อ่าน: 14946
Small_font Large_font

Tramadol (ทรามาดอล)

คำอธิบายพอสังเขป

ทรามาดอล (tramadol) ใช้สำหรับบรรเทาอาการปวด รวมถึงอาการปวดหลังผ่าตัด ยาเม็ดชนิดออกฤทธิ์นานใช้สำหรับบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง ผลของทรามาดอล (tramadol) คล้ายคลึงกันกับยาบรรเทาปวดกลุ่มนาร์โคติค เช่นโคเดอีน แต่มีฤทธิ์อ่อนกว่า ถึงแม้ว่าทรามาดอล (tramadol) ไม่ใช่ยาเสพติด แต่อาจทำให้เกิดการเสพติดทางใจหรือทางกายได้

ก่อนการใช้ยา

การแพ้ยา

โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆหรือมีประวัติการแพ้ยา ทรามาดอล (tramadol) หรือยาบรรเทาปวดชนิดเสพติด หรือ ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่นๆ เช่น อาหาร สารกันเสียหรือสี เป็นต้น

อาหารและเครื่องดื่มที่ต้องระวัง

หลีกเลี่ยงการดื่มเครืองดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะยานี้จะเสริมฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ในการกดระบบประสาทส่วนกลาง

ตั้งครรภ์

ABCDX

รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'C' สำหรับสตรีมีครรภ์

จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาที่ควบคุมอย่างดีในมนุษย์ หรือ ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์และสัตว์ถึงผลของยาต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรใช้ยานี้เมื่อมีการประเมินแล้วว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์

ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ เว้นแต่แพทย์พิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องใช้ เพราะยังไม่มีการศึกษาผลของทรามาดอล (tramadol) ต่อทารกในสตรีมีครรภ์ แต่ยังไม่มีรายงานการเกิดทารกวิรูป ในการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่ายามีความสัมพันธ์กับการเกิดทารกวิรูป โดยการให้ยาในขนาดสูง (ในขนาดที่เป็นพิษ) พบว่าตัวอ่อนมีน้ำหนักต่ำกว่าปกติ, ตายบ้างและเกิดทารกวิรูปบ้างในทารกที่เกิดใหม่ ก่อนใช้ยานี้โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังมีครรภ์หรือวางแผนจะมีครรภ์

ตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 2

ABCDX

รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'C' สำหรับสตรีมีครรภ์

จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาที่ควบคุมอย่างดีในมนุษย์ หรือ ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์และสัตว์ถึงผลของยาต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรใช้ยานี้เมื่อมีการประเมินแล้วว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์

ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ เว้นแต่แพทย์พิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องใช้ เพราะยังไม่มีการศึกษาผลของทรามาดอล (tramadol) ต่อทารกในสตรีมีครรภ์ แต่ยังไม่มีรายงานการเกิดทารกวิรูป ในการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่ายามีความสัมพันธ์กับการเกิดทารกวิรูป โดยการให้ยาในขนาดสูง (ในขนาดที่เป็นพิษ) พบว่าตัวอ่อนมีน้ำหนักต่ำกว่าปกติ, ตายบ้างและเกิดทารกวิรูปบ้างในทารกที่เกิดใหม่ ก่อนใช้ยานี้โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังมีครรภ์หรือวางแผนจะมีครรภ์

ตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 3

ABCDX

รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'C' สำหรับสตรีมีครรภ์

จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาที่ควบคุมอย่างดีในมนุษย์ หรือ ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์และสัตว์ถึงผลของยาต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรใช้ยานี้เมื่อมีการประเมินแล้วว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์

ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ เว้นแต่แพทย์พิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องใช้ เพราะยังไม่มีการศึกษาผลของทรามาดอล (tramadol) ต่อทารกในสตรีมีครรภ์ แต่ยังไม่มีรายงานการเกิดทารกวิรูป ในการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่ายามีความสัมพันธ์กับการเกิดทารกวิรูป โดยการให้ยาในขนาดสูง (ในขนาดที่เป็นพิษ) พบว่าตัวอ่อนมีน้ำหนักต่ำกว่าปกติ, ตายบ้างและเกิดทารกวิรูปบ้างในทารกที่เกิดใหม่ ก่อนใช้ยานี้โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังมีครรภ์หรือวางแผนจะมีครรภ์

