เมื่อเร็วๆ นี้ UPI.com รายงานว่ามีหญิงตั้งครรภ์ร้อยละ 22-34 เท่านั้น ที่ไปพบทันตแพทย์ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วสุขภาพช่องปากมีความสำคัญต่อหญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ในมาก
นักวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่า ในระหว่างการตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในช่องปาก ก่อให้เกิดคราบจุลินทรีย์บนฟันและโรคเหงือกอักเสบในระหว่างตั้งครรภ์ได้ง่าย หากหญิงตั้งครรภ์ดูแลสุขภาพฟันและเหงือกไม่ดี ปัญหาฟันกร่อน หรือฟันผุก็จะตามมา ทำให้หญิงตั้งครรภ์รับประทานอาหารได้น้อยลง เมื่อร่างกายของหญิงตั้งครรภ์ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ทารกในครรภ์ก็ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอเช่นกัน ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับพัฒนาการและการมีชีวิตรอดของทารกในครรภ์ได้
เพราะฉะนั้นสุขภาพภายในช่องปากเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับหญิงมีครรภ์ แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ เพียงแค่หมั่นไปพบทันตแพทย์ เพื่อรับการตรวจรักษา รวมทั้งการแปรงฟันอย่างถูกต้อง นอกจากนี้โฆษกหญิงประจำ Academy of General Dentistry ให้เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ก่อนการแปรงฟันของหญิงตั้งครรภ์ไว้ดังนี้ “หลังจากอาเจียนในตอนเช้าเนื่องจากการแพ้ท้อง หญิงตั้งครรภ์ควรบ้วนปากด้วยสารละลายเบกกิ้งโซดา (ใช้เบกกิ้งโซดาประมาณ 1 ช้อนชา ละลายในน้ำ 1 ถ้วย ) เพื่อขจัดกรดที่ติดค้างบนผิวฟันออกไปก่อน แล้วจึงแปรงฟันตามปกติ”
ด้วยวิธีง่ายๆ เพียงเท่านี้ ก็สามารถช่วยขจัดปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากปัญหาสุขภาพช่องปากให้หมดไปได้
ไม่น่าเชื่อ “ปัญหานิดเดียว ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ยาวเหยียด”