1. ยับยั้งการตกไข่และการเจริญของไข่ (follicle) โดยจะมีผลไปยับยั้งฮอร์โมนกระตุ้นการตกไข่ (luteinizing hormone-LH) และลดระดับของฮอร์โมนกระตุ้นโพรงไข่ (follicle-stimulating hormone-FSH)
2. ทำให้มูกที่ปากมดลูกข้นขึ้น มีผลทำให้ตัวอสุจิไม่สามารถผ่านได้
3. มีการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุโพรงมดลูก ให้อยู่ในสภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว
4. มีการเปลี่ยนแปลงเซลล์เยื่อบุท่อนำไข่ ทำให้อยู่ในสภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการผสมและฝังตัวของไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว และทำให้การเคลื่อนไหวของท่อนำไข่ช้าลง
อ้างอิง
1. จุราพร พงศ์เวชรักษ์.แนวทางการเลือกจ่ายยาคุมกำเนิดในร้านยา.พิมพ์ครั้งที่ 1.กรุงเทพมหานคร:ภาควิชาเภสัชกรรมคลินิก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์,2547
2. สุรศักดิ์ ฐานีพานิชสกุล.เทคโนโลยีการคุมกำเนิด.กรุงเทพมหานคร ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยาคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,2546.
3. The World Health Organization (WHO), Family Planning: A Global Handbook for Providers, Baltimore, USA, 2007.