กำลังให้นมบุตร

ทรามาดอล (tramadol) สามารถขับออกสู่น้ำนมได้และอาจทำให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ในทารกที่ได้รับนมมารดา ท่านอาจใช้ยาอื่นหรือหยุดให้นมบุตรในขณะใช้ยานี้ ท่านควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียจากการใช้ยา

เด็ก

ยังไม่มีข้อมูลเฉพาะเจาะจงในการเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของอายุกับฤทธิ์ของยาเม็ดทรามาดอล (tramadol tablets) ในผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีและยาเม็ดทรามาดอลชนิดออกฤทธิ์เนิ่น (tramadol extended-release tablets) ในผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

ผู้สูงอายุ

การศึกษาในผู้สูงอายุพบว่าทรามาดอล (tramadol) อยู่ในร่างกายนานกว่าผู้ใหญ่ที่อายุน้อยกว่าเพียงเล็กน้อย

ยาอื่นที่ใช้อยู่

ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่มียาสองชนิดแตกต่างกัน อาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม ในกรณีนี้แพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่น ๆ ที่จำเป็น เมื่อท่านต้องการจะรับประทานยาทรามาดอล (tramadol) ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้อยู่

  • คาร์บามาซีพีน (carbamazepine) อาจทำให้ฤทธิ์ของทรามาดอล (tramadol) ลดลงโดยทำให้ปริมาณของยาในร่างกายลดลง
  • ยากดระบบประสาทส่วนกลาง (ยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม) การใช้ยานี้ร่วมกับทรามาดอล (tramadol) อาจทำให้โอกาสในการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงเพิ่มขึ้นหรือทำให้ความเสี่ยงของการชักเพิ่มขึ้น
  • ยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งฤทธิ์ของเอนไซม์โมโนเอมีน อ็อกซิเดส ((monoamine oxidase (MAO) inhibitor activity)) เช่น ไอโซคาร์โบซาซิด (isocarboxazid), ฟีเนลซีน (phenelzine), โปรคาร์บาซีน (procarbazine), ซีเลจิลีน (selegiline), ทรานิลซัยโปรมีน (tranylcypromine) อาจทำให้โอกาสในการเกิดการชักเพิ่มขึ้น
  • ยารักษาจิตเภท เช่น คลอร์โพรมาซีน (chlopromazine), คลอซาปีน (clozapine), แฮโลเพอริดอล (haloperidol), ล็อกซาปีน (loxapine) หรือ
  • ยาอื่นที่ลดระดับการชัก อาจทำให้โอกาสในการเกิดการชักเพิ่มขึ้น

ภาวะโรคร่วม

ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้ยาทรามาดอล (tramadol) ท่านควรแจ้งแพทย์หากท่านมีสภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น

  • ผ้มีภาวะปวดท้องหรือปวดบริเวณกระเพาะอาหาร (รุนแรง) ทรามาดอล (tramadol) อาจบดบังอาการแสดงของอาการอื่นๆ
  • ผู้มีปัญหาการเสพติดหรือการฆ่าตัวตาย ไม่ควรรับประทานยาทรามาดอล (tramadol)
  • ผู้ติดแอลกอฮอล์หรือเคยมีประวัติหรือใช้ยาในทางที่ผิด อาจทำให้โอกาสในการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงของทรามาดอล (tramadol) เพิ่มขึ้น
  • ผู้มีอาการชักหรือเคยมีประวัติการชัก การใช้แอลกอฮอล์และการถอนยา การติดเชื้อในสมองหรือไขสันหลัง หรือศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนอาจทำให้ความเสี่ยงของการชักเพิ่มขึ้น
  • ผู้มีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ ยาทรามาดอล (tramadol) สามารถบดบังอาการแสดงของอาการนี้
  • ผู้เป็นโรคไตหรือโรคตับ อาจทำให้โอกาสในการเกิดอาการไม่พึงประสงค์เพิ่มขึ้น

การใช้ที่ถูกต้อง

ห้ามเพิ่มขนาดยาเอง หากท่านคิดว่าใช้ยานี้ไม่ได้ผลหลังจากที่ท่านใช้ยานี้ไปแล้วเป็นเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ควรกลับไปพบแพทย์

ขนาดยา

ขนาดยาของทรามาดอล (tramadol) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ หรือ เภสัชกร หรือ ตามที่ระบุไว้บนฉลากยา

จำนวนครั้งของการรับประทานยาทรามาดอล (tramadol)ในแต่ละวัน, ระยะห่างของการรับประทานยาในแต่ละครั้งและระยะเวลาที่ท่านรับประทานยาขึ้นอยู่กับสภาวะของผู้ป่วยแต่ละราย

