิเลต (diphenoxylate) และแอโทรพีน (atropine) สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมได้ แต่ยังไม่มีรายงานว่ายานี้ทำให้เกิดปัญหาในเด็กที่ได้รับนมมารดา

เด็ก

ไม่ควรใช้ยานี้ในเด็กโดยเฉพาะเด็กเล็กมาก ๆ จะไวต่อฤทธิ์ของไดฟีนอกซิเลต (diphenoxylate) และแอโทรพีน (atropine) มาก ยานี้อาจทำให้มีโอกาสเกิดอาการข้างเคียงระหว่างการรักษาเพิ่มขึ้น เช่น ปากแห้ง ข้อแห้ง และทำให้อาการการสูญเสียน้ำจากอาการท้องร่วงรุนแรงขึ้น จึงจำเป็นต้องได้รับสารน้ำทดแทนของเหลวที่ร่างกายสูญเสีย หากท่านมีข้อสงสัยใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ผู้สูงอายุ

อาจทำให้หายใจสั้นหรือหายใจลำบากโดยเฉพาะผู้ป่วยสูงอายุซึ่งมักไวต่อฤทธิ์ของไดฟีนอกซิเลต (diphenoxylate) มากกว่าวัยอื่น ยานี้ทำให้มีอากรปากแห้ง คอแห้งและอาจทำให้อาการการสูญเสียน้ำจากอาการท้องร่วงรุนแรงขึ้น ผู้สูงอายุจึงไม่ควรรับประทานยานี้โดยไม่ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร และจำเป็นต้องได้รับสารน้ำทดแทนของเหลวที่ร่างกายสูญเสีย หากท่านมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ยาอื่นที่ใช้อยู่

ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่มีจำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น เมื่อท่านต้องการจะรับประทานยาสูตรผสมระหว่างไดฟีนอกซิเลตและแอโทรพีน (diphenoxylate and atropine) ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้อยู่

  • ยาปฏิชีวนะ เช่น ยากลุ่มเซฟาโลสปอริน (cephalosporins), คลินดาไมซิน (clindamycin), อีริโทรไมซิน (erythromycins), เททราไซคลีน (tetracyclines) ยาปฏิชีวนะเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง ไดฟีนอกซิเลต (diphenoxylate) และแอโทรพีน (atropine) อาจทำให้อาการท้องร่วงที่เกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะแย่ลงหรือเป็นนานขึ้น
  • ยาที่มีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง (ยาประเภทนี้ส่วนใหญ่มีฤทธิ์ทำให้ง่วง) อาจทำให้ฤทธิ์ของยากดระบบประสาทส่วนกลางหรือไดฟีนอกซิเลต (diphenoxylate) และแอโทรพีน (atropine) เช่น ง่วงซึม เพิ่มขึ้น
  • ยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งฤทธิ์ของเอนไซม์โมโนเอมีน อ็อกซิเดส [(monoamine oxidase (MAO) inhibitor activity)] เช่น ฟีเนลซีน (phenelzine), โปรคาร์บาซีน (procarbazine), ซีเลจิลีน (selegiline), ทรานิลซัยโปรมีน (tranylcypromine) เป็นต้น หากท่านกำลังรับประทานยาเหล่านี้หรือเคยรับประทานยาเหล่านี้ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อาจทำให้อาการข้างเคียงของยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งฤทธิ์ของเอนไซม์โมโนเอมีนอ็อกซิเดส รุนแรงยิ่งขึ้น ห้ามใช้ยา 2 กลุ่มนี้ร่วมกัน
  • ยาต้านตัวรับโอปิออยด์ (นาร์โคติก) (opioide narcotic) antagonists) เช่น นาลเทรกโซน (naltrexone) อาจเกิดอาการถอนยาในผู้ป่วยที่เสพติดไดฟีนอกซิเลต (diphenoxylate) ในยาสูตรผสมนี้ นาลเทรกโซน (naltrexone) จะทำให้ประสิทธิภาพฤทธิ์ในการรักษาอาการท้องร่วงของยานี้ลดลง
  • ยาต้านโคลิเนอร์จิก (anticholinergics) อื่น ๆ (ยาที่ช่วยลดการหลั่งกรดและลดการหดเกร็งตัวของช่องท้อง) การใช้ยาต้านโคลิเนอร์จิก (anticholinergics) ร่วมกับยาสูตรผสมนี้อาจทำให้ฤทธิ์ของแอโทรพีน (atropine) ในสูตรยาผสมนี้เพิ่มขึ้น แต่ไม่เกิดขึ้นเมื่อใช้ยาสูตรผสมระหว่างไดฟีนอกซิเลตและแอโทรพีน (diphenoxylate and atropine) ขนาดปกติ

