ค้นหาโรคและความเจ็บป่วย / อาการ

อ่าน: 7643
Small_font Large_font

ถุงน้ำที่ถุงอัณฑะ (Hydrocele)

คำจำกัดความ

โรคถุงน้ำลูกอัณฑะ คือ ภาวะที่มีการสะสมของน้ำอยู่รอบลูกอัณฑะภายในถุงอัณฑะ ทำให้ถุงอัณฑะโป่งพองออกมา พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่แต่สาเหตุต่างกัน ชนิดที่พบในเด็กพบบ่อยในเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี

โรคถุงน้ำลูกอัณฑะเป็นโรคที่ไม่อันตรายและส่วนใหญ่จะหายได้เองโดยไม่ต้องการการรักษา เช่น ในเด็กแรกเกิดพบโรคนี้ได้ถึงร้อยละ 10 แต่ร้อยละ 80-90 ของผู้ป่วยจะหายได้เองเมื่อายุ 12-18 เดือน แต่ผู้ป่วยทุกคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่สังเกตว่ามีอาการถุงอัณฑะโตขึ้นควรจะไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นที่เป็นอันตรายและต้องได้รับการรักษา เช่น โรคลูกอัณฑะบิดขั้วหรือมะเร็งของลูกอัณฑะ เป็นต้น

อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการ

  1. ถุงอัณฑะโป่งพอง 1-2 ข้าง , ไม่เจ็บ, มักจะเคลื่อนที่ได้ดีกว่าโรคไส้เลื่อน, ไม่สามารถดันให้กลับเข้าไปในช่องท้องได้เหมือนโรคไส้เลื่อน
  2. ในเด็กถ้าเป็นชนิดที่น้ำมีช่องทางติดต่อกับในช่องท้อง ก้อนอาจยุบลงได้ในท่านอน
  3. ในผู้ใหญ่ อาจมีอาการแน่นหรือหนักในถุงอัณฑะได้

สาเหตุ

  1. ในเด็ก : เกิดจากช่องทางที่เชื่อมระหว่างถุงอัณฑะกับในช่องท้องไม่ปิดสนิทหลังคลอดเหมือนปกติ ทำให้มีน้ำจากในช่องท้องลงมาอยู่ในถุงอัณฑะได้
  2. ในผู้ใหญ่ : เกิดจากการอักเสบหรือตามหลังการกระทบกระแทกที่บริเวณถุงอัณฑะ ทำให้ถุงอัณฑะสร้างน้ำออกมามากผิดปกติ ส่งผลให้ขาดความสมดุลในการสร้างและดูดซึมน้ำในถุงอัณฑะ จึงเหลือน้ำในถุงอัณฑะมากกว่าปกติ

การวินิจฉัย

การซักประวัติ : ผู้ป่วยจะมาด้วยถุงอัณฑะโป่งพอง 1-2 ข้าง โดยไม่มีอาการเจ็บ
การตรวจร่างกาย :

  • จะพบถุงอัณฑะโตขึ้น , ก้อนที่ถุงอัณฑะมีลักษณะนุ่ม, คลำเหนือก้อนได้ เพราะก้อนไม่ได้ต่อออกมาจากในช่องท้องเหมือนโรคไส้เลื่อน
  • เมื่อส่องไฟที่ก้อน (transillumination test) จะมีการเรืองแสงได้ เป็นลักษณะที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงกับโรคนี้

การตรวจทางห้องปฎิบัติการเพิ่มเติม : ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติม

ภาวะแทรกซ้อน

โดยปกติโรคถุงน้ำลูกอัณฑะเป็นโรคที่ไม่อันตรายและไม่ทำให้มีภาวะแทรกซ้อนอะไรตามมา เช่น ไม่ทำให้เป็นหมันและไม่ทำให้กลายเป็นมะเร็งตามมา แต่ในรายที่โรคถุงน้ำลูกอัณฑะเกิดตามหลังโรคอื่นที่รุนแรง ถ้าไม่รีบรักษาอาจเกิดอันตรายตามมาได้ เช่น

  • เกิดตามหลังการติดเชื้อหรือเนื้องอกที่อวัยวะภายในถุงอัณฑะ
  • เกิดตามหลังการเป็นไส้เลื่อนที่ขาหนีบ

การรักษาและยา

  1. โรคถุงน้ำลูกอัณฑะในเด็ก : ส่วนใหญ่จะหายได้เองในอายุ 1 ปี , ไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บและไม่เป็นอันตราย ดังนั้นจึงมักแนะนำให้รอดูอาการจนกระทั่งถึงอายุ 12-18 เดือน ถ้าเด็กอายุมากกว่า 1 ปีแล้วยังไม่หายขาดหรือก้อนมีขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ จึงค่อยแนะนำให้ผ่าตัดเอาถุงน้ำออก (hydrocelectomy) ร่วมกับการผ่าตัดปิดช่องทางที่ติดต่อกับในช่องท้องด้วยเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรค
  2. โรคถุงน้ำลูกอัณฑะในผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่ก็สามารถหายได้เองเช่นกัน จะทำการรักษาโดยการผ่าตัดเอาถุงน้ำออกก็ต่อเมื่อก้อนมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หรือก้อนมีขนาดโตจนทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการแน่นหรือหนักๆ ที่ถุงอัฯฑะมาก

ส่วนการรักษาด้วยวิธีการเจาะดูดเอาน้ำในถุงอัณฑะออก (aspiration) ไม่แนะนำให้ทำ เพราะจะไม่ได้ผล คือ เป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุคือเอาน้ำออก แต่ไม่ได้แก้ไขเอาช่องทางที่ติดต่อกับในช่องท้องออก ผู้ป่วยจึงมีถุงน้ำเกิดขี้นมาใหม่ทุกราย

แหล่งอ้างอิง

  1. Mayo Clinic staff. Hydrocele. [Online]. 2009 May 16 [cited 2010 May 10];Available from: URL: http://www.mayoclinic.com/health/hydrocele/DS00617
  2. ชาญวิทย์ ตันติ์พิพัฒน์ และ ธนิต วัชรพุกก์. ตำราศัลยศาสตร์. โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. พิมพ์ครั้งที่ 7. 2546; 471.
  3. http://dynamic.psu.ac.th/kidsurgery.psu.ac.th/Pediatric%20surgery/KID/LESSON15.HTM


27 พฤษภาคม 2553 25 กรกฎาคม 2553
เพื่อนแนะนำ : เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย, เราชนะรอบ 4, ยืมเงิน 3000 ด่วน, แอพผ่อนของ, กู้เงิน, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อไม่เช็ค บูโรถูกกฎหมาย