รับประทานยานี้ตามฉลากเท่านั้น ห้ามรับประทานมากกว่า, บ่อยกว่าและติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเกินกว่าที่แพทย์สั่ง การใช้ยานี้มากเกินไปอาจทำให้โอกาสในการเกิดผลที่ไม่พึงประสงค์เพิ่มขึ้น

เมื่อลืมใช้ยา

หากท่านลืมรับประทานยาให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้ ถ้าใกล้ถึงมื้อต่อไปให้ข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานยาต่อในมื้อถัดไปในขนาดยาปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า

การเก็บรักษา

  • เก็บให้พ้นมือเด็ก
  • เก็บให้ห่างจากความร้อนและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
  • ห้ามเก็บยาเม็ดไว้ในห้องน้ำ ใกล้อ่างล้างมือหรือที่ชื้น เนื่องจากความร้อนหรือความชื้นอาจเป็นสาเหตุให้ยาเสื่อมคุณภาพ
  • ทิ้งยาเมื่อยาหมดอายุ

ข้อควรระวัง

ยานี้จะเสริมฤทธิ์ของแอลกอฮอล์และยากดระบบประสาทส่วนกลางตัวอื่นๆ (ยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม) ตัวอย่างของยากดระบบประสาทส่วนกลางคือยาต้านฮิสตามินหรือยาสำหรับไข้ละอองฟาง อาการแพ้อื่นๆ หรือไข้หวัด ยากล่อมประสาทหรือยานอนหลับ ยาบรรเทาปวดตามใบสั่งแพทย์หรือหรือกลุ่มยาแก้ปวดนาร์โคติค บาบิทูเรต (barbiturates) ยากันชัก ยาคลายกล้ามเนื้อหรือยาสลบรวมถึงยาสลบที่ใช้ทางทันตกรรม ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล ควรปรึกษาแพทย์, ทันตแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาใดๆ ตามรายการข้างต้นขณะที่ท่านกำลังใช้ยานี้

ยานี้อาจทำให้ผู้ป่วยบางรายมีอาการง่วงซึม เวียนศีรษะหรือมึนงง หากท่านมีอาการมึนงงหรือรู้สึกไม่ตื่นตัว ท่านไม่ควรขับรถ ใช้เครื่องจักรหรือทำกิจกรรมที่เสี่ยงอันตราย

อาจเกิดอาการเวียนศีรษะ มึนงงหรือหมดสติขึ้น โดยเฉพาะเมื่อท่านลุกขึ้นทันทีจากท่านอนหรือท่านั่ง อาจช่วยบรรเทาปัญหานี้ได้โดยการค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างช้าๆ

อาจเกิดอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนขึ้น โดยเฉพาะหลังจากการรับประทานยาในครั้งแรก ผลเหล่านี้อาจหายไปเมื่อท่านนอนพักชั่วขณะ แต่ถ้าอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควรกลับไปพบแพทย์หรือทันตแพทย์ การนอนสักชั่วขณะอาจช่วยบรรเทาอาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ บางอย่าง เช่น อาการเวียนศีรษะหรือมึนงงที่อาจเกิดขึ้น

ก่อนที่จะทำการใด ๆ เกี่ยวกับการผ่าผัด (รวมถึงการผ่าตัดทางทันตกรรม) หรือการรักษาฉุกเฉิน โปรดแจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ทุกครั้งว่าท่านกำลังใช้ยานี้อยู่ การใช้ทรามาดอล (tramadol) ร่วมกับยาอื่นที่ใช้ในระหว่างการผ่าตัดหรือทางทันตกรรมหรือการรักษาฉุกเฉินอาจทำให้อาการไม่พึงประสงค์เพิ่มขึ้น

หากท่านคิดว่าท่านหรือผู้อื่นอาจได้รับทรามาดอล (tramadol) เกินขนาด ควรให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน สัญญาณของการได้รับยาเกินขนาดได้แก่ อาการชักและรูม่านตาหดเล็ก

อาการไม่พึงประสงค์

ยาอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์บางอย่างที่ไม่ต้องการ ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับผู้ใช้ยาทุกราย แต่หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม

ก. ต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน หากท่านมีอาการของการได้รับยาเกินขนาดดังนี้

