![](../../../images/t/icons/Health-care-shield-48x48.png)
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า ไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังคงมีการระบาดอยู่ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ประชาชนยังต้องป้องกันตัวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเช่น หญิงตั้งครรภ์ คนอ้วนน้ำหนักตัวเกิน 100 กิโลกรัมขึ้นไป ผู้ที่มีโรคประจำตัว เมื่อป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ต้องรีบพบแพทย์ทันที
ในส่วนความคืบหน้าของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่สั่งไป 2 ล้านโดสนั้น ขณะนี้ได้รับตัวอย่างมาแล้ว 10,000 โดส อยู่ระหว่างขึ้นทะเบียนที่อย. ที่เหลือทั้งหมดจะเข้ามาปลายเดือนธันวาคมนี้ 2 แสนโดส และครบทั้งหมดในปลายเดือนมกราคม 2553 ในการฉีดวัคซีนนั้น จะให้กรมควบคุมโรคเป็นผู้กระจายวัคซีนให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ โดยมีคณะกรรมการวิชาการพิจารณากลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับวัคซีนนี้ก่อน มีการตรวจสอบหลักฐานว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงจริงตามที่ได้สำรวจไว้ กำชับไม่ให้เกิดการบริการวัคซีนผิดกลุ่มเป้าหมาย และให้กรมควบคุมโรคติดตามการให้บริการวัคซีนอย่างใกล้ชิด
นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้เตรียมความพร้อมในการกระจายวัคซีนที่จะมา 2 แสนโดสในปลายเดือนนี้ โดยจะให้แก่กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุดก่อนได้แก่หญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์ ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป ผู้มีน้ำหนักตัวเกิน 100 กิโลกรัมขึ้นไป ส่วนกลุ่มเสี่ยงอื่นๆที่เหลือจะให้ถัดไปเมื่อวัคซีนล็อตต่อไป 8 แสนโดส และ 1 ล้านโดส มาถึงในช่วงกลางเดือน และปลายเดือนมกราคม 2553 โดยจะเริ่มให้วัคซีนเข็มแรกแก่กลุ่มเสี่ยง ครั้งแรกในวันที่ 11 มกราคม 2553
ขณะนี้ได้ให้หน่วยงานสาธารณสุขทั่วประเทศและกทม.สำรวจกลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้ รับวัคซีน โดยให้ส่งเป็นรายชื่อ ที่อยู่ให้ชัดเจนในแต่ละพื้นที่ เพื่อป้องกันการให้วัคซีนซ้ำซ้อน และช่วงนี้กรมควบคุมโรคจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีการ เตรียมพร้อมที่จะรับวัคซีนใน 7 เรื่องสำคัญ ได้แก่
1.ทราบว่าตนเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับวัคซีนหรือไม่
2. รู้ข้อห้ามในการรับวัคซีน
3. รู้ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ของวัคซีน
4. การแจ้งชื่อและลงชื่อเพื่อรับวัคซีน
5. การฉีดวัคซีนจะต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจของกลุ่มเสี่ยง
6. สังเกตอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน 30 นาทีที่โรงพยาบาล
7.รู้สถานที่ติดต่อเมื่อมีอาการผิดปกติอื่นๆภายหลังรับวัคซีนแล้ว
สำหรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่จะฉีดครั้งนี้ จะให้บริการฟรีที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ ส่วนโรงพยาบาลเอกชน เข้าร่วมโครงการวัคซีนฟรีในหญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ที่รพ.เอกชน โดยมีค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าบริการฉีดวัคซีนเท่านั้นตามที่โรงพยาบาลเอกชนนั้นๆ กำหนด ส่วนวัคซีนฟรี นายแพทย์มานิตกล่าว
ที่มา กระทรวงสาธารณสุข