อ่าน: 626

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน

นิติธร วรรณกิตติคุณ , อรพรรณ ทองตัน , ศิวพร เดชไพบูลย์ศรี / วิบุล วงศ์ภูวรักษ์
07 สิงหาคม 2552 21 ตุลาคม 2552

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน หรือที่เรียกว่า “morning after pills” ตัวยาที่มีหลักฐานยืนยันประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดฉุกเฉิน คือ ลีโวโนเจสเทรล (levonoegestrel) 750 ไมโครกรัมต่อเม็ด (1 แผงมี 2 เม็ด)


  ข้อบ่งใช้


- มีความผิดพลาดในการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น เช่น ถุงยางอนามัยแตก, รั่ว, เสื่อมสภาพ


- ลืมกินยาคุมกำเนิด (รายละเอียดใน ทำอย่างไรหากลืมกินยาคุม?)


- มีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ได้ยินยอม


- ไม่ได้ป้องกันด้วยวิธีใดๆ ระหว่างมีเพศสัมพันธ์


- รับประทานยาชนิดอื่นร่วมซึ่งมีผลลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด ทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้


 กลไกการออกฤทธิ์


- กรณีที่ท่านใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินในช่วงครึ่งแรกของรอบประจำเดือน จะมีกลไกหลัก คือ ยาจะยับยั้งการตกไข่ หรือรบกวนการเจริญของเซลล์ไข่


- กรณีที่ท่านใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินในช่วงครึ่งหลังของรอบประจำเดือน จะมีกลไกหลัก คือ ยาจะรบกวนการเจริญของกลุ่มเนื้อเยื่อในรังไข่


  วิธีใช้ /หากกินช้าไปจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้เพียงไร


สามารถใช้ได้ 2 วิธี


1. กินเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แล้วกินเม็ดที่สองใน 12 ชั่วโมงต่อมาหลังจากกินเม็ดแรกแล้ว หากได้รับยาเม็ดแรกไม่เกิน 120 ชั่วโมง จะยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ร้อยละ 65-85 และการกินเม็ดที่สองหลังจากเม็ดแรก 12-16 ชั่วโมง ยังอาจมีประโยชน์ แต่หากกินช้าไปมากกว่านี้การป้องกันจะไม่ได้ผล 


2. กินยาทั้งสองเม็ดพร้อมกันภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์


พบว่า การกินยาทั้งสองวิธี มีประสิทธิภาพไม่ต่างกัน และมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อกินภายใน 24 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์โดยมิได้ป้องกัน


หากมีเพศสัมพันธ์ภายหลังจากกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครบแล้วแม้กระทั่งวันเดียวก็ตาม ยาจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้


 ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง


- คลื่นไส้ อาเจียน หากอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงแรกหลังกินยาให้รับประทานซ้ำ สามารถกินยาต้านอาเจียนได้ก่อนครึ่งชั่วโมง หากอาเจียนหลังจากกินยาไปแล้วมากกว่า 2 ชั่วโมง ก็ไม่ต้องรับประทานยาซ้ำ


- รบกวนรอบเดือนในครั้งถัดไป ซึ่งอาจมาช้า (แต่ต้องแน่ใจว่าไม่ได้ท้อง) หรือเร็วกว่าเดิม


- อาจมีเลือดออกใน 7 วัน หลังกินยา


- มึนศีรษะ ปวดศีรษะ


- เจ็บตึงเต้านม


- ปวดท้องน้อย


หากกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเข้าไปโดยที่ไม่ทราบว่าท้องจะมีอันตรายต่อทารกในท้องอย่างไร


ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่ายาทำให้เกิดอันตรายต่อทารก


 ไม่ควรใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินบ่อยแค่ไหน


- ไม่ใช้เกิน 2 ครั้งต่อเดือน


- ไม่ใช้เป็นประจำเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพราะการใช้ยาพร่ำเพรื่อจะเป็นการรบกวนรอบเดือน ทำให้ผิดปกติ แนะนำให้คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น เช่น การใช้ถุงยางอนามัย, การใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิด ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์อยู่แล้ว


  ความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับการใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน


- เชื่อว่ายาคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ได้มีผลต่อทารกในครรภ์


- เชื่อว่ายาคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ได้มีผลทำให้เกิดการแท้ง


- เชื่อว่ายาคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่มีอันตรายต่อผู้ใช้


 คำแนะนำในการใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน


1. ควรรับประทานยาให้เร็วที่สุด หลังมีเพศสัมพันธ์ที่มิได้ป้องกัน


2. ในกรณีที่แบ่งรับประทานยาเป็น 2 ครั้ง ยาเม็ดที่สองต้องรับประทานภายใน 12-16 ชั่วโมง หลังจากรับประทายาเม็ดแรก


3. ยาไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทุกรายเสมอไป แม้ว่าจะมีการรับประทานยาที่ถูกต้อง


4. อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยแต่ไม่มีความรุนแรง เช่น คลื่นไส้ ปวดศีรษะ ตึงคัดเต้านม


5. อาจมีเลือดออกจากช่องคลอดเล็กน้อย หลังจากที่มีการรับประทานยา 1-2 วัน


6. ประจำเดือนรอบถัดไปอาจมาช้าหรือเร็วกว่าปกติ แต่ส่วนใหญ่จะมาตามคาดการณ์ ±3 วัน


7. ถ้าประจำเดือนมาช้ากว่าปกตินาน 3 สัปดาห์ ให้ทดสอบการตั้งครรภ์


8. ถ้ามีอาการปวดท้องน้อยหรือมีเลือดออกมาก ควรรีบไปพบแพทย์


9. หลังจากการรับประทานยาครบแล้วและรอรอบเดือนต่อไป ถ้ามีเพศสัมพันธ์ที่มิได้ป้องกัน จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ ต้องใช้วิธีอื่นป้องกันร่วมด้วย เช่น การใช้ถุงยางอนามัย


10. กรณีที่มีเพศสัมพันธ์ที่มิได้ป้องกันอีก ในช่วงที่ยังไม่ถึงเวลารับประทานยาเม็ดที่สอง หรือยังอยู่ภายใน 12 ชั่วโมงหลังจากได้ยาเม็ดแรกหรือขนาดเดียว 1.5 มิลลิกรัม ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาเพิ่มอีก


11. ไม่ควรใช้ยาเกิน 2 ครั้งในหนึ่งรอบเดือน และไม่ควรใช้สำหรับการมีเพศสัมพันธ์เป็นประจำ เพราะอาจไปรบกวนรอบเดือนจนผิดธรรมชาติได้


หลังจากกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแล้ว จะกลับมากินยาคุมกำเนิดแบบเดิมเมื่อไร


สำหรับผู้ที่เคยกินอยู่แล้ว ให้กินยาคุมกำเนิดต่อเนื่องตามปกติได้ในวันถัดไป ไม่จำเป็นต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อน และใช้ถุงยางอนามัยป้องกันขณะมีเพศสัมพันธ์ติดต่อกัน 7 วัน


สำหรับผู้ที่ไม่เคยกินยาคุมกำเนิด หรือหยุดกินยามาระยะหนึ่ง ให้เริ่มกินภายใน 5 วันแรกที่ประจำเดือนมา (รายละเอียดใน วิธีการใช้ยาคุมกำเนิด)


 


อ้างอิง


1. The World Health Organization (WHO), Family Planning: A Global Handbook for Providers, Baltimore, USA, 2007.


2. World Health Organization. Selected Practice Recommendations for Contraceptive Use,  Second edition, Department of Reproductive Health and Research Family and Community Health. Geneva, 2004

: กาย
: บทความทั่วไป
: มุมมองดี

หมายเหตุ เว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาวะ ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หรือ ถาม-ตอบปัญหาสุขภาพ หากมีปัญหาสุขภาพโปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ

เพื่อนแนะนำ : เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย, เราชนะรอบ 4, ยืมเงิน 3000 ด่วน, แอพผ่อนของ, กู้เงิน, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อไม่เช็ค บูโรถูกกฎหมาย