ภาวะโรคร่วม

ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ยาสูตรผสมระหว่างไดฟีนอกซิเลตและแอโทรพีน (diphenoxylate and atropine) ท่านควรแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านมีสภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น

  • ติดแอลกอฮอล์
  • มีประวัติการใช้ยาในทางที่ผิด อาจทำให้โอกาสในการเกิดเสพติดยานี้เพิ่มขึ้น
  • สำไส้อักเสบ (colitis) รุนแรง ปัญหาของลำไส้ใหญ่อาจรุนแรงขึ้นหากท่านใช้ยานี้
  • Down’s syndrome อาจเกิดอาการข้างเคียงและรุนแรงในผู้ป่วยเหล่านี้
  • โรคบิด อาการนี้อาจแย่ลง ควรใช้การรักษาอื่น
  • โรคถุงลมโป่งพอง, โรคหอบหืด, โรคหลอดลมอักเสบหรือโรคปอดเรื้อรัง ยานี้อาจทำให้โอกาสการเกิดปัญหาเกี่ยวกับการหายใจเพิ่มขึ้นในผู้ป่วยที่มีภาวะเหล่านี้
  • ต่อมลูกหมากโต
  • ทางเดินปัสสาวะอุดกั้นหรือปัสสาวะลำบาก ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะอาจรุนแรงขึ้นเมื่อใช้ยานี้
  • โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดีหรือนิ่วในถุงน้ำดี การใช้ยานี้อาจทำให้ทางเดินน้ำดีหดเกร็งและอาจทำให้ภาวะนี้รุนแรงขึ้น
  • ต้อหิน อาจทำให้ปวดตารุนแรงเมื่อใช้ยานี้ อย่างไรก็ตามมีโอกาสเกิดได้น้อย
  • โรคหัวใจ ยานี้อาจทำให้เกิดผลบางอย่างต่อหัวใจซึ่งอาจทำให้ภาวะนี้แย่ลง
  • ไส้เลื่อน แอโทรพีน (atropine) ในยานี้อาจทำให้ภาวะนี้แย่ลง อย่างไรก็ตามมีโอกาสเกิดได้น้อย
  • ความดันโลหิตสูง แอโทรพีน (atropine) ในยานี้อาจทำให้ความดันโลหิตสูงข้น อย่างไรก็ตามมีโอกาสเกิดได้น้อย
  • ลำไส้อุดตัน ยานี้อาจทำให้ภาวะนี้แย่ลง
  • โรคไต แอโทรพีน (atropine) ในยานี้อาจสะสมในร่างกายและทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์
  • โรคตับ อาการไม่พึงประสงค์ทางระบบประสาทส่วนกลางและอาจทำให้ภาวะไม่รู้สึกตัวเพิ่มขึ้นในผู้ป่วยที่มีภาวะนี้
  • โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดรุนแรง (myasthenia gravis) ยานี้อาจทำให้ภาวนี้แย่ลง
  • ไทรอยด์ทำงานน้อยหรือมากกว่าปกติ อาจเกิดผลที่ไม่ต้องการเกี่ยวกับการหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจ
  • กลั้นปัสสาวะไม่ได้ (overflow incontinence) ยานี้อาจทำให้ภาวะนี้แย่ลง

การใช้ที่ถูกต้อง

หากยานี้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร อาจรับประทานยานี้พร้อมอาหาร

รับประทานยานี้ตามแพทย์สั่งหรือคำแนะนำของเภสัชกรเท่านั้น ห้ามรับประทานยานี้มากเกินไป บ่อยเกินไปหรือนานเกินกว่าที่แพทยสั่ง หากรับประทานยานี้มากเกินไปอาจทำให้ติดยา

ความสำคัญของอาหาร, เครื่องดื่มที่รับประทานระหว่างรักษาอาการท้องร่วง

นอกจากการใช้ยาในการรักษาอาการท้องร่วงแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การทดแทนน้ำที่สูญเสียไปและการรับประทานอาหารที่เหมาะสม

  • ใน 24 ชั่วโมงแรก ท่านควรรับประทานอาหารอ่อน ๆ และดื่มเครื่องดื่มที่ปราศจากคาเฟอีน เช่น น้ำขิง, น้ำซุป เป็นต้น
  • 24 ชั่วโมงต่อมาควรรับประทานอาหารนิ่มๆ เช่น โจ๊ก เป็นต้น
  • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่ ผัก ผลไม้ อาหารทอด ลูกอม เครื่องดื่มหรืออาหารที่มีคาเฟอีน รำข้าวและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เป็นต้น เนื่องจากอาหารเหล่านี้ทำให้อาการยิ่งแย่ลง

หากท่านสูญเสียน้ำจากอาการท้องร่วงมากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ (dehydration) ควรพบแพทย์ทันทีหากท่านมีอาการเหล่านี้ซึ่งเป็นอาการแสดงของภาวะขาดน้ำ (dehydration)

  • ปัสสาวะน้อยลง
  • วิงเวียนศีรษะ
  • ปากแห้ง
  • กระหายน้ำมากขึ้น
  • ผิวหนังแห้งเหี่ยว

ขนาดยา

ขนาดยายาสูตรผสมระหว่างไดฟีนอกซิเลตและแอโทรพีน (diphenoxylate and atropine) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ หรือ เภสัชกร หรือ ตามที่ระบุไว้บนฉลากยา

เมื่อลืมใช้ยา

หากท่านลืมรับประทานยาให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้ ถ้าใกล้ถึงมื้อต่อไปให้ข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานยาต่อในมื้อถัดไปในขนาดยาปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า

การเก็บรักษา

  • เก็บให้พ้นมือเด็ก
  • เก็บให้ห่างจากความร้อนและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
  • ห้ามเก็บยาไว้ในห้องน้ำ ใกล้อ่างล้างมือหรือที่ชื้น เนื่องจากความร้อนหรือความชื้นอาจเป็นสาเหตุให้ยาเสื่อมคุณภาพ
  • ห้ามเก็บยารูปแบบของเหลวในช่องแช่แข็ง
  • ทิ้งยาเมื่อยาหมดอายุ

ข้อควรระวัง

ท่านควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลการรักษาหากท่านต้องการรับประทานยานี้ติดต่อกันนาน

ควรไปพบแพทย์หากยังคงมีอาการท้องร่วงหลังจากรับประทานยาแล้ว 2 วันหรือมีไข้เกิดขึ้น

ยานี้จะเสริมฤทธิ์ของแอลกอฮอล์และยากดระบบประสาทส่วนกลางตัวอื่นๆ (ยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม) ตัวอย่างของยากดระบบประสาทส่วนกลาง ได้แก่ ยาแก้แพ้ หรือยาต้านฮิสตามินหรือยาสำหรับไข้ละอองฟาง อาการแพ้อื่นๆ หรือไข้หวัด, ยากล่อมประสาทหรือยานอนหลับ, ยาบรรเทาปวดกลุ่มนาร์โคติก เช่น มอร์ฟีน (morphine), โคเดอีน (codeine), ยานอนหลับบาบิทูเรต (barbiturates), ยากันชัก, ยาคลายกล้ามเนื้อหรือยาสลบรวมถึงยาสลบที่ใช้ทางทันตกรรม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานยาดังกล่าวขณะท่านกำลังรับประทานยานี้

หากท่านคิดว่าท่านหรือบุคคลอื่นอาจได้รับยานี้เกินขนาด ควรได้รับการช่วยเหลือโดยด่วน การรับประทานยานี้เกินขนาดอาจทำให้หมดสติและอาจถึงแก่ชีวิต สัญญาณและอาการแสดงของการได้รับยาเกินขนาด เช่น ง่วงซึมรุนแรง หายใจสั้นหรือหายใจลำบาก ชีพจรเต้นเร็ว ตัวอุ่นผิดปกติ ผิวแห้งและแดง

ก่อนได้รับการผ่าตัดใดๆ (รวมถึงการผ่าตัดทางทันตกรรม) หรือการรักษาฉุกเฉิน โปรดแจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์หากท่านกำลังรับประทานยานี้

ยานี้อาจทำให้ผู้ป่วยบางรายง่วงซึม เวียนศีรษะหรือมึนงง หากท่านมีอาการมึนงงหรือรู้สึกไม่ตื่นตัว ท่านไม่ควรขับขี่ยานพาหนะ ใช้เครื่องจักรหรือทำกิจกรรมที่เสี่ยงอันตราย

อาการไม่พึงประสงค์

ยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์บางอย่างที่ไม่ต้องการ ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับผู้ใช้ยาทุกราย แต่หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม

ก. ควรพบแพทย์ทันที หากมีอาการไม่พึงประสงค์ต่อไปนี้เกิดขึ้น เมื่อรับประทานยานี้ในขนาดต่ำในช่วงสั้นๆ อาการไม่พึงประสงค์จะเกิดได้น้อยมาก อาการไม่พึงประสงค์ต่อไปนี้มีความรุนแรงเกิดขึ้นทันทีทันใด แต่อาการเหล่านี้อาจมีอาการที่บ่งบอกถึงความรุนแรงและอันตรายต่อทางเดินอาหารของท่าน

  • ท้องอืด, ท้องผูก, เบื่ออาหาร, ปวดท้อง (รุนแรง) ร่วมกับอาการคลื่นไส้และอาเจียน

ข. ควรพบแพทย์หากมีอาการไม่พึงประสงค์ต่อไปนี้เกิดขึ้น เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของการได้รับยานี้เกินขนาด

  • มองภาพไม่ชัด (เป็นติดต่อกันนาน) หรือการมองภาพใกล้เปลี่ยนแปลง, ง่วงซึม (รุนแรง), ปากแห้ง จมูกแห้ง และคอแห้ง (รุนแรง), ชีพจรเต้นเร็ว, หายใจสั้นหรือหายใจลำบาก (รุนแรง), ตื่นเต้นผิดปกติ, กระสับกระส่าย, กระวนกระวายหรือหงุดหงิดง่าย, ตัวอุ่นผิดปกติ ผิวแห้งและแดง

ค. อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาเนื่องจากร่างกายจะปรับตัวเข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนานหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน

พบน้อยหรือน้อยมาก

  • มองภาพไม่ชัด, สับสน, ปัสสาวะลำบาก, มึนงงหรือหรือวิงเวียนศีรษะ, ง่วงซุม, ผิวแห้งและปากแห้ง, มีไข้, ปวดศีรษะ, อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น, ซึมเศร้า, แขนหรือขาไร้ความรู้สึก, มีผื่นคันที่ผิวหนัง, เหงือกบวม

ง. หลังจากหยุดใช้ยานี้ร่างกายอาจจำเป็นต้องใช้เวลาในการปรับตัว ระยะเวลาขึ้นกับปริมาณยาและระยะเวลาที่รับประทานยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรหากท่านมีอาการไม่พึงประสงค์ต่อไปนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว

พบน้อยมาก

  • เหงื่อออกมากขึ้น, กล้ามเนื้อเป็นตะคริว, คลื่นไส้หรืออาเจียน, สั่น, ปวดเกร็งกระเพาะอาหาร

๕*จ. อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย** หากท่านสังเกตเห็นอาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

กลุ่มยา

ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้

ยาที่เกี่ยวข้อง

ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้

Bismuth subsalicylate, Kaolin and Pectin, Loperamide

ชื่อทางการค้า

ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้

Lomotil (โลโมติล)

ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว

ชื่อภาษาไทยอื่นที่อาจมีการใช้

ยานี้มีชื่อภาษาไทยอื่นที่มีการใช้ดังต่อไปนี้

ยาสูตรผสมระหว่างไดฟีนอกซิเลต และอะโทรพีน

ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อภาษาไทยอื่นที่อาจมีการใช้ ซึ่งไม่ได้แสดงในนี้

แหล่งอ้างอิง

  1. Micromedex Thomson Healthcare. Advice for the Patient Drug Information in Lay Language USP DI, volume ll. 25th ed. Massachusetts: Micromedex Thomson Healthcare, 2005: 636-9.
  2. Klasco RK (Ed): DRUGDEX® System (electronic version). Thomson Micromedex, Greenwood Village, Colorado, USA. Available at: http://www.thomsonhc.com (cited: Oct 13, 2009).
  3. Joint Formulary Committee. British National Formulary. 57th ed. London: British Medical Association and Royal Pharmaceutical Society of Great Britain, 2009: 41, 51, 234.
  4. Sunthornraj N, Fun LF, Evangelista LF, Labandilo LD, Romano MB, Afable JO, et al. MIMs Thailand. 106th ed. Bangkok: MediMedia (Thailand); 2007.

นรวร เจนณรงค์
โพยม วงศ์ภูวรักษ์
13 ตุลาคม 2552 12 ตุลาคม 2553
เพื่อนแนะนำ : เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย, เราชนะรอบ 4, ยืมเงิน 3000 ด่วน, แอพผ่อนของ, กู้เงิน, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อไม่เช็ค บูโรถูกกฎหมาย