  • ความสามารถในการรับรู้เปลี่ยนแปลงไป เจ็บหน้าอกหรือรู้สึกอึดอัด หายใจลำบาก หายใจสั้น หัวใจเต้นช้าหรือเต้นผิดจังหวะ เหนื่อยผิดปกติ
  • ชัก การรับรู้หรือการตอบสนองลดลง เวียนศีรษะหรือหมดสติ สูญเสียแรงตึงตัวของกล้ามเนื้อ มึนงง ไม่มีสติ รูม่านตาหดเล็ก ง่วงนอนรุนแรง

ข. ควรพบแพทย์ทันทีหากมีอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้เกิดขึ้น

พบน้อยหรือน้อยมาก

  • แน่นท้อง ปวดแน่นท้องเนื่องจากมีแก๊สมาก อาหารไม่ย่อย
  • เป็นแผลพุพองใต้ผิวหนัง มองเห็นภาพเบลอ เจ็บหน้าอกหรือรู้สึกอึดอัด
  • การเดินเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่สมดุล สั่น ชัก
  • ปัสสาวะสีเข้ม ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะถี่มาก
  • เวียนศีรษะหรือมึนงงเมื่อลุกขึ้นจากท่านอนหรือท่านั่ง หมดสติ ชีพจรเต้นเร็ว อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น ชีพจรผิดปกติ สูญเสียความทรงจำ หายใจสั้น เหงื่อออก มือหรือเท้าสั่น แสดงให้เห็นถึงความกังวลใจในสิ่งที่ทำเป็นกิจวัตร ชีพจรหรือขาอ่อนลงหรือไม่มี
  • ความรู้สึกต่อการสัมผัสผิดปกติหรือลดลง ไร้ความรู้สึกหรือรู้สึกซ่าบริเวณใบหน้า นิ้วมือหรือนิ้วเท้าไร้ความรู้สึก รู้สึกซ่า ปวดหรืออ่อนล้าบริเวณมือหรือเท้า ปวดแขน ขาหรือหลังช่วงล่าง โดยเฉพาะปวดบริเวณเมื่อออกแรงมากๆ ปวดหรือรู้สึกไม่สบายแขน กราม หลังหรือคอ ปวดในกระเพาะอาหาร ข้างๆ หรือช่องท้อง อาจจะลามไปหลัง มือหรือเท้าเป็นสีซีด สีน้ำเงินหรือเย็น มีไข้
  • การมองเห็น การได้ยินหรือความรู้สึกไม่เหมือนเดิม
  • มีอาการปวดเกร็งรุนแรง คลื่นไส้รุนแรง มีอาการแดงหรือบวมรุนแรงและคันตามผิวหนัง ตัวเหลืองตาเหลือง

ค. อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาเนื่องจากร่างกายจะปรับตัวเข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนานหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน

พบบ่อย

  • ปวดกระเพาะอาหารหรือช่องท้อง ท้องผูก ท้องร่วง เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
  • สั่น วิตกกังวล ไอ หมดกำลังใจ เวียนศีรษะ มึนงง รู้สึกโกรธหรือกระตือรือร้น รู้สึกเสียใจหรือโล่ง รู้สึกหนาวผิดปกติ ไข้ รู้สึกไม่สบายตัวหรือรู้สึกไม่สบาย ปวดศีรษะ สูญเสียความสนใจหรือความพึงพอใจ กระวนกระวาย กระสับกระส่าย ง่วงนอนหรือง่วงซึมผิดปกติ หงุดหงิด รู้สึกตื่นเต้นผิดปกติ
  • ปากแห้ง แสบร้อนหน้าอก คันผิวหนัง ปวดข้อ
  • สูญเสียความแข็งแรงหรือรู้สึกอ่อนล้า เหนื่อยล้า เหนื่อยหรืออ่อนล้าผิดปกติ เจ็บและปวดกล้ามเนื้อ
  • หน้าแดง คอแดง ปวดแขน ปวดหน้าอกส่วนบน น้ำมูกไหล หนาวสั่น ผื่นผิวหนัง เจ็บคอ คัดจมูก เหงื่อออก รู้สึกเหนื่อย

พบน้อยหรือน้อยมาก

  • ฝันผิดปกติ
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักเพิ่มหรือลด
  • ปวดกระเพาะปัสสาวะ ปัสสาวะมีสีแดงหรือขุ่น ปัสสาวะลำบาก ปวดแสบปวดร้อนเวลาถ่ายปัสสาวะ
  • ผิวหนังพุพอง ตกสะเก็ด ระคายเคือง คันหรือแดง ปวดหรือเจ็บร่างกาย ผิวหนังแตก แห้ง เป็นสะเก็ด ร้อนวูบวาบและแดงที่ผิวหนัง คัน ปวดแดง บวม ตึง ร้อนบริเวณผิวหนัง ผิวหนังเปลี่ยนสี
  • การได้ยินเปลี่ยนแปลง
  • มีอาการคล้ายไข้หวัด สับสน ไอมีเสมหะ คัดจมูก
  • ความสนใจทางเพศลดลง อวัยวะเพศไม่แข็งตัว สูญเสียสมรรถภาพทางเพศ ความต้องการทางเพศลดลง
  • หายใจลำบาก เคลื่อนไหวลำบาก ไม่มีสมาธิ
  • มีน้ำไหลออกจากหู ปวดและเจ็บในหู รู้สึกร้อน กระวนกระวายใจ
  • ปวดศีรษะ ปวดตึงข้อ ข้อบวม ปวดหลังหรือปวดข้าง ๆ ปวดหรือเกร็งกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อบาดเจ็บ ปวดคอ เหงื่อออกตอนกลางคืน ปวดเอว ปวดรอบๆ ตา ปวดข้อ ข้อบวมแดง

ง. หลังจากที่ท่านหยุดรับประทานยานี้ ร่างกายจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อปรับตัว ระยะเวลาที่ใช้ขึ้นกับปริมาณและระยะเวลาของการรับประทานยา ในช่วงนี้ควรพบแพทย์หากท่านมีสัญญาณของอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้

  • วิตกกังวล ปวดร่างกาย ท้องร่วง ชีพจรเต้นเร็ว น้ำมูกไหลหรือจาม ขนลุก ความดันโลหิตสูง เหงื่อออกมาก หาว เบื่ออาหาร คลื่นไส้หรืออาเจียน กระวนกระวาย กระสับกระส่ายหรือโมโหง่าย หนาวสั่น ปวดเกร็งกระเพาะอาหาร มีปัญหาในการนอน รูม่านตาขยายผิดปกติ อ่อนล้า

กลุ่มยา

ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้

ชื่อทางการค้า

ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้

Amanda cap, Anadol (อนาดอล), Analab (อนาแลป), Madol cap, Madola (มาโดล่า), Matradol, Modsenal cap (มอดซีนาล แคป), Pacmadol (แพคมาดอล), Paindol (เพนดอล), Ramadol-100 (รามาดอล-100), Rofy cap, Sefmal (เซฟมอล), Tamolan (ทาโมแลน), Tracine (ทราซีน), Tradolgesic (ทราดอลเจสิค), Tramada (ทรามาดา), Tramadil capsule (ทรามาติล แคปซูล), Tramadol Stada, Tramadol Utopian, Tramal cap, Tramal Retard tab, Tramamed (ทรามาเมด), Tramax (ทราแม๊กซ์), Tramazac, Tramoda (ทราโมดา), Trasic, Traumed (ทรอเมด), Trosic (โทรสิค), Volcidol cap (วอลซีดอล), Volcidol tab (วอลซีดอล)

ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว

แหล่งอ้างอิง

  1. Micromedex Thomson Healthcare. Advice for the Patient Drug Information in Lay Language USP DI, volume ll. 25th ed. Massachusetts: Micromedex Thomson Healthcare, 2005: 1600-2.
  2. Joint Formulary Committee. British National Formulary. 57th ed. London: British Medical Association and Royal Pharmaceutical Society of Great Britain, 2009: 234, 41-2.
  3. Klasco RK (Ed): DRUGDEX® System (electronic version). Thomson Micromedex, Greenwood Village, Colorado, USA. Available at: http://www.thomsonhc.com (cited: Oct 6, 2009).
  4. Sunthornraj N, Fun LF, Evangelista LF, Labandilo LD, Romano MB, Afable JO, et al. MIMs Thailand. 106th ed. Bangkok: MediMedia (Thailand); 2007.

นรวร เจนณรงค์ , หทัยรัตน์ คังคะสุวรรณ
โพยม วงศ์ภูวรักษ์
24 สิงหาคม 2552 17 ตุลาคม 2553
เพื่อนแนะนำ : เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย, เราชนะรอบ 4, ยืมเงิน 3000 ด่วน, แอพผ่อนของ, กู้เงิน, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อไม่เช็ค บูโรถูกกฎหมาย