นิ่วในไต (Kidney stones หรือ Nephrolithiasis) คือ การที่แร่ธาตุและกรดเกลือในปัสสาวะ มาสะสมรวมกันอยู่ในรูปของของแข็ง และอยู่ในไต ถ้าก้อนนิ่วที่เกิดขึ้นมีขนาดเล็กมาก จะสามารถหลุดออกมานอกร่างกายได้เอง ผ่านทางน้ำปัสสาวะ คือ ผ่านจากไต ลงมาที่ท่อไต ต่อเนื่องลงมาจนถึงกระเพาะปัสสาวะ และผ่านทางท่อปัสสาวะออกมาด้านนอก แต่ถ้าก้อนนิ่วนั้นมีขนาดใหญ่มาก จะไปอุดกั้นอยู่ในท่อไต ไม่สามารถผ่านออกมาได้ จึงทำให้เกิดอาการของโรคนิ่วขึ้น
นิ่วในไต แบ่งได้หลายชนิด ตามส่วนประกอบหลักของก้อนนิ่ว ประกอบด้วย
อาการของโรคนิ่วในไต เกิดจากก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่กว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อไต (ใหญ่กว่า 2-3 มิลลิเมตร) ทำให้ก้อนนิ่วเคลื่อนที่เข้าไปอุดอยู่ในท่อไต
อาการและอาการแสดงของโรคนิ่วในไต ประกอบด้วย
นิ่วในไตไม่มีสาเหตุที่แน่นอน แต่เชื่อว่าเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกันที่ทำให้มีความไม่สมดุลของน้ำและสารต่างๆ ในน้ำปัสสาวะ (ความเป็นกรดด่างและแร่ธาตุต่างๆ) ทำให้เกิดการตกตะกอนเป็นนิ่วขึ้น
การซักประวัติ : ผู้ป่วยจะมาพบแพทย์ด้วยอาการดังที่กล่าวมาแล้ว
การตรวจร่างกาย : ผู้ป่วยจะมีอาการปวดและเคาะเจ็บที่บริเวณสีข้าง
การตรวจเพิ่มเติมทางห้องปฏิบัติการ : ประกอบด้วย
1. การตรวจปัสสาวะ (Urinalysis) : จะพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะปริมาณมาก
2. การตรวจทางรังสีวินิจฉัย :
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดตามหลังภาวะนิ่วในไต คือ
การรักษาโรคนิ่วในไต ขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนนิ่ว คือ
1. การรักษานิ่วในไตในกรณีที่มีก้อนนิ่วมีขนาดเล็กและผู้ป่วยมีอาการแค่เล็กน้อย : นิ่วสามารถหลุดออกมากับปัสสาวะได้เอง การรักษาทำได้โดย
2. การรักษานิ่วที่มีขนาดใหญ่หรือผู้ป่วยมีอาการมาก : สามารถทำได้โดย
2.1 ใช้คลื่นเสียงเพื่อที่จะทำให้นิ่วแตกออกมา (Extracorporeal Shock Wave Lithotripsy, ESWL) : ทำได้โดยการใช้อัลตราซาวน์หรือเอ็กซเรย์หาตำแหน่งนิ่ว แล้วใช้คลื่นเสียงยิงสลายนิ่ว จากนั้นเศษนิ่วจะหลุดออกมากับปัสสาวะ
ข้อดีของวิธีนี้ คือ เจ็บตัวน้อยและไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
ข้อเสียของวิธีนี้ คือ ไม่สามารถรับรองผลการรักษาได้ เพราะนิ่วอาจหลุดไม่หมด ทำให้ต้องมายิงนิ่วซ้ำอีกหลายครั้ง
2.2 ใช้วิธีการส่องกล้องเพื่อนำนิ่วออก: ทำโดยการส่องกล้องเข้าไปในไตและใช้เครื่องมือทำให้นิ่วแตก จากนั้นก็คีบเศษนิ่วที่แตกออกมาทางเครื่องมือในกล้อง วิธีนี้สามารถทำได้ทั้งการส่องกล้องผ่านผิวหนัง (Percutaneous nephrolithotomy, PCN) และการส่องกล้องย้อนขึ้นมาจากทางท่อปัสสาวะ (Ureterorenoscopy)
ข้อดีของวิธีนี้ คือ เป็นหัตถการที่ไม่ค่อยดูรุนแรงต่อผู้ป่วย (minimal invasive) และอยู่โรงพยาบาลสั้นกว่าการผ่าตัด
ข้อเสียของวิธีนี้ คือ ต้องการแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะ, ต้องการเครื่องมือที่พิเศษ และใช้เวลาทำนานกว่าการผ่าตัด
2.3 การผ่าตัดเพื่อนำนิ่วออกจากไต (Nephrolithotomy) : ใช้ในกรณีที่นิ่วมีขนาดใหญ่และมีกิ่งก้านหลายกิ่ง (staghorn) ทำให้ไม่สามารถเอานิ่วออกได้ด้วยวิธีอื่น
2.4 การผ่าตัดเอาไตออก (Nephrectomy) : ใช้เป็นทางเลือกสุดท้าย จะพิจารณาทำในกรณีที่เนื้อไตเสียไปมากหรือมีการอักเสบเป็นหนองเนื้อไต จนไม่สามารถเก็บไตไว้ได้
1. อมร ลีลารัศมี, ทัศนีย์ กิตอำนวยพงษ์, อุปถัมภ์ ศุภสิทธิ์ และ ศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล, บรรณาธิการ. อายุรศาสตร์สัญจร เล่ม2. กรุงเทพฯ : บริษัทเท็กซ์ แอนด์ เจอร์นัล พับลิเคชั่น. 2553, 255-278.
2. ชาญวิทย์ ตันติ์พิพัฒน์ และ ธนิต วัชรพุกก์. ตำราศัลยศาสตร์. โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. พิมพ์ครั้งที่ 7. 2546, 